ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าฟอสซิลยังคงมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในปี 2568 ความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจจะโต 1% ชะลอลงจาก 2.8% ในปี 2567 จากการใช้ไฟฟ้าในภาคการผลิตและภาคบริการที่เพิ่ม
ขณะที่ ความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคการผลิตคาดว่าจะโต 1.4% และภาคบริการคาดว่าจะโต 0.4% ชะลอตัวจาก 2.9% และ 2.6% ในปีก่อนหน้า ตามลำดับ
โดยการใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจาก 3 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ผลิตภัณฑ์โลหะ อาหารและเครื่องดื่ม และเคมีภัณฑ์และปิโตรเลียม รวมกันคิดเป็นกว่า 66% ของการใช้ไฟฟ้าภาคผลิตทั้งหมด ซึ่งในปี 2568 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เฉลี่ยของ 3 อุตสาหกรรมดังกล่าว คาดจะขยายตัวเพียง 1.2% ลดลงจาก 2.4% ในปี 2567 แสดงถึงกิจกรรมการผลิตที่โตช้าลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้ภาพรวมความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคการผลิตในปี 2568 เติบโตช้าลง
ขณะที่ การใช้ไฟฟ้าภาคบริการก็มีแนวโน้มชะลอตัวเช่นกัน เนื่องจากกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจภาคบริการทยอยฟื้นตัวและกลับมาดำเนินการได้เกือบเป็นปกติแล้วตั้งแต่ช่วงปี 2567 หลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โควิด-19 ส่วนการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนคาดว่าจะโตขึ้น 2% ในปี 2568 ชะลอตัวจาก 5.2% ในปี 2567 ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังระบุว่า โรงไฟฟ้าฟอสซิลเอกชนยังคงมีความสำคัญ จากความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในด้านคุณภาพและความเสถียรของปริมาณไฟฟ้า ซึ่งพลังงานหมุนเวียนยังไม่สามารถตอบโจทย์ได้ในปัจจุบัน นอกจากนี้ราคาไฟฟ้าฟอสซิลที่ทำสัญญาซื้อขายกับผู้ใช้งานในนิคมอุตสาหกรรมมักเป็นราคาที่มีส่วนลดจากค่าไฟฐานและค่า Ft ทำให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมีแรงจูงใจในการเลือกใช้ไฟฟ้าจากเอกชนมากขึ้น
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้ว่าการเติบโตของรายได้จากการขายไฟฟ้าจะมีเเนวโน้มชะลอลงในปี 2568 แต่ทิศทางในระยะข้างหน้ายังคงเป็นบวกจากอุปสงค์ที่จะยังเติบโต โดยเฉพาะจากผู้ประกอบการใหม่ เช่น ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง แต่ก็มีความเสี่ยง เช่น ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2567-2580 (ร่าง PDP 2024) มีเป้าหมายในการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลและเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในระบบไฟฟ้า
โดยกำลังการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิลมีแนวโน้มลดลงจาก 38,108 เมกะวัตต์ ในปี 2566 สู่ 30,453 เมกะวัตต์ในปี 2580 หรือลดลงราว 20% ขณะที่สัดส่วนอุปทานเชื้อเพลิงฟอสซิลคาดว่าจะลดลงจาก 72% ในปี 2566 สู่ 49% ในปี 2580 แต่ในระยะยาวการผลิตไฟฟ้าโดยเชื้อเพลิงฟอสซิลจะมีทิศทางลดลงได้อีก เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2608
การแปรปรวนของสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบมาจากภาวะโลกร้อน ทำให้ภาคการผลิตไฟฟ้ามีความจำเป็นในการปรับตัวและการเปลี่ยนผ่านสู่เชื้อเพลิงประเภทใหม่ โดยเฉพาะแรงกดดันจากกระแสรักษ์โลกและการพัฒนาของเทคโนโลยี ส่งผลให้ธุรกิจจำเป็นต้องมีการปรับตัวสู่พลังงานทางเลือกใหม่ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนในการพัฒนาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมีแนวโน้มหันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น เนื่องจาก พ.ร.บ. Climate Change และกฎระเบียบการค้าโลกด้านสิ่งแวดล้อมที่เคร่งครัดมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรป ที่ใช้มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) ซึ่งทำให้ผู้ผลิตในนิคมอุตสาหกรรมเริ่มหันมาใช้พลังงานหมุนเวียนมากยิ่งขึ้น เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดส่งออก
และ อุปทานก๊าซธรรมชาติจากแหล่งในประเทศมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ต้องมีการนำเข้า LNG หรือก๊าซธรรมชาติเหลว ที่จะเพิ่มต้นทุนในการผลิตไฟฟ้า ดังนั้นจึงต้องรอการเจรจาเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา หรือ OCA ซึ่งเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ยังไม่ทราบผลแน่ชัดและต้องใช้ระยะเวลา.
บุญช่วย ค้ายาดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปี68สินเชื่อระบบแบงก์ไทยหืดจับ
ปี 2568 ยังเป็นอีกปีที่ต้องจับตากับทิศทางของเศรษฐกิจไทย เพราะยังมีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งบวกและลบ ที่จะเข้ามามีผลกับภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสถานการณ์กดดันจากปัญหาหนี้ครัวเรือน
แผนดัน ‘เกษตรครบวงจร’
อุตสาหกรรมเกษตร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย และที่ผ่านมาเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนไปได้ด้วยสินค้าเกษตร แต่ก็มีบางช่วงที่ติดขัดและไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ จากปัจจัยกระทบต่างๆ
เคาต์ดาวน์ปลอดภัยส่งท้ายปี
เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความหวัง โดยในปีนี้สถานที่จัดงาน Countdown ทั่วประเทศไทยหลายหน่วยงานได้เตรียมกิจกรรมไว้ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและสัมผัสความงดงาม
แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน
การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ
ของขวัญรัฐบาล
อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว
ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันเวทีโลก
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ