ว่าด้วยเรื่องแฟชั่นการแต่งตัว ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ ของผู้นำประเทศ อย่าง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ส่วนใหญ่เจ้าตัวจะเน้นใส่ผ้าไทยตามสไตล์เจ้าแม่ซอฟต์พาวเวอร์
และด้วยมีความชอบส่วนตัวในผ้าไทย จึงเห็นนายกฯใส่ชุดผ้าไทยประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องต้อนรับแขกจากต่างประเทศที่มาเยือนไทย หรือช่วงที่ต้องบินไปร่วมงานในเวทีโลกจะเห็นนายกฯอิ๊งค์หยิบชุดผ้าไทยมาใส่ไม่ซ้ำแบบ เพื่อใช้โอกาสให้ต่างชาติได้เห็น ถือเป็นการขายของดีเมืองไทยไปในตัว
โดยชุดผ้าไทยของนายกฯอิ๊งค์ไม่จำเป็นต้องแพงมาก ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าและชุดที่ช่วยอุดหนุนชาวบ้านเวลาไปลงพื้นที่ บ้างก็ซื้อผ่านออนไลน์ และนอกจากนายกฯอิ๊งค์จะใส่ชุดผ้าไทยของตัวเองแล้ว บ้างก็ยืมชุดคุณแม่ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มาใส่ในหลายโอกาส โดยหลายชุดเมื่อนายกฯอิ๊งค์นำมาใส่เป็นที่สะดุดตา และสามารถใส่ด้วยกันได้พอดี
แต่ทว่านอกจากยืมเสื้อผ้าแล้ว ก็มีเรื่องกระเป๋าและเครื่องประดับที่นายกฯอิ๊งค์ได้ยืมมาด้วยเช่นกัน โดยครอบครัว “ชินวัตร” ที่มีผู้หญิง ทั้งคุณแม่พจมาน “เอม” พินทองทา คุณากรวงศ์ พี่สาว และนายกฯอิ๊งค์
ที่ทุกคนต่างก็แต่งตัวกันจัดเต็ม และใส่ไม่ค่อยซ้ำแบบ โดยเฉพาะนายกฯอิ๊งค์ที่เจ้าตัวบอกว่าพอมาทำหน้าที่อยู่ตรงนี้ก็อาจจะใส่ซ้ำแบบมากไม่ได้เหมือนก่อน แต่ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องประดับก็ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่
เพราะใช้วิธียืมคุณแม่และพี่สาว ภายในครอบครัวจะมีการแชร์เสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องประดับกันใส่ แต่ใครยืมอะไรไปต้องลงบัญชีไว้ด้วย ว่ายืมกี่ชิ้น วันไหน เพื่อกันลืมเพราะของมีเยอะมาก โดยคุณหญิงพจมานเป็นคนคิดไอเดียเรื่องการลงบัญชีไว้ อย่างเครื่องประดับที่นายกฯอิ๊งค์ใส่วันแต่งงานก็ยืมคุณแม่เช่นกัน
ส่วนถ้าใครจะซื้อของชิ้นใหม่ เช่น ซื้อกระเป๋า บางทีต้องโทรมาถามกันก่อนว่าใครมีรุ่นนี้ แบบนี้ สีนี้หรือยัง เพื่อไม่ให้ซื้อมาซ้ำกัน เพราะเคยซื้อซ้ำแล้ว ต้องกลับไปขอเปลี่ยนรุ่นเพื่อไม่ให้ชนกัน
นายกฯอิ๊งค์ บอกว่าไม่จำเป็นต้องซื้อของใหม่ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องเป็นของแพง และสามารถแชร์กันในครอบครัวได้ ยกเว้นอย่างเดียวที่ใส่ด้วยกันไม่ได้คือ “รองเท้า” เพราะคนละไซส์กัน
ถึงว่าเห็นนายกฯออกหน้าสื่อฯทุกวัน เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ไม่ค่อยซ้ำ เพราะมีเทคนิคหยิบยืม แชร์กันใส่ในครอบครัวนี่เอง.
บรรจง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ออร่าจับมาก
ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย
“ไม่ต้องรอมติพรรค”
“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ทันเกมทักษิณ
โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”
ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ
หัวหน้าแก๊งเด็ก
พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย
ไร้บอดี้การ์ด
ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน