รู้ก่อนช็อปปิ้งออนไลน์

เกิดข่าวใหญ่สุดช็อกในแวดวงการเงิน หลังจากจู่ๆ มีลูกค้าธนาคารไทยจำนวนมากออกมาร้องเรียนว่า บัญชีของพวกเขาโดนตัดเงินทีละจำนวนน้อยๆ แต่ถี่ๆ หลายรายการ โดยข้อความระบุว่า Purchase via EDC ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการซื้อสินค้าบริการผ่านบัตรเดบิต และมาตัดเงินจากบัญชีธนาคารอีกที โดยรายการที่เกิดขึ้นจะพบมากในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้เสียหายมีมากถึง 20,000 คน
    หลังจากเกิดเป็นข่าวที่สื่อกระแสหลักนำไปตีแผ่ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทยก็ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจง มีเนื้อหาดังนี้
    ตามที่ปรากฏข่าวพบลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรเดบิตจำนวนมากประสบปัญหาการทำรายการชำระเงินโดยที่ไม่ได้ทำธุรกรรมด้วยตนเอง ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ได้รับทราบปัญหาและได้ตรวจสอบสถานการณ์ดังกล่าว โดยเบื้องต้นพบว่า มิได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร แต่เป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และไม่ใช่แอปดูดเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว

ขณะนี้ธนาคารเจ้าของบัตรได้ดำเนินการระงับการใช้บัตรของลูกค้าที่มีรายการผิดปกติ และติดต่อลูกค้า รวมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบร้านค้าที่มีธุรกรรมที่ผิดปกติเหล่านี้
     นอกจากนี้ ลูกค้าที่ตรวจสอบพบความผิดปกติของรายการธุรกรรมด้วยตนเอง สามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์หรือสาขาของธนาคารผู้ออกบัตรเพื่อแจ้งตรวจสอบและยืนยันการทำธุรกรรมในทันที โดยธนาคารจะดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเร่งคืนเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายตามขั้นตอนของธนาคารโดยเร็วต่อไป
    ธนาคารแห่งประเทศไทยและสมาคมธนาคารไทย ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยธนาคารพาณิชย์มีระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและมีการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบรายการที่ผิดปกติ ธนาคารจะแจ้งลูกค้าเพื่อตรวจสอบและยืนยันรายการธุรกรรม และพร้อมจะดูแลลูกค้าด้วยความรับผิดชอบเสมอ
    จากแถลงการณ์ดังกล่าว จับใจความได้ดังนี้ 1.ธนาคารยืนยันว่า ความเสียหายในครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากการรั่วไหลของข้อมูลจากฝั่งธนาคาร 2.ผู้เสียหายทั้งหมดไปธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ 3.ไม่ได้เกิดกรณีแอปดูดเงิน 4.ธนาคารเจ้าของบัญชียินดีคืนเงินให้ลูกค้า กรณีไม่ได้ทำธุรกรรมจริง 5.ลูกค้าต้องตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติของตัวเอง
    เมื่อทั้งหมดมีข้อสรุปว่า ปัญหามาจากการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากเว็บไซต์ในต่างประเทศ ดังนั้นก่อนช็อปปิ้งก็ควรจะมีความรู้ในการตรวจสอบด้วยตัวเองก่อนว่า ควรจะตัดสินใจซื้อสินค้าจากร้านค้าหรือเว็บไซต์นั้นหรือไม่
    1.ช็อปเฉพาะร้านค้าบนเว็บไซต์ที่ใช้ HTTPS เพราะไซต์ที่ใช้ HTTPS ช่วยให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ส่งทั้งหมดจะได้รับการเข้ารหัส และอาชญากรนั้นจะไม่สามารถดักขโมยข้อมูลของคุณได้
     2.หลีกเลี่ยงใช้บัตรเครดิตในการช็อปปิ้ง และใช้บัตรเดบิตเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์ แต่สำหรับบัญชีบัตรเดบิตที่ใช้ช็อปปิ้งออนไลน์ควรมีวงเงินจำกัดเฉพาะที่จะใช้ซื้อสินค้าเท่านั้น ไม่ควรเก็บเงินในบัญชีดังกล่าวเยอะเกินไป
    3.ควรตรวจสอบใบแจ้งยอดใช้จ่ายบ่อยๆ หรือจะให้คุณสมัครรับ SMS เพิ่มในบัญชีของคุณ
    4.ตั้งรหัสผ่านที่รัดกุม คาดเดายาก ใช้การผสมตัวอักษร (ทั้งตัวพิมพ์ใหญ่และตัวพิมพ์เล็ก) ตัวเลขและอักขระพิเศษ
     5.อย่าใช้ฟรี WI-FI สาธารณะที่ไม่รู้ที่มาที่ไปในขณะช็อปออนไลน์ และช็อปผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวเท่านั้น
    6.ช็อปผ่านแอปพลิเคชัน หรือผู้ขายที่น่าเชื่อถือเท่านั้น
    นี่คือเคล็ดลับเบื้องต้นที่จะทำให้ปลอดภัยที่สุดในการช็อปปิ้งออนไลน์. 

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความสำเร็จของแบรนด์กับการใช้Meta

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีประชากร 700 ล้านคน และมี GDP รวมประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก

หวยเกษียณแก้ปัญหาแก่ก่อนรวย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ หรือหวยเกษียณ ของกองทุนการออมแห่งชาติ ซึ่งนี่ถือเป็นโครงการที่รัฐบาลพยายามส่งเสริมการออมของประชาชนในประเทศ

เจ็บแล้วจบ

หลังการบริหารงานของรัฐบาลเศรษฐาได้เข้ามาเดินหน้ามาตรการประชานิยมลด แลก แจก แถม จัดเต็ม ตามที่สัญญากันไว้ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะนโยบายด้านพลังงาน ลดค่าไฟฟ้า

3แผนกรีนดันอุตฯไทยรักษ์โลก

เทรนด์รักษ์โลกยังมีมาอย่างต่อเนื่อง และตลอดปี 2567 ที่ผ่านมานี้หลายหน่วยงาน หลายบริษัทก็ยังไม่ทิ้งอุดมการณ์อันแรงกล้านี้ และยังแห่ประกาศแผนดำเนินงานเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมกันอย่างคึกคัก

เร่ง“ปรับ”ก่อน(ถูก)“เปลี่ยน”

ยอดขายรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา หลายคนคงตกใจ เพราะหดตัวลงถึง 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีแนวโน้มว่าทั้งปีจะหดตัวลงอย่างรุนแรงที่สุดในรอบ 15 ปี

เปิดไม้เด็ดธุรกิจขนาดเล็กสู้ในตลาด

หากย้อนเวลาไปเมื่อหลายปีก่อน ธุรกิจที่มีทุนหนาและมีส่วนแบ่งการตลาดมาก มักจะถูกมองว่าเป็น “ปลาใหญ่” ที่ได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ทุนน้อยกว่าซึ่งเปรียบเหมือน “ปลาเล็ก” จนเป็นที่มาของคำว่า “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” หนึ่งในข้อได้เปรียบที่เห็นชัดที่สุดคือ การมี Economy of Scale หรือ การประหยัดต่อขนาด ซึ่งหมายถึง การผลิตสินค้าหรือบริการในจำนวนที่มากพอที่จะทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำลง พูดง่ายๆ ก็คือ “ยิ่งผลิตมากขึ้น ต้นทุนการผลิตยิ่งลดลง และยิ่งคุ้มค่ามากขึ้น” โดยต้นทุนในการผลิตสินค้าหรือบริการจะแบ่งออกเป็น ต้นทุนคงที่ (fixed cost) และต้นทุนผันแปร (variable cost) ต้นทุนคงที่ คือ ต้นทุนที่ธุรกิจต้องจ่ายเป็นจำนวนคงที่ ไม่ว่าจะผลิตสินค้าหรือบริการในปริมาณเท่าใดก็ตาม เช่น ค่าเช่าพื้นที่ ค่าเครื่องจักรอุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ส่วนต้นทุนผันแปร