'วันพ่อ-วันชาติ-วันดินโลก'

รู้มั้ย.....

"๕ ธันวาคม" ของทุกปี เป็นวันอะไร?

ทุกคนรู้.....

"๕ ธันวาคม" เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร"

พระผู้อันเป็นที่รักและเทิดทูนบูชายิ่งของปวงชนชาวไทย ในสถานะ "พ่อของชาติ"

"๕ ธันวาคม" พ่อบนฟ้าพระองค์นั้น คือสายใยแห่งรักหลอมแต่ละใจภักดิ์พันผูกรักสู่สามัคคี วันนี้จึงถือเป็น "วันชาติ"

"๕ ธันวาคม" ไม่เพียงเป็น "วันพ่อ" และ "วันชาติ" ของไทยเท่านั้น แต่ปี ๒๕๕๗ ยังเป็นวันของ "ชาวโลก" ด้วยอีกวัน

โดยมติที่ประชุมใหญ่ "สหประชาชาติ" รับรองให้ "วันที่ ๕ ธันวาคม" ของทุกปี

เป็น "วันดินโลก" (World Soil Day)!

ดังนั้น ๕ ธันวาคม คือ "วันนี้" ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ๑๙๓ ประเทศ จัดงานเฉลิมฉลอง "วันดินโลก" ทั่วกันด้วย

ก็นำมาย้ำเพื่อจำบนความภาคภูมิใจ....

"๕ ธันวา." นอกจากเป็น "วันพ่อ, วันชาติ" ของไทยเราแล้ว       

๕ ธันวา.ยังเป็น "วันดินโลก" ของชาวโลกด้วย!

เพื่อเข้าถึงเนื้อหา "พระอัจฉริยภาพ" แห่งพระองค์ด้านดินเพื่อมวลมนุษยชาติ

ผมจะนำ "ลำดับเหตุการณ์" ที่ "กรมพัฒนาที่ดิน" ประมวลไว้ส่วนหนึ่งมาเผยแพร่ในวาระอันเป็นมงคลนี้ เพื่อซึมซับ-รับทราบโดยทั่วกัน            

...................................

"ลำดับเหตุการณ์" ความเป็นมา "วันดินโลก"

* การประชุม "สภาโลกแห่งปฐพีวิทยา" (World Congress of Soil Science) ที่กรุงเทพฯ เมื่อ 14-21 สิงหาคม 2545

ในงานนี้ "กรมพัฒนาที่ดิน" จัดนิทรรศการ "เฉลิมพระเกียรติ"

เรื่อง "His Majesty the King's Vision, Leadership and Commitment on Sustainable Land Development Activities in Thailand"

เป็นที่ประทับใจนักปฐพีวิทยาที่มาร่วมประชุมมาก

สมาชิกสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ (International Union of Soil Science: IUSS) ทั่วโลก ประจักษ์ถึงพระราชวิสัยทัศน์ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ในการบริหาร "ทรัพยากรดิน" อย่างยั่งยืน

ทรงให้ความสำคัญกับทรัพยากรดิน ทรงเป็นผู้นำ และปฏิบัติเกี่ยวกับการปรับปรุงแก้ไขปัญหาดินด้วยพระองค์เอง

ที่ประชุมจึงเสนอให้ "วันที่ 5 ธันวาคม" ซึ่งเป็นวันพระบรมราชสมภพของพระองค์ เป็น "วันดินโลก"

* วันที่ 9-15 กรกฎาคม 2549 ในการประชุมดินโลก (World Congress of Soil Science)ครั้งที่ 18 ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

"นายประสาท เกศวพิทักษ์" นายกสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย "นายสมพงษ์ ถีรวงศ์" ที่ปรึกษาสมาคมฯ          "ศาสตราจารย์ ดร.เอิบ เขียวรื่นรมณ์" อุปนายกฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ "ศาสตราจารย์ ดร.อัญชลี สุทธิประการ" กรรมการสมาคมฯ

เดินทางไปร่วมประชุมกรรมการ IUSS และติดตามเรื่องการกำหนดวันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันดินโลก

* ปี พ.ศ. 2553 มีการประชุมดินโลก ครั้งที่ 19 ที่เครือรัฐออสเตรเลีย

ที่ประชุมกรรมการบริหารสมาพันธ์พิจารณาญัตติว่าด้วยการ "ถวายพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ 9 และมีมติ 3 ประการ

คือ เห็นสมควรขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัล

"นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม" (Humanitarian Soil Scientist) แด่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณให้เป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกัน ทั้งกราบบังคมทูลเชิญให้ดำรงตำแหน่ง "A Life membership"

และขอพระบรมราชานุญาตให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็น "วันดินโลก"

* ปี 2550-2554 "ดร.สันทัด โรจนสุนทร" ราชบัณฑิต ดำรงตำแหน่ง "นายกสมาคมดินและปุ๋ยแห่งประเทศไทย" ดำเนินการเรื่องถวายพระเกียรติแด่ "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ตามที่วงการ "ปฐพีวิทยานานาชาติ" ยกย่อง

และขอพระบรมราชานุญาตให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็น "วันดินโลก"

โดยมอบหมายให้ "ศาสตราจารย์ ดร.เอิบ เขียวรื่นรมณ์" ทำหน้าที่ประสานงานกับกรรมการบริหาร IUSS ดำเนินการตามมติทั้ง 3 ประการ

"ศาสตราจารย์ ดร.เอิบ เขียวรื่นรมณ์" ได้ติดต่อประสานงานกับ "ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สตีเฟน นอร์ตคลิฟฟ์" เพื่อดำเนินการต่อ

และเป็นผู้คิดชื่อรางวัลนี้ "Humanitarian Soil Scientist" แล้วนำเสนอให้ "ราชบัณฑิต" แปลเป็นภาษาไทย

* เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2555 "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ "ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.สันทัด โรจนสุนทร"

นำ "ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สตีเฟน นอร์ดคลิฟฟ์" กรรมการบริหารและอดีตเลขาธิการ IUSS พร้อมคณะผู้บริหาร IUSS

เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล "นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม" (Humanitarian Soil Scientist) เป็นพระองค์แรกของโลก

* วันดินโลก (World Soil Day) เกิดขึ้นเนื่องจาก IUSS เห็นว่า การถ่ายทอดความรู้ทางด้านดินและการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของดินต่อมนุษยชาติ และสภาพแวดล้อมให้แก่ประชาชนในประเทศต่างๆ ยังไม่เพียงพอ

จึงควรมี "วันดินโลก" เพื่อให้สามารถจัดกิจกรรมรณรงค์ และเผยแพร่ความรู้เรื่องดินพร้อมกันทั่วโลกได้อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง

ทั้งนี้ คณะกรรมการ IUSS มีความเห็นพ้องกันว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ให้ความสำคัญกับทรัพยากรธรรมชาติ

ซึ่งรวมถึงทรัพยากรดิน และทรงประสบความสำเร็จในการปรับปรุงแก้ไข และการอนุรักษ์ทรัพยากรดิน จนเป็นที่ประจักษ์โดยทั่วกัน

จึงมีมติให้ "วันที่ 5 ธันวาคม" ซึ่งเป็นวัน "คล้ายวันพระบรมราชสมภพ" เป็น "วันดินโลก"

ดังนั้น ในวันที่ 16 เมษายน 2555 หลังจากที่ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัล "นักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม" แล้ว

ผู้บริหาร IUSS ได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระบรมราชานุญาตให้ "วันที่ 5 ธันวาคม" ของทุกปี เป็น "วันดินโลก"

* ธันวาคม 2555 ที่ประชุมสภามนตรี "องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ" (FAO)

ได้ประกาศให้มีการจัดตั้ง "วันดินโลก" ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคม ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ IUSS เสนอ

และ FAO ได้นำเรื่องวันดินโลก เสนอไปยังที่ประชุมสมัชชาใหญ่ "องค์การสหประชาชาติ" เพื่อขอการรับรอง

* วันที่ 20 ธันวาคม 2556 ที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญที่ 68 ได้มีมติรับรองให้ "วันดินโลก" (World Soil Day) ตรงกับ "วันที่ 5 ธันวาคม" ของทุกปี

และให้ปี 2558 เป็นปี "ดินสากล" (International Year of Soil in 2015) มีผลตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป

วัน "ดินโลก" อยู่ในปฏิทินการปฏิบัติงานขององค์การสหประชาชาติอย่างเป็นทางการ

ซึ่ง "ทุกวันที่ 5 ธันวาคม" ของทุกปี

ประเทศสมาชิก "องค์การสหประชาชาติ" ทั้ง 193  ประเทศ จะจัดงานเฉลิมฉลองวันดินโลกโดยทั่วกัน

พระราชกรณียกิจด้านดิน

ทรงตระหนักถึงความเสื่อมโทรมของดิน ที่เกิดจากสาเหตุธรรมชาติ เช่น บางแห่งเป็นดินเปรี้ยวจัด ดินเค็ม

หรือบางแห่งไม่มีดินเลย....

จึงทรงเรียกดินเหล่านี้ว่า "ดินแร้นแค้น"

พระราชดำริเกี่ยวกับการแก้ปัญหา ฟื้นฟู อนุรักษ์ดินของพระองค์นั้น มีลักษณะเป็นธรรมชาติและเรียบง่าย ในทางปฏิบัติ เฉียบคมเหมาะเจาะ

และชาวบ้านทั่วไปสามารถนำไปปฏิบัติได้ โดยมีหลักการที่สำคัญ คือ ทรงเน้นการพัฒนาที่สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนในการพึ่งตนเอง

ทรงใช้คำว่า "ระเบิดจากข้างใน" คือทำให้ชุมชนเข้มแข็งก่อน จึงค่อยออกสู่สังคมภายนอก

มิใช่การนำความเจริญรุ่งเรืองจากภายนอกเข้าไปสู่ชุมชนที่ยังไม่มีโอกาสเตรียมตัวหรือตั้งรับ

ขั้นตอนต่อไป คือ พัฒนาให้ประชาชนอยู่ในสังคมได้ตามสภาพและสามารถ "พึ่งตนเองได้" ในที่สุด

ปี พ.ศ. 2522 ทรงจัดตั้ง "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน" อันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นแห่งแรก

ทรงเน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องมี "ตัวอย่างของความสำเร็จ" เพื่อให้ประชาชนเข้ามาศึกษาตัวอย่างของจริงและนำกลับไปปฏิบัติได้เอง

จึงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ" ขึ้นในทุกภูมิภาคของประเทศ 6 ศูนย์

เช่น "ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน" อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา

ที่มีปัญหาเกี่ยวกับดินเสื่อมโทรมและเป็นดินทราย

"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง" อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส มีปัญหาดินเปรี้ยวจัด

"ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน" อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร ที่ประสบปัญหาดินเค็มและดินเสื่อมโทรม เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวกับการเกษตรมากกว่า 4,000 โครงการ ล้วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาและปรับปรุงดินแทบทั้งสิ้น

.....................................

พ่อบนฟ้า ชาวประชาบนดิน

ต่างพื้น ต่างภพ บรรจบที่ใจ

๕ ธันวา. ฟ้าอยู่ใกล้ ใจลูกถึง

ดินโลก ดินไทย แต่ใครล่ะ...จะรักษา (แผ่น) ดิน?

-เปลว สีเงิน

๕ ธันวาคม ๒๕๖๗

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทย 'กะล่อนทอง'

ช่วย "คิด-วิเคราะห์" กันดูซักนิดซิว่า..... ทำไมชายแดนด้าน "ไทย-พม่า" จึงเกิดกรณียั่วยุขึ้นไล่เลี่ยกันถึง ๒ จุด

ไหนล่ะ "เกียรติ-ศักดิ์ศรี"?

ต้องบอกกันตรงๆ ว่า.... "ด้านในประเทศ" "รัฐบาลเพื่อไทย" ประชาชน "ไม่มีกิน-ไม่มีใช้" มีแต่หนี้ที่รัฐบาลสร้างให้ "บนความเหลื่อมล้ำ"

ตีตรา 'สามีคนใต้'

ไทยเราตกต่ำถึงขั้น "เพื่อนบ้าน" มองไม่เห็นหัวขนาดนี้แล้วเชียวหรือ?

'ออกจากรู' มา 'รู้โลก' กัน

ผมถูกขังเดี่ยวอยู่ในห้องแคบๆ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยโควิด นอนดูข่าว "รัสเซีย-ยูเครน" ถล่มกันทางโทรทัศน์อยู่ ๑๐ คืน