แจกเงินหวังคะแนน

เก็บตกการประชุม ครม.ในสัปดาห์นี้ ตอนแรกก็รอลุ้นโครงการแจกเงินหมื่นเฟส 2 ที่ช่วงเช้า นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาให้ข่าวว่า จะให้ที่ประชุมอนุมัติในวันนี้ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นรอเก้อ เพราะ ครม.ไม่ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้ เนื่องจากยังติดขัดปัญหาบางประการ

โดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า กระทรวงการการคลังได้ขอถอนเรื่องออกไป เพราะยังมีข้อมูลบางอย่างยังไม่ครบถ้วน คาดว่าสัปดาห์หน้าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.อีกครั้ง เพื่อมีมติเห็นชอบต่อไป

ประเด็นสำคัญของการเลื่อนในครั้งนี้ เนื่องจาก แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสังเกตในที่ประชุม ครม.ว่ามีข้อกฎหมายบางอย่าง เช่น เงื่อนไขที่ใช้ไปแล้วในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะแรก ผ่านผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ จำนวน 14.5 ล้านคน ยังมีตรงไหนที่ยังติดขัด โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปจัดทำรายละเอียดให้มากขึ้นว่า หากอนุมัติโครงการไปแล้วจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ เช่น ระบบข้อมูลที่เชื่อมต่อระหว่างกัน โดยเฉพาะการเชื่อมต่อกับระบบจ่ายเงิน หรือพร้อมเพย์

กลายเป็นว่าสุดท้ายแล้ว คนเฒ่าคนแก่ 4 ล้านคนของกลุ่มเป้าหมายก็คงต้องรอและต้องติดตามต่อไปว่า จากนี้การแจกเงินรอบใหม่จะมีอุปสรรคอะไรบ้าง โดยก่อนหน้านี้ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “รู้ทันเงินหมื่น” ก็ชี้ช่องว่า มีกลุ่มนักร้อง  จ้องที่จะร้องถอดถอนรัฐบาลทั้งชุด เนื่องจากทำผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 มาตรา 9 วรรคสาม “คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหารราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ” เพราะมองว่ารัฐบาลกำลังนำเงินงบประมาณในส่วนนี้มาใช้หาเสียง

ขณะเดียวกัน นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า มาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ที่ไม่ได้แจกให้แก่กลุ่มเปราะบางอย่างแท้จริงเหมือนอย่างเฟส 1 เป็นการก่อหนี้สาธารณะที่ไม่คุ้มค่าและไม่จำเป็น และมีผลกระทบเสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม อดีต สว.สมชายยังชี้ชัดว่า

 “แจกเงินหมื่นรอบ 2 น่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหลายประเด็น เนื่องจากไม่มีหลักเกณฑ์ชัดเจนแบบกลุ่มเปราะบาง ไม่เข้าเงื่อนไขวิกฤตเศรษฐกิจเร่งด่วน น่าจะผิด พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง และกฎหมายอื่นหลายประเด็น”

ต้องรอดูว่า สิ่งที่รัฐบาลจะกล้าลุยไฟกับเรื่องนี้ไหม บรรดานักร้องพร้อมจองกฐินแน่

แต่ถึง ครม.สัปดาห์นี้จะยังไม่มีข่าวดีเรื่องการแจกเงินหมื่นเฟส 2 แต่รัฐบาลก็เป็นซานต้าแจกเงินอยู่ดี ด้วยการเคาะงบประมาณสูงถึง 38,578 ล้านบาท ช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ รวมสูงสุด 10,000 บาทต่อครัวเรือน ครอบคลุมชาวนา 4.61 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ โดยเงินจะจ่ายผ่าน ธ.ก.ส.ภายใน 30 กันยายน 2568 โดยเกษตรกรสามารถเข้าไปเช็กสถานะทะเบียนเกษตรได้ผ่านออนไลน์ e-Form เว็บไซต์ https://efarmer.doae.go.th/check

อันนี้ถ้าเป็นชาวนาจริง ตอบสอบสถานะถูกต้อง ก็รอรับเงินจากรัฐบาลได้เลย ซึ่งนับเป็นอีกนโยบายที่ใช้เป็นคะแนนเสียง เป็นกระสุนทางการเมือง

อย่างที่ทราบกันดีว่า เร็วๆ นี้จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.ทั่วประเทศ ดังนั้นโครงการเหล่านี้คือความได้เปรียบของพรรคฝั่งรัฐบาล ที่จะใช้นโยบายเป็นเครื่องมือแลกคะแนนเสียง สร้างฐานอำนาจทางการเมืองขึ้นมา สุดท้ายเพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ ที่จะกลับมาครองอำนาจอีกครั้ง.

 

ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แผนดัน ‘เกษตรครบวงจร’

อุตสาหกรรมเกษตร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย และที่ผ่านมาเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนไปได้ด้วยสินค้าเกษตร แต่ก็มีบางช่วงที่ติดขัดและไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ จากปัจจัยกระทบต่างๆ

เคาต์ดาวน์ปลอดภัยส่งท้ายปี

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความหวัง โดยในปีนี้สถานที่จัดงาน Countdown ทั่วประเทศไทยหลายหน่วยงานได้เตรียมกิจกรรมไว้ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและสัมผัสความงดงาม

แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ

ของขวัญรัฐบาล

อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว

ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันเวทีโลก

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ

ปี68ธุรกิจบริการอาหารยังโตต่อเนื่อง!

“ธุรกิจบริการอาหาร” ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตาในปี 2568 จากอานิสงส์ท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้การบริโภคอาหารน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐยังมีการอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง