"กูพูดไม่ได้"
คนที่พูดประโยคนี้ออกจากคุกแล้วครับ
และจะพ้นโทษ ๒๑ เมษายน ๒๕๗๑
๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๐ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาคดีทุจริตจีทูจีข้าวโดยจำคุก "บุญทรง เตริยาภิรมย์" ๔๒ ปี
และชั้นอุทธรณ์ศาลลงโทษเพิ่มอีก ๖ ปี รวมโทษจำคุกเป็น ๔๘ ปี
แต่ด้วยความเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม "บุญทรง" ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี ๒๕๖๔ ในรอบแรก เหลือวันต้องโทษจำคุก ๑๖ ปี
ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษรอบสองในปีเดียวกัน เหลือวันต้องโทษ ๑๐ ปี
แต่ "บุญทรง" ครบกำหนดเข้าเงื่อนไขการพักโทษวานนี้ (๒ ธันวาคม ๒๕๖๗)
ติดกำไลอีเอ็มกลับบ้านไปเรียบร้อย
แต่จะถูกคุมประพฤติต่ออีก ๓ ปี ๕ เดือน จึงจะพ้นโทษ
ก็เป็นไปตามกติกาครับ
นักโทษชั้นเยี่ยม ได้ลดโทษ เดือนละ ๕ วัน
ชั้นดีมาก ได้ลดโทษ เดือนละ ๔ วัน
ชั้นดี ได้ลดโทษ เดือนละ ๓ วัน
"บุญทรง" เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ทบต้นทบดอกแล้วได้ลดโทษเยอะอยู่
เรือนจำเขาแบ่งชั้นของผู้ต้องขังออกเป็นชั้นต่างๆ ๖ ชั้น
ชั้นเยี่ยม ชั้นดีมาก ชั้นดี ชั้นกลาง ชั้นเลว และชั้นเลวมาก
อยู่ชั้นไหน ขึ้นอยู่กับความประพฤติการปฏิบัติตามระเบียบของเรือนจำ และความตั้งใจในการฝึกวิชาชีพหรือเรียนหนังสือ
หากอยากจะพ้นโทษเร็ว ก็ต้องทำตัวให้เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม
ถ้าทำตัวแบบนักโทษชั้น ๑๔ โอกาสกลับเข้าคุกมีสูงอยู่ แถมลากคนอื่นเข้าไปติดด้วย
ก็พวกที่รับใช้ไม่ให้นายติดคุกแม้แต่วันเดียวนั่นแหละครับ
หลายคนคงคิดเหมือนกัน "บุญทรง" ออกมาแล้ว น่าจะพูดอะไรบ้าง อย่างน้อยๆ ควรมีส่วนร่วมในการปราบคอร์รัปชัน
ทำให้นึกถึง "รักเกียรติ สุขธนะ" ครับ
แม้ "รักเกียรติ" จะเป็นนักการเมืองขี้โกง แต่สุดท้ายแล้ว กลายเป็นแบบอย่างนักการเมืองที่มีความกล้าหาญทางจริยธรรมสำนึกผิด
"รักเกียรติ" ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินว่าร่ำรวยผิดปกติ
สั่งให้ทรัพย์สินจำนวน ๒๓๓.๘ ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดิน
เป็นคดีที่เครือข่าย ๓๐ องค์กร เป็นผู้ยื่นกล่าวหาต่อป.ป.ช
ป.ป.ช.ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาฯ
คดีนี้พบหลักฐานว่ามีเงินสินบน ๕ ล้านบาทจากบริษัทยาเพื่อให้ยกเลิกราคากลางยารวมอยู่ด้วย
"รักเกียรติ" ถูกตัดสินจำคุก ๑๕ ปี
ยังมีโทษจำคุกตามคดีเช็ค อีก ๓๐ เดือน รวมทั้งสิ้นเป็น ๑๗ ปี ๖ เดือน
หลังรับโทษที่เรือนจำคลองเปรม ได้รับการลดโทษเหลือ ๙ ปี ๒ เดือน
และ ๗ ปี ๖ เดือน ตามลำดับ
"รักเกียรติ" ติดคุกนานกว่า ๕ ปี เหลือโทษจำคุกจริงอีก ๒ ปี ๖ เดือน หรือประมาณ ๑ ใน ๓ จึงเป็นคุณสมบัติตามเกณฑ์การขอพักการลงโทษ
คณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษฯ จึงอนุมัติให้พักการลงโทษและได้ส่งหนังสือแจ้งไปยังเรือนจำกลางคลองเปรมเพื่อให้ปล่อยตัว "รักเกียรติ" ออกจากเรือนจำ วันที่ ๒๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒
หลังออกจากคุก "รักเกียรติ" บวชพระ ได้รับฉายาว่า "รกฺขิตธมฺโม"
สิ่งที่ "รักเกียรติ" ทำหลังจากนั้นคือ มีส่วนร่วมกับการปราบคอร์รัปชัน โดยใช้บทเรียนของตัวเอง สอนผู้คนให้เห็นถึงโทษภัยของคอร์รัปชัน
ปัจจุบัน "รักเกียรติ" เสียชีวิตไปแล้ว
"รักเกียรติ" ไม่ใช่นักการเมืองที่ควรเอาเยี่ยงอย่าง
แต่เป็นแบบอย่างของนักการเมืองที่สำนึกผิด บอกกล่าวให้สังคมได้รู้จักพิษภัยของการคอร์รัปชันในวงการการเมือง
สิ่งนี้หลายคนคงคาดหวังจาก "บุญทรง" เช่นกัน
จากที่เคยบอกว่า "กูพูดไม่ได้" ถึงเวลาแล้ว...น่าจะพูดอะไรออกมาบ้าง
สิ่งที่ยังค้างคาใจกันอยู่ คือโพสต์ของ "สุรนันทน์ เวชชาชีวะ" ถึง "บุญทรง" เมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๐
"...ได้ข่าว 'เพื่อน' อีกทีเป็นเลขานุการส่วนตัวนายกฯ 'สมชาย วงศ์สวัสดิ์' ใจห่วงว่าเพื่อนจะปลอดภัยหรือไม่ ยกหูโทร.คุยกันครั้งหนึ่งเท่าที่จำได้ เพื่อนบอก 'ไม่ต้องห่วง'
ส่วนผมนั้นโดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ด้วยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ได้แต่ช่วยให้กำลังใจอยู่ห่างๆ
เวียนมาเจอและร่วมงานอีกครั้ง เมื่อ 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' เป็นนายกรัฐมนตรี ผมเข้ามาเป็น 'เลขาธิการนายกรัฐมนตรี' หลังพ้นการตัดสิทธิ์ ปี 2555 'เพื่อน' เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไปเยี่ยมห้องครัวเพื่อนไฟไหม้ ที่กระทรวง ยังหัวเราะกันอยู่
จน 'เพื่อน' เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผมเป็นเลขาธิการนายกฯ ได้เจอกันบ้าง แวะไปคุย เห็นเพื่อนแฟ้มเต็มโต๊ะ ยังเป็นห่วง
'ใครดูให้มึง แต่ละเรื่องน่ากลัว' ผมแอบพลิกแฟ้มดู
'กูมีทีม' แล้วชวนทานข้าวจากโรงอาหาร หน้าห้องสั่งมาให้ ยังคงความเป็นคนง่ายๆ ที่ผมรู้จัก ถึงแม้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่
เวลานายกฯ ยิ่งลักษณ์ไปต่างประเทศ บางทีได้คุยกัน ได้ปรับทุกข์ผูกมิตรกันมากกว่าอยู่กรุงเทพฯ แต่ในแววตา 'เพื่อน' มีความกังวล
ช่วงวิกฤต ผมงานหลายด้าน แต่ก็ไม่วายห่วงเพื่อน ส่งเรื่องจากทำเนียบก็คอยเตือนว่าเรื่องไปแล้วรีบจัดการ เราเป็นเพียง 'เสมียน' ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางทั้งหมด แต่รู้สึกเสมอว่าเพื่อน 'ไม่สบายใจ'
หลังพายุพัดผ่าน รัฐประหารไปแล้ว เคยนั่งจิบไวน์คุยกันสองคน
ผมถาม 'มึงเล่าให้กูฟังหน่อยว่าเรื่องเป็นยังไง' ผมนับถือน้ำใจมันที่ตอบ 'กูพูดไม่ได้'
เราร่ำสุราจนดึก แล้วไม่แตะเรื่องนั้นอีกเลย..."
คดีทุจริตจำนำข้าว เหมือนยังไปไม่สุด
เพราะสาวไม่ถึงตัวการ
มีข้อครหาว่ายังมี "เจ๊" อยู่เบื้องหลัง ซึ่งมี "บุญทรง" คนเดียวเท่านั้นที่จะให้คำตอบว่า จริงหรือไม่
ตลอดเวลาร่วม ๗ ปีที่ผ่านมา "บุญทรง" ยังจำภาพวันที่เดินทางไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้หรือไม่
วันที่ "บุญทรง" กับ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นัดไปเจอกันที่ศาล
สุดท้าย "ยิ่งลักษณ์" น้ำในหูไม่เท่ากัน ใช้ช่องทางธรรมชาติเผ่นไปกัมพูชา
ส่วน "บุญทรง" เดินเข้าคุก
"บุญทรง" จะแสดงความกล้าหาญทางจริยธรรม ตามรอย "รักเกียรติ" หรือไม่
สังคมไทยคาดหวังเรื่องนี้อย่างมาก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เสียค่าโง่ให้กัมพูชา
ดีครับ... เอา MOU 44 เข้าไปถกในสภาฯ
ก็เลี้ยงหลานไง!
อย่าเพิ่งเบื่อ กับการเขียนถึง MOU 44 ซ้ำแล้วซ้ำอีกนะครับ เพราะผลกระทบจะมากกว่าการเสียเขาพระวิหาร
'เพ็ญแข'อธิบาย'ส้ม'
ถึงกับ...ลิ้นพัน! "คุณเพ็ญแข" หาลงทาง กลายเป็นทัวร์ลงซะงั้น
ระวังไม่มีแผ่นดินอยู่
ลุกเป็นไฟในโซเชียลครับ... กับคำพูดของ "จักรภพ เพ็ญแข"
ถึงคิว 'แพทองธาร'
งานงอก! เริ่มต้นจากข้อเขียนของ "คำนูณ สิทธิสมาน" เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า อย่าเสี่ยงจงใจขัดรัฐธรรมนูญ! MOU 44 ต้องผ่านรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ ๖๐ มาตรา ๑๗๘
หนึ่งในเหตุวิกฤต
ปล่อยไปไม่ได้ วันก่อน นายกฯ แพทองธาร พูดเรื่อง การจัดการพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำเอาโซเชียลร้อนฉ่า