ความจริงก็หาใช่กงการอะไร?
แต่เมื่อคุณจักรภพ เพ็ญแข อดีตคนเสื้อแดงแรงฤทธิ์ มีชื่อโผล่อยู่ในผังรายการใหม่ “TOP HEADLINE” ของช่อง “ท็อปนิวส์” ก็ย่อมเป็นธรรมดา..
ที่ทั้งสื่อ-ทั้งประชาชนทั้งซีกแฟนประจำสถานี ทั้งฝ่าย FC คุณจักรภพจะได้ร่วมวิพากษ์วิจารณ์ไปตามทัศนคติ-ความรู้สึกรักชอบเกลียดชัง!
ผมเอง แม้จะเข้าใจว่าเป็นเรื่องภายในองค์กรท็อปนิวส์เขา ด้วยมารยาทไม่ควรไปยุ่มย่ามหรือแสดงความคิดอ่านในเรื่องนี้ แต่เมื่อได้ฟัง-ได้อ่านที่คุณจักรภพเปิดใจแล้ว..
ก็..อืมม พูดได้ถูกจริตกับตัวเองดีนะ!
ส่วนท่านผู้อ่านจะรู้สึกเช่นไรก็ขึ้นอยู่กับรสนิยมของแต่ละคน หรือหากใครที่ยังไม่ได้ผ่านหู-ผ่านตา ก็อยากให้ลองทัศนาความคิด-ความอ่าน-ความรู้สึกของคุณจักรภพแกหน่อย..
“โดยส่วนตัวเชื่อมั่นในการสื่อสารที่เราหวังให้เกิดความครอบคลุมไปสู่กลุ่มต่างๆ ได้ครบ เพราะทุกวันนี้คนในสังคมต่างคนต่างสื่อสารในกลุ่มตัวเอง
ใครอยู่ในกลุ่มไหน ก็เลือกฟัง เลือกอ่าน เลือกเสพเฉพาะกลุ่มนั้น เป็นเวลาเกือบ 20 ปี พอนานไปก็กลายเป็นคิดอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากคิดแต่ในแนวทางที่ตัวเองเชื่ออย่างเดียว
คนคิดต่างผิด ซึ่งมันจะเป็นผลร้ายต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว หากคนไทยยังถูกกรอบอคติครอบเอาไว้ ให้คิดได้แค่นี้ ห้ามคิดไปทางซ้าย ห้ามคิดไปทางขวา
คิดเฉพาะกรอบตัวเอง ผู้ที่เสียหายไม่ใช่ใครก็คือประเทศชาติของเรา..ผมเห็นเป็นโอกาสที่ดี ที่เราอาจจะพูดเข้าไปในกลุ่มที่เขาอาจไม่อยากฟังเรื่องอื่นๆ ยกเว้นสิ่งที่เขาฟังมา
โดยขยายตลาดเข้าไปอยู่ในกลุ่มที่ไม่เคยสนใจ และไม่เคยฟัง หรือฟังด้วยความไม่ไว้ใจ ซึ่งไม่ว่าจะแบบไหนก็มีประโยชน์ทั้งนั้น
เพราะผมตั้งใจจะนำข้อมูลความจริงในโลกปัจจุบัน ไปผสมผสานกับปัญหาที่ประเทศไทยเราเผชิญอยู่ พูดง่ายๆ ที่เราจะตั้งคำถามหลักทุกครั้งคือ
มันคุ้มไหมที่เราจะขัดแย้งกันในโลกที่เราต้องปรับตัวขนาดนี้เพื่อให้ประเทศไทยอยู่รอด.. ในยุคนี้ทัวร์ลงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ประเด็นคือทัวร์เหล่านั้น ได้ฟังเราบ้างหรือเปล่า
หรือแค่หลับหูหลับตาด่า ถ้าเป็นคอมเมนต์แบบนี้เราไม่จำเป็นต้องไปตอบ แต่ถ้าในความเห็นคัดค้านไม่เห็นด้วย แต่มันมีคุณค่าด้วยเหตุผล ตนก็จะตอบ
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่ามันไม่ใช่ความผิดใครจะชอบหรือไม่ชอบสื่อไหน แต่บ้านเมืองมันพาคนแยกออกจากกัน และไม่มีใครเป็นกาวใจมาอย่างน้อยใน 20 ปีที่ผ่านมา..
ไม่รู้สึกกังวลว่ามวลชนที่เป็นแฟนคลับของตนจะถอดใจ คนเรามีภาวะจิตใจที่ต้องการเวลาในการปรับตัว เมื่อเราขีดเส้นไป หลักการคืออยากเห็นประเทศไทยรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
ไม่ว่าจะเป็นสีไหน ขั้วไหน พวกไหน ก็ตาม มันมีทางไหมที่จะมาประกอบกันใหม่เป็นประเทศไทย ที่มีหลายขั้วหลายฝ่าย ที่อยู่ด้วยกันได้..
สิ่งที่อยากทำในตอนนี้คือ ใช้เวลาทุกนาทีให้เป็นประโยชน์สูงสุดของสังคมไทย หาจุดเชื่อมคนในชาติให้ร่วมมือกัน
เราเหมือนกำลังทำวิจัยขนาดใหญ่ในสังคมไทยว่าเส้นทางเดินจากนี้จะเป็นอย่างไร”
ครับ..รัก-เกลียด อยากให้เก็บไว้ก่อน ลองเปิดใจให้กว้างขึ้น ดูสิว่าคุณจักรภพจะนำเสนอความคิด-อ่านไปในทางไหน-แนวไหน?
และไม่ต้องกังวล-สนใจหรอกว่า จากนี้ท็อปนิวส์จะเดินไปอย่างไร และคนอย่างคุณกนก-คุณธีระ-คุณสันติสุข จะเปลี๋ยนไปหรือไม่?
ให้โอกาส-ให้เวลาทั้งกับคุณจักรภพ ทั้งกับผู้บริหาร-ทีมงานท็อปนิวส์ได้ทำในสิ่งที่พวกเขาคิดและมุ่งมั่นตั้งใจจะเกิดประโยชน์กับสังคม-ประเทศชาติ
ซึ่งหากผิดไปจากที่คุณจักรภพกล่าว ก็เชื่อว่าผู้บริหารท็อปนิวส์เองก็คงจะได้มีการปรับปรุง-เปลี่ยนแปลงกันต่อไป หรือหากไม่..
นั่น..ก็ขึ้นอยู่กับคนดูจะตัดสินใจ แต่ตอนนี้ขอให้วางใจ-เชื่อมั่น ทั้งกนก-ธีระ-สันติสุข..
ไม่ลุก (ออก) ไปไหนแน่!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เรื่องเล่าที่ชวนขนลุก
เห็นตัวเลขแล้วตาลาย.. งั้นสรุปเอาจากข่าวโปรย “ผู้จัดการออนไลน์” ก็แล้วกัน.. “ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน ‘นายกฯ แพทองธาร’ พร้อมสามี มั่งคั่งแตะ 1.4 หมื่นล้าน หนี้ 4 พันกว่าล้าน มีกระเป๋า 217 ใบ รถ 23 คัน
นักการเมืองไม่ใช่อาชญากร?
ก่อนจะสิ้นปี.. นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริต บิดานายกรัฐมนตรีแพทองธาร ผู้นอบน้อมถ่อมตน (ยามอยู่ไกลบ้าน)..จะกลับมาเลี้ยงหลาน เลิกข้องแวะยุ่งเกี่ยวกับการเมือง..
ประชาชนควรพึ่งประชาชน
วันนี้-1 มกราคม.. เริ่มต้นปฏิทินหน้าแรกของปีใหม่ พ.ศ.2568 ก็ขออนุญาตกล่าวคำอำนวยพรให้ท่านผู้อ่านทุกท่านจงมีแต่ความสุข ความสมหวัง ไม่เจ็บ ไม่จนกันนะครับ!
ผลพวงจาก 'ฉายา'
หยิกแกมหยอก หรือเหน็บแนมทีเล่นทีจริงพอได้ยิ้มหัว นั่นคือ เจตนารมณ์ ความตั้งใจแรกในการมอบฉายาให้กับ “ดารา นักร้อง คนบันเทิง” ที่ผม (สันต์ สะตอแมน) ได้เสนอต่อนายกสมาคมนักข่าวบันเทิงในยุคนั้น
เอาที่สบายใจ
อย่าเพิ่งยุบสภานะ! ผมขอร้องทั้งนายกฯ แพทองธาร ทั้งนายทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ เพราะไม่รู้ใครมีอำนาจ (ตัดสินใจ) เหนือใครใน “รัฐบาล ‘พ่อ’ เลี้ยง” นี้?
หอยสังข์พันล้าน
จะมองว่า เป็นข่าวตลกก็มองได้.. แต่สำหรับเรื่องของกฎหมายแล้ว ผิดก็คือผิด เปรียบเหมือนขับรถฝ่าไฟแดง จะอ้างว่าฝ่าแค่ชั่วไม่กี่วินาทีไม่น่าผิดความผิดไม่ได้ฉันใด..