"มหาชาติที่ รพ.ราชวิถี"

หน้าหนาว...แต่มันร้อนนัก!

ร้อน "กาย" ช่างมัน

ข้อสำคัญที่ต้องรักษาคือ "ใจ" อย่าปล่อยให้ร้อนนั้นเผาไหม้จนสติประคองใจไม่อยู่เป็นอันใช้ได้

โลกกำลังเดือด บ้านเราก็เดือด ใครอยากเดือด-เดือดไป เราเพียงรู้ไว้ อย่าเข้าไปเดือดกับเขาก็แล้วกัน

ร้อน...คนรุ่นใหม่ มักชวนกันไปเดินห้าง อังกระไอแอร์

แต่วันนี้ ผม "คนรุ่นเก่า" แต่หัวใจใหม่ (เสมอ) ชวนคน "เก่าก็ได้-ใหม่ก็ดี" ไปชาร์จแบตเตอรี่ใจกัน

ที่ "โรงพยาบาลราชวิถี" ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ช่วงวันที่ ๓๐ พฤศจิกา.และ ๑ ธันวา. ที่ห้องประชุมพิบูลสงคราม ชั้น ๑๒ "อาคารเฉลิมพระเกียรติ" โรงพยาบาลราชวิถี

ประเทศไทย....

เป็น "เมืองคนป่วย" พูดอย่างนี้ก็ไม่ผิด

นอกจากเป็นเมืองคนป่วยแล้ว ยังเป็นประเทศ "พระเวสสันดร" ของคนป่วยจากหลายๆ ประเทศเพื่อนบ้าน ที่แห่แหนกันเข้ามารับการรักษา

จนคนไทยจะกลายเป็น "คนส่วนน้อย" อยู่รอมร่อ!

โรงพยาบาล "ทั้งหลวง-ทั้งราษฎร์" เฉพาะในกรุง จำนวนไม่เป็นร้อย ก็เฉียดๆ

แต่เข้าไปเหอะ "แน่น" ยิ่งกว่าโรงหนังตามห้างซะอีก!

"โรงพยาบาลราชวิถี" ก็เหมือนกัน

สร้างเพิ่ม "ตึกแล้ว-ตึกเล่า" มากถึงขนาด "ไก่บินไม่ตก" แต่ก็ยังไม่เพียงพอรองรับคนป่วยทั้งในกรุงและต่างจังหวัด รวมทั้งคนต่างชาติ

นี่ก็ต้องสร้าง "อาคารอุบัติเหตุและฉุกเฉิน" ขึ้นอีกหลัง จะเปิดใช้งานในวันที่ ๑ ธันวาคม ไม่ใช่ปีนี้ แต่เป็นปี ๒๕๖๘

แต่อย่างว่า ลำพัง "งบหลวง" ไม่พอหรอก!

แล้วทำไง...ทางผู้บริหารโรงพยาบาลก็ต้องดิ้นรนหาเงินมาสร้างให้เสร็จ

หาจากไหน?

"เมืองไทย-คนไทย" ในด้านช่วยเหลือเกื้อกูลสังคม โดยเฉพาะกับการ "สร้างโรงพยาบาล"

คนไทย อาจ "จนเงิน" บ้างเป็นบางครั้ง แต่กับ "น้ำใจ" คนไทย "ไม่เคยจน"

"โลโก ปัตถัมภิกา เมตตา"

"เมตตาธรรมค้ำจุนโลก"

เพราะคนไทยมีจิตใจเช่นนี้เป็นพื้นฐานกำเนิด จะเห็นว่า โลกหรือพลโลก "ตกทุกข์-ได้ยาก" กันขนาดไหน

แต่สำหรับประเทศไทย-คนไทย ไม่เคยรู้จักคำว่า "ทุกข์ถาวร"

รวย-ก็รวยทน, จน-ก็จนแป๊บๆ"

เพราะ "เมตตา" พื้นฐานจิตประเสริฐของคนไทยนั้นแหละ หนุนชาติ หนุนแผ่นดิน หนุนผู้คนด้วยกัน ยามตก...ก็ไม่ให้ตกถึงขั้นมิดจมดิน?!

ดังนั้น "จะมาก-จะน้อย" ในด้านสงเคราะห์-ช่วยเหลือ คนไทยก็ช่วยสงเคราะห์กันโดยตลอด

กับที่โรงพยาบาลราชวิถีนี่ก็เหมือนกัน งบหลวง ๘๐๐ กว่าล้านบาท แค่ "สารตั้งต้น"

โรงพยาบาลต้องเปิดรับเงินสนับสนุนจากการบริจาค อีก ๙๐๐ กว่าล้านบาท

แต่ยังไม่พอหรอกในขั้นสมบูรณ์ อาคารเสร็จ แต่การตบแต่งภายใน โดยเฉพาะอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ผมว่าอีก ๑,๐๐๐ ล้าน ก็แค่เปิดบริการได้เท่านั้น

จะให้สมบูรณ์จริงๆ นั้น ยังไงๆ ก็ต้องมากกว่านั้น ใครที่เคยผ่านการก่อสร้าง ย่อมเข้าใจคำว่า "บานปลาย" ดีที่สุด

ดังนั้น เพื่อการเสริมสร้างศรัทธา-ปสาทะในจิตตั้งมั่นสร้างอาคารเพื่อบริการผู้ป่วยฉุกเฉินของคณะผู้บริหารโรงพยาบาลราชวิถีและของผู้มีจิตเมตตาสงเคราะห์ทั้งหลาย

อะไรเล่า จะคงทนถาวรถึงอนาคตกาลทั้งเขา-ทั้งเราเท่า

ได้ "คาถาพระพุทธเจ้า" เป็นมงคลสูงสุดเสริมในการร่วมสร้าง

ทางโรงพยาบาลจึงขอเรียนเชิญ ร่วมงานรับฟัง "เทศน์มหาชาติ" เฉลิมพระเกียรติฯ ๑๓ กัณฑ์ ๑,๐๐๐ พระคาถา                       ในวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน และ ๑ ธันวาคม ๖๗ นี้  ณ ห้องประชุมพิบูลสงคราม ชั้น ๑๒ อาคารเฉลิมพระเกียรติ          ท่านที่มีทั้้งทรัพย์สินในกายและทั้งอริยทรัพย์ในจิต จะร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์ กัณฑ์ละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท ก็ได้

หรือบริจาคตามกำลังศรัทธา เพื่อเป็นการร่วมทำบุญกุศลครั้งยิ่งใหญ่ร่วมกันก็ได้

โดยโอนผ่านทางบัญชี....

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา รพ.ราชวิถี บัญชีกระแสรายวัน ชื่อ “มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี"

เลขที่บัญชี 051-3-018063 (ลดหย่อนภาษี ๒ เท่า)

ทางโรงพยาบาล โดย "คุณหมอไพโรจน์" ผู้ดำเนินการก่อสร้าง ฝากผมกราบขอบพระคุณและอนุโมทนาบุญกับทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

#โรงพยาบาลราชวิถี

#มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี

#สมาคมศิษย์เก่าวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี

#ชมรมพุทธโรงพยาบาลราชวิถี

พูดถึงเทศน์ "มหาชาติ" เคยได้ยินผ่านหูกัน แต่ไม่เข้าใจกันซักเท่าไหร่หรอกว่า หมายถึงอะไร?

ผมเองก็เหอะ ยังงูๆ ปลาๆ แม้ตอนเป็นเด็กช่วยเขาตัดต้นกล้วยทำเป็นป่าหิมพานต์ หาส้มสูกลูกไม้มาประดับ

ฟังพระท่านเทศน์ ก็เอาแต่ฟังเพลิน ฟังสนุก ถ้าถาม "เข้าใจเรื่องมหาชาติแค่ไหน?

ก็รู้แค่ว่า "มหาชาติ" ว่าด้วยเรื่อง "ชาติสุดท้าย" ของ "พระเวสสันดร" ที่ทรงบำเพ็ญบารมี เป็น "พระโพธิสัตว์" ก่อนจุติลงมาประสูติเป็น "เจ้าชายสิทธัตถะ"

และทรงออกผนวชบำเพ็ญเพียรจนตรัสรู้เป็น "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า"

ขออนุญาตนำบางส่วนจาก "พระเวสสันดร" ชาดก ๑๓ กัณฑ์พันคาถา "เว็บ" คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มาให้อ่านละกัน

...............................

"พระเวสสันดร" ชาดก ๑๓ กัณฑ์พันคาถา

คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

 “การเทศน์มหาชาติ” เป็นการถ่ายทอดบทบาทชีวิต "พระเวสสันดร" ผู้มีความโอบอ้อมอารี บำเพ็ญทานบารมียิ่งใหญ่ในฐานะ "พระโพธิสัตว์"

เป็นเรื่องราวที่มีค่าแก่การศึกษาเพื่อเพิ่มพูนสติปัญญาแก่สังคมในยุคปัจจุบันในวงการผู้นับถือพระพุทธศาสนาเชื่อกันว่า.....

ถ้าได้ฟัง "เทศน์มหาชาติ" ครบ ๑๓ กัณฑ์ และดำเนินชีวิตตามหลักธรรมะที่ท่านประมวลไว้ในพระคัมภีร์จะได้รับผลดีถึง ๓ ชั้น คือ

๑.ชาตินี้ชีวิตจะสุขเย็น ดังเช่นอริยชน เพราะมีธรรมะรักษา

๒.ครั้นแตกกายทำลายขันธ์ จะมีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า

๓.จะได้พบพระศาสนาของพระศรีอริยเมตไตรยในอนาคต

ผู้ที่ฟังแล้ว ย่อมมีจิตใจผ่องแผ้วเบิกบาน ทำบุญทำทานเป็นการบูชาเทศน์แต่ละกัณฑ์ ย่อมจะก่อให้เกิดผลานิสงส์เป็นไปตามจิตจำนงที่ปรารถนา

 “เวสสันดรชาดก” นี้ พระพุทธองค์ทรงยกขึ้นแสดงแก่พุทธบริษัท เมื่อครั้งเสด็จไปโปรดพระประยุรญาติเป็นครั้งแรก ณ วัดนิโครธาราม เมืองกบิลพัสดุ์

ใจความ "เวสสันดรชาดก" ได้ทรงยกจริยาพระเวสสันดรขึ้นสอน ทรงประกาศถึงน้ำพระทัยอันยิ่งใหญ่ของพระเวสสันดร

แม้เมื่อประสบทุกข์ ก็ไม่ทรงย่นย่อท้อถอย ทรงเปลี่ยนทุกข์ให้เป็นสุขได้อย่างอัศจรรย์ เป็นการเสวยพระชาติที่ยิ่งใหญ่ เรียกโดยทั่วไปว่า “มหาชาติ”

นักปราชญ์ทางพระพุทธศาสนา แต่งพรรณนาเรื่องราวของพระเวสสันดรโดยแบ่งเป็นตอนๆ ได้ ๑๓ กัณฑ์

กัณฑ์ที่ ๑"ทศพร"

ใครเป็นเจ้าภาพและฟังแล้ว จะมีอานิสงส์ ได้รู้จักเป้าหมายในการอธิษฐานใจในการทำบุญ-ทำกุศลว่าหวังจะให้ตนได้ประสบสุขอย่างไรบ้าง

กัณฑ์ที่ ๒ "หิมพานต์"

มีอานิสงส์ : ในชั่วชีวิตหนึ่ง จะไม่พลัดพรากจากคนรัก ของรักและยศศักดิ์ที่ตนมี

กัณฑ์ที่ ๓ "ทานกัณฑ์"

มีอานิสงส์ : ชีวิตสมบูรณ์พูนสุขและความมีทรัพย์สินมั่งคั่งมั่นคงลงตัว เพราะถูกจัดสรรบันดาลด้วยทานบารมี

กัณฑ์ที่ ๔ วนประเวสน์

มีอานิสงส์ : ชีวิตจะได้รับการคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยในที่ทุกสถานในการทุกเมื่อ

กัณฑ์ที่ ๕ ชูชก

มีอานิสงส์ : จะเกิดไหวพริบในการเจรจา เป็นที่มาแห่งความสำเร็จ จะประสบช่องทางที่ดี มีชีวิตท่องเที่ยวอยู่ในตระกูลและสังคมที่ดี มีกัลยาณมิตรรอบด้าน

กัณฑ์ที่ ๖ จุลพน

มีอานิสงส์ : จะเป็นคนไม่หลงใหลในอบายมุข ไม่ติดสุขอย่างมัวเมาเหมือนกระทงหลงทางตลอดชีวิต

กัณฑ์ที่ ๗ มหาพน

มีอานิสงส์ : จะมีลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ที่เหนือกว่าใครๆ

กัณฑ์ที่ ๘ กุมาร

มีอานิสงส์ : จะประสบชัยชนะในทุกกรณี จะมีปัญญาบารมีเจิดจ้า สามารถขบคิดปัญหาต่างๆ ได้

กัณฑ์ที่ ๙ มัทรี

มีอานิสงส์ : จะได้บุตรธิดาผู้มีรูปโฉมงดงาม มีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ประพฤติแต่คุณประโยชน์ โทษไม่มี

กัณฑ์ที่ ๑๐ สักบรรพ

มีอานิสงส์ : จะเป็นผู้มีชีวิตราบรื่น ทำการน้อยใหญ่จะได้รับการสนับสนุนจากมหาชน ส่งผลให้ทำการได้สำเร็จ

กัณฑ์ที่ ๑๑ มหาราช

มีอานิสงส์ : จะเป็นผู้มีบุญรักษาเทวดาคุ้มครอง สิ่งที่รักเสียไป จะได้คืนมาโดยเร็ว

กัณฑ์ที่ ๑๒ ฉกษัตริย์

มีอานิสงส์ : จะช่วยให้มีชีวิตและครอบครัวที่ร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากทุกข์มาหา

กัณฑ์ที่ ๑๓ นครกัณฑ์

มีอานิสงส์ : จะช่วยให้ชีวิตอยู่เย็นเป็นสุขในท่ามกลางหมู่ญาติมิตร ชีวิตปราศจากโรคภัย มีพลานามัยสมบูรณ์

เมื่อถึงคราวสิ้นใจ จักไปบังเกิดบนสวรรค์ มีพระนิพพานเป็นที่ไปในเบื้องหน้า

ทราบคร่าวๆ อย่างนี้แล้ว ๓๐ พฤศจิกา. และ ๑ ธันวา. หาโอกาสไปฟังเทศน์มหาชาติ ครบทั้ง ๑๓ กัณฑ์ ๑,๐๐๐ พระคาถา กันให้ได้นะ

"รพ.ราชวิถี" ทอดสะพานบุญให้เดินถึงป่าหิมพานต์เช่นนี้แล้ว ถ้าพลาด คงหาโอกาสอีกยากแล้ว!.

-เปลว สีเงิน

๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ 

 

คนปลายซอย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย่าเพิ่ง 'โก่งคอขัน'

มีคนโทร.มาเปรยกับผม ว่า... "ทักษิณ-เพื่อไทย" พ้นคดี "ล้มล้างการปกครองฯ" ที่นายธีรยุทธร้องศาลรัฐธรรมนูญ

'กินแบ่ง' ได้ก็ 'รีบกิน' ซะ!

Kamontip Kpr นาฬิกาตายแล้วค่ะลุง #ปิดสวิตช์ทีวี #ปิดสวิตช์ตัวเอง ขำคักๆ กับคอมเมนต์ท้ายคอลัมน์ "คนปลายซอย" ที่เมื่อวาน ผมตั้งหัวข้อเรื่องว่า วัน "นาฬิกากรรม"!

วัน 'นาฬิกากรรม'

"๒๒ พฤศจิกา." คือวันนี้ละ ได้รู้กันซะทีว่าศาลรัฐธรรมนูญจะ "รับ-ไม่รับ" คำร้อง "นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่?

'วิชาการประจบโจร'

เอาละซี.... เมื่อยูเครนงัด "ขีปนาวุธพิสัยไกล" ถล่มรัสเซีย! ฝ่ายรัสเซีย ก็งัด "นิวเคลียร์" ขึ้นมาลูบคลำ พลางว่า "ถ้าไอ้น้องเล่นขนาดนี้ พี่ก็ยินดีสนอง"