เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพชรบุรี นครศรีธรรมราช และอุดรธานี เมืองหลวงคนเสื้่อแดง 24 พฤศจิกายน ภาพรวมผู้ใช้สิทธิ์บางตา ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการเลือกตั้งท้องถิ่นที่ประชาชนให้ความสนใจน้อยกว่าการเลือกตั้ง สส. เพียงแต่การเลือกตั้งนายก อบจ.ในครั้งนี้ โดยเฉพาะนายก อบจ.อุดรฯ 2 พรรคการเมืองใหญ่ฟาดฟันกันดุเดือดตั้งแต่ยกแรก ส่งระดับแกนนำคนสำคัญช่วยปราศรัยหาเสียง แต่ก็ยังมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์น้อย ผล "ศราวุธ เพชรพนมพร" จากพรรคเพื่อไทย ชนะ "คณิศร ขุริรัง" จากพรรคประชาชนไปเฉียดฉิว ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดว่าประชาชนจะตื่นตัวสูง ...๐
กกต.เองยอมรับว่าต้องกลับไปทำการบ้าน "แสวง บุญมี" เลขาธิการ กกต. น้อมรับจะต้องไปศึกษาทำการรณรงค์ในการที่จะเลือกครั้งต่อไปของจังหวัดที่มีการลาออกก่อนครบวาระ และกรณีที่การเลือกตั้งที่เป็นวาระของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 68 เพื่อให้ประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตัวแทนประชาชนในท้องถิ่นให้มากที่สุด เพราะการที่ประชาชนออกมาเลือกเป็นจำนวนมาก แสดงถึงความชอบธรรมที่ผู้บริหารจะได้รับในการเป็นตัวแทนดูแลท้องถิ่นของตัวเอง ...๐
ใครๆ ก็ไม่เชื่อว่า "ทักษิณ ชินวัตร" ป่วยจริง ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย อดีต สว. โพสต์ข้อความว่า “เวชระเบียนคือจุดเป็นหรือตายในทางคดีชั้น 14 รพ.ตร.” การที่ รพ.ตร.ไม่ยอมเปิดเผยเวชระเบียนการรักษาอาการป่วยของคุณทักษิณต่อ ป.ป.ช. กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่า 1.คุณทักษิณไม่ได้ป่วยจริง 2.ไม่มีการรักษาอาการป่วยโดยคณะแพทย์จริง 3.ไม่ได้อยู่รักษาอาการป่วยที่ชั้น 14 รพ.ตร.จริง และ 4.คุณทักษิณไม่ได้รับโทษจำคุกจริง เพราะถ้าป่วยจริงมีเวชระเบียนจริง การเปิดเผยย่อมเป็นประโยชน์ในทางคดี ต่อคุณทักษิณและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องปกปิดเลย คุณทักษิณและเจ้าหน้าที่จะต้องยินยอมและช่วยกันเปิดเผยโดยเร็วสิครับ ...๐
ก็นั่นนะสิ...เป็นประโยชน์กับตัวเองแท้ๆ แต่กลับไม่เอามาแสดงให้สาธารณชนได้ดูให้หายสงสัย ก็เลยสงสัยต่อว่า "ทักษิณ ชินวัตร" จะได้ประโยชน์อะไรจากการกระทำแบบนี้ หรือจะเก็บหมัดเด็ดไว้ภายหลัง แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะโอกาสถูกน็อกเสียก่อนมีความเป็นไปได้มากกว่า เบื้องต้นจึงสรุปได้ว่า การสมคบคิดไม่ยอมติดคุกแม้วันเดียวทิ้งร่องรอยไว้มากเกินไป มีความย่ามใจไม่ปกปิดให้รอบคอบ แทนที่จะทำหลักฐานไว้ตั้งแต่แรก กลับเชื่อว่าจะรอดง่ายๆโดยที่สังคมไม่ตั้งคำถาม แต่สุดท้ายแล้วอย่างที่เห็น มีโอกาสติดคุกหมู่ ...๐
"หมอบุญ" นพ.บุญ วนาสิน หมดบุญอย่างแท้จริงแล้ว ลึกไม่ลับจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า คดีหมอบุญโกงกว่า 7 พันล้านบาท หากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว สำนวนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกส่งมาที่ดีเอสไอ ไม่ว่าจะเป็นสำนวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) หรือสำนวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นอกจากนี้ หากคดีไม่มีความซับซ้อนมาก กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ แต่ถ้ามีความซับซ้อนเหมือนคดีดิไอคอน ก็มีความเป็นไปได้ว่าต้องตั้งเป็นคณะพนักงานสอบสวน หรือตั้งเป็นวอร์รูม ...๐
ขณะนี้ "หมอบุญ" หนีไปจีน น่าจะจับตัวมาลงโทษได้ไม่ยาก เพราะไทยกับจีนมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน และมีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันมาเป็นระยะๆ เช่นกรณี "เตียว ฮุยฮวด" (Teow Wooi Huat) ผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย เจ้าของอาณาจักรเอ็มบีไอกรุ๊ป ถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน กลับไปดำเนินคดีที่จีนในคดีฟอกเงินแล้ว เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมานี้เอง ในข้อหาจัดตั้งองค์กรที่ชักจูงและประกอบสินค้าขายตรง แอบอ้างเป็นธุรกิจการให้บริการ โดยให้ผู้เข้าร่วมชำระเงินค่าบริการหรือสินค้าเพื่อเข้าเป็นสมาชิกที่มีลักษณะแชร์ลูกโซ่ที่ประเทศจีน ถูกจับตามหมายแดงอินเตอร์โพลข้อหาฟอกเงิน และนำตัวส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้กับประเทศจีน ตามคำสั่งอัยการสูงสุด ...๐
ในโลกโซเชียล "หมอบุญ" เละยิ่งกว่าโจ๊กสามย่าน มีการขุดวีรกรรมวีรเวรช่วงประเทศไทยมีความต้องการวัคซีนโควิด ตั้งตนเป็นผู้นำเข้า ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนัก "หมอบุญ" เคลื่อนไหวผ่านสื่อต่างๆ ผลักดันการนำเข้าวัคซีน mRNA อย่างไฟเซอร์และไบออนเทคจากเยอรมนี รวมถึงเสนอราคาที่ถูกกว่าที่รัฐบาลเคยประกาศไว้ โดยระบุว่ามีแผนการนำเข้า 20 ล้านโดส กองแช่งรัฐบาลลุงตู่พากันด่าลุงตู่ยับ บริหารประเทศสู้หมอคนเดียวไม่ได้ แม้การนำเข้าวัคซีนในขณะนั้นต้องทำระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลเท่านั้น เพราะเป็นวัคซีนฉุกเฉิน แต่ด้อมหมอบุญหน้ามืดตามัวเสพความเท็จมากกว่าความจริง มาถึงวันนี้น่าจะตาสว่างกันครบถ้วนทุกคนแล้ว ...๐
นายชื่น ประชา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ในวันที่เข้าสู่ช่วงเตรียมนับถอยหลังอำลาปี 2567 ปีมะโรง เพื่อเตรียมต้อนรับปีมะเส็ง งูเล็ก 2568 ทำให้ตอนนี้คนส่วนใหญ่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาบ้านเกิดเพื่อพักผ่อนปีใหม่กันแล้ว
บันทึกหน้า 4
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด "ฉายารัฐบาล" ปีนี้ออกมาเร็วกว่าปกติ สื่อทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายาว่า "รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง"
บันทึกหน้า 4
“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ตามธรรมเนียม ใกล้สิ้นปีสื่อประจำทำเนียบฯ จะตั้งฉายารัฐบาลและคณะรัฐมนตรี เพื่อสะท้อนการทำงาน และบทบาททางการเมืองต่างๆ ในตลอดปี 67
บันทึกหน้า 4
เริ่มนับถอยหลังสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ใคร?!? หน้าแห้ง!! ใคร?!? กระเป๋าแห้ง!! ก็สามารถไปส่งเสียงร้อง "จิงเกิลเบล" ได้เอาที่สบายใจ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าถนนสายช็อปปิ้ง ระดมกันจัดงานคึกคัก หวังว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายได้
บันทึกหน้า 4
ถึงมาช้าแต่เข้มข้น "ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี" ประธานอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา ประกาศขึงขังลุยสอบจริยธรรมโรงพยาบาลตำรวจ ปมป่วยทิพย์ชั้น 14 "เรื่องการสอบสวน ต้องมีอำนาจอยู่แล้ว ไม่มีอำนาจไม่ได้
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่า หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตั้งคณะกรรมการไต่สวนเต็มคณะข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ 12 รายในการอุ้มสม “ทักษิณ ชินวัตร” พ่อนายกรัฐมนตรี