จ่อคอหอย 'ทักษิณ'

 “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)  ไปสำรวจเรื่องนี้มาให้ครับ

 “พรรคประชาชนเปิดหน้าชนพรรคเพื่อไทย” คือคำถามให้ประชาชนตอบ

ถามถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับการวิวาทะระหว่างพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยที่ผ่านสื่อในขณะนี้ พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๔๕.๒๗ ระบุว่า เป็นแค่ละครทางการเมืองฉากหนึ่ง เพราะการเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร

รองลงมา ร้อยละ ๒๙.๑๖ ระบุว่า เป็นแค่ความพยายามที่จะเพิ่มคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น              ร้อยละ ๑๗.๑๐ ระบุว่า เป็นเรื่องจริงจังว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันแน่นอนในการเลือกตั้งครั้งหน้า

และร้อยละ ๘.๔๗ ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

สำหรับความเป็นไปได้ที่พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยจะจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งหน้า

พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๓๖.๗๒ ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย

รองลงมา ร้อยละ ๓๒.๓๗ ระบุว่า ค่อนข้างเป็นไปได้

ร้อยละ ๑๗.๗๑ ระบุว่า เป็นไปไม่ค่อยได้

และร้อยละ ๑๓.๒๐ ระบุว่า เป็นไปได้มาก

ด้านความเชื่อที่ว่าขณะนี้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคเดียวที่สามารถต่อสู้กับพรรคประชาชนได้

พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๒๗.๘๖ ระบุว่า ค่อนข้างเชื่อ

รองลงมา ร้อยละ ๒๕.๘๘ ระบุว่า เชื่อมาก

ร้อยละ ๒๓.๘๙ ระบุว่า ไม่ค่อยเชื่อ

ร้อยละ ๒๐.๖๙ ระบุว่า ไม่เชื่อเลย

และร้อยละ ๑.๖๘ ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

สำหรับความเป็นไปได้ต่อคำกล่าวของ อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ สส.เกิน ๒๐๐ ที่นั่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า

พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ ๓๔.๒๐ ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลย

รองลงมา ร้อยละ ๒๗.๒๕ ระบุว่า ค่อนข้างเป็นไปได้    ร้อยละ ๒๔.๕๘ ระบุว่า เป็นไปไม่ค่อยได้ ร้อยละ ๑๒.๒๙ ระบุว่า เป็นไปได้มาก และร้อยละ ๑.๖๘ ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

แกะรหัสตัวเลขทั้งหมดจะเห็นว่าเกือบทุกคำถามมีคำตอบเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

กั๊กๆ กึ่งๆ

ยังอยากจะเชียร์เพื่อไทย แต่ก็เสียดายพรรคส้มไม่อยากทิ้ง 

ที่โดดมาคือข้อแรก แต่ก็ยังสนับสนุนสมมติฐานที่ว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคส้มยังมีโอกาสที่จะจับมือกันตั้งรัฐบาล

ที่ปราศรัยถล่มกันหนักหน่วง ก็แค่ละครการเมือง!

ฉะนั้นผลการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรฯ จึงไม่ใช่สงครามที่แท้จริง

เป็นการแชร์คะแนน

จึงแทบไม่อาจเอาไปอ้างอิงการเลือกตั้ง สส.หลังจากนี้ได้เลย โดยเฉพาะกระแสแดงหรือกระแสส้ม

การที่ ๒ พรรคนี้ไม่ใช่คู่แข่งที่แท้จริง เราจะเห็นการแบ่งคะแนนในอีกหลายๆ พื้นที่ในอนาคต

มีความพยายามจากพรรคเพื่อไทย ยกระดับการต่อสู้สนามเลือกตั้ง อบจ.อุดรฯ ให้สะท้อนถึงระดับชาติ คาดว่าประชาชนจะออกมาใช้สิทธิถล่มทลาย

"ทักษิณ" เปิดตัวเลข ได้ สส. ๒๐๐ ที่นั่ง ไม่ใช่เรื่องที่คิดเดี๋ยวนั้นแล้วพูดเดี๋ยวนั้น แต่เป็นพล็อตที่เขียนไว้อย่างมีขั้นมีตอน

อย่างที่รู้กันครับ หากพรรคไหนกวาดที่นั่ง สส.อีสานได้มากที่สุด พรรคนั้นมักจะเป็นพรรคอันดับ ๑ เสมอ

ยกเว้นเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล ได้ สส.อีสานเพียง ๘ ที่นั่ง ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้มากถึง ๗๓ ที่นั่ง กลับเป็นพรรคอันดับ ๒

นั่นเพราะประชาชนคิดอย่าง นักการเมืองคิดอย่าง

มวลชนแดง-ส้ม ยังเชื่อว่า ๒ พรรคเป็นพันธมิตรกัน

แต่พรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคส้ม มองไปที่จำนวนเก้าอี้ สส. เพื่อความมั่นคงในการตั้งรัฐบาล ต่างฝ่ายต่างหวังตั้งรัฐบาลพรรคเดียวเหมือนกัน

เก้าอี้ สส.อีสานมีทั้งสิ้น ๑๓๒ ที่นั่ง ในอดีตพรรคไทยรักไทย กวาดเกือบยกภาคมาแล้ว "ทักษิณ" ฝันอยากให้เกิดขึ้นอีก

แต่คงไม่ง่าย เพราะคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ ของพรรคส้มในภาคอีสาน ไม่ได้ห่างแบบคะแนน สส.เขต

ดูผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรฯ เป็นตัวอย่าง

คะแนนขึ้นหลักแสนทั้งคู่

ทิ้งกันหลักหมื่น

แม้ "ศราวุธ เพชรพนมพร" จากพรรคเพื่อไทย เอาชนะไปได้ แต่คะแนนของ "คณิศร ขุริรัง" พรรคประชาชน  ก็ไม่ได้ห่างแบบน่าเกลียด

หากคะแนนเป็นแบบนี้ทุกจังหวัด เป็นเรื่องยากที่ พรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคอันดับ ๑

เว้นเสียแต่ว่า พรรคเพื่อไทย ตี กทม.แตก ยึดสนามเลือกตั้งในภาคกลางได้มากกว่าเดิม

แต่เป็นเรื่องยาก

เพราะสนามเลือกตั้งอีสาน ที่เดิมทีพรรคเพื่อไทยส่ง บักหำน้อย ลงสมัครรับเลือกตั้งก็ชนะคู่แข่งได้ แต่ปัจจุบันไม่ง่ายอีกแล้ว

พรรคภูมิใจไทย พร้อมจะสอดแทรกเก้าอี้ สส.เขต

ส่วนพรรคส้มพร้อมที่จะกินส่วนแบ่งคะแนนพรรค

ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ "ทักษิณ" คงไม่ปลื้ม  ที่ผลการเลือกตั้ง ชาวอุดรฯ พร้อมใจกันแบ่งเค้กให้ทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคส้ม 

แต่ในทางการเมือง พรรคส้มจ่อคอหอย "เพื่อไทย-ทักษิณ" ถึงเมืองหลวงพรรคเพื่อไทย

"ทักษิณ" กลัวปรากฏการณ์ เพื่อไทย-ส้ม ตัดคะแนนกันเองในภาคอีสาน

หากปรากฏการณ์นี้เกิดกับการเลือกตั้ง สส.

เผลอๆ พรรคเพื่อไทยอาจกลายเป็นพรรคลำดับ ๓

ทำเป็นเล่นไป.