Kamontip Kpr
นาฬิกาตายแล้วค่ะลุง
#ปิดสวิตช์ทีวี
#ปิดสวิตช์ตัวเอง
ขำคักๆ กับคอมเมนต์ท้ายคอลัมน์ "คนปลายซอย" ที่เมื่อวาน ผมตั้งหัวข้อเรื่องว่า วัน "นาฬิกากรรม"!
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญประชุมพิจารณาคำร้องทั้ง ๖ ประเด็นของ "นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร" แล้ว เช้าวาน
ศาลมีมติแยกเป็น ๒ ส่วน
คือ ประเด็นที่ ๑ และประเด็นที่ ๓-๖ รวม ๕ ประเด็น
มีมติเอกฉันท์ "ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย"
ส่วนอีกประเด็น คือ "ประเด็นที่ ๒" ศาลฯ มีมติโดยเสียงข้างมาก (๗:๒) "ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย"
"ไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย" กับ "ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย" ฟังเผินๆ เหมือนกัน
แต่ "ต่างกัน" ครับ!
ภาษากฎหมาย ฟังง่ายแต่เข้าใจยากหน่อย ผมไม่เคยเรียนกฎหมาย ก็ต้องค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ จับประเด็น แล้ว "ปะติด-ปะต่อ" เตาะแตะเป็นความเข้าใจ
ดังนั้น เมื่อวาน เป็นธรรมดา ที่จะมีคน "ผิดหวัง" บ้าง
ยิ่งเห็นผมตั้งหัวเรื่อง วัน "นาฬิกากรรม" ก็มั่นใจ "คงมีซักประเด็น" ที่ศาลฯ จะ "รับไว้พิจารณา"
แต่ปรากฏว่า ๕ ประเด็น ศาลฯ "ไม่รับไว้พิจารณา"
มีประเด็นที่ ๒ "ประเด็นเดียว" เท่านั้น...
๗ เสียง "ส่วนใหญ่" ลงมติ "ไม่รับคำร้อง"
๒ เสียง "ส่วนน้อย" ลงมติ "รับคำร้องไว้พิจารณา"
สรุป ทั้งหมดที่นายธีรยุทธร้อง ก็ The endgame
"คุณ Kamontip Kpr" จึงคอมเมนต์ว่า "นาฬิกาตายแล้วค่ะลุง"
ฮ่ะๆๆๆๆ เอ็นดูนะเนี่ย
เปลว สีเงิน "ก็มนุษย์ตีนแดง-ตะแคงตีนเดินเหมือนคนทั่วไป" ไม่ได้เป็น "เทวดานิ้วเพชร" ที่ชี้คน-เป็นหมา, ชี้หมา-เป็นคนได้!
ฉะนั้น อย่าเชื่อผมให้มากนัก คิดซะว่าคุยกันตามประสาไปวันๆ ก็พอ
"นาฬิกากรรม" น่ะ ไม่ตายหรอก
เพียงแต่ ลุงตั้งนาฬิกา "ไม่ตรง" เอง!
มติศาลฯ เมื่อวาน ชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยเหตุและผลแล้ว
ที่ผิดหวัง เพราะใช้อารมณ์ คือ "ความรู้สึก" รับรู้ ไม่ได้ใช้หลักกฎหมาย หลักเหตุและผล ในการรับรู้-รับฟัง
คือ "คิดเอา-นึกเอา" ตามรัก-ตามชังตัวเอง เมื่อมติศาลฯ ออกมา ที่ตรงใจตัว ก็บอก "สมหวัง" ถ้า "ไม่ตรงใจ" ก็บอก "ผิดหวัง"!
ใน "ด้านอารมณ์" ผมก็แบบเดียวกับคุณ "Kamontip Kpr" นั่นแหละ
เพียงแต่ผมอ่านเอกสารข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนคุณ Kamontip Kpr" คงฟังแต่ข่าว ไม่ได้อ่านเอกสารข่าวเหมือนผม เลยไม่มีโอกาสได้พินิจ-พิเคราะห์
เอาละ มาลงตะไบกันซักนิด ก่อนสรุปเป็นความเห็น-ความเข้าใจ เราก็มาศึกษา "โจทก์" ที่เป็นหัวใจของเรื่องก่อน
"นายธีรยุทธ" ยื่นคำร้องขอให้ "ศาลรัฐธรรมนูญ" วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ กล่าวอ้างว่า
ทักษิณ ชินวัตร ผู้ถูกร้องที่ ๑ พรรคเพื่อไทย ที่ ๒
"ร่วมกันกระทำเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข" รวม ๖ ประเด็น
รัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ คือธง ที่ศาลฯ ต้องตั้งเป็นแนวยึดในการลงมติ
การประชุมอภิปรายเมื่อวาน (๒๒ พ.ย.๖๗).....
"ศาลฯ พิจารณาโดยการอภิปรายแล้ว เห็นว่า คดีนี้แม้นายธีรยุทธ "ผู้ร้อง" จะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดแล้ว
และอัยการสูงสุด "ไม่ดำเนินการ" ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ อันทำให้ผู้ร้องมีสิทธิยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ก็ตาม แต่การพิจารณาว่า "บุคคลใดจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง
จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมายและความประสงค์ระดับที่วิญญูชนคาดเห็นได้ว่า
น่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยการกระทำนั้น จะต้องกำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ"
แต่ทีนี้ ศาลฯ ท่านมองว่า..."มันยังห่างไกลเกินกว่าเหตุ"!
ห่างไกลยังไง?
ก็มาดูรายละเอียดรายประเด็นทั้ง ๖ กันเลย ว่าแต่ละตุลาการ ท่านลงความเห็นอย่างไรกันบ้าง
-ประเด็นที่ ๑ ทักษิณสั่งรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ
ให้เอื้อประโยชน์แก่ตัวเอง ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต
-ประเด็นที่ ๓ ทักษิณสั่งให้พรรคเพื่อไทย ร่วมมือแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชนซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิม
ที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
-ประเด็นที่ ๔ ทักษิณสั่งแทนพรรคเพื่อไทย เจรจากับแกนนำพรรคการเมืองอื่น ที่ร่วมรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน เพื่อหารือการเสนอชื่อบุคคลผู้สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่บ้านพักส่วนตัวของทักษิณ
-ประเด็นที่ ๕ ทักษิณสั่งการให้พรรคเพื่อไทยมีมติขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
-ประเด็นที่ ๖ ทักษิณสั่งให้พรรคเพื่อไทยนำนโยบายของตนเองที่แสดงวิสัยทัศน์ไว้ไปดำเนินการให้เป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา
ทั้ง ๕ ประเด็นนี้ ศาลฯ อภิปรายแล้ว ลงความเห็น ...
"ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า การกระทำของทักษิณและพรรคเพื่อไทย น่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง"
ดังนั้น กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง
มีมติเอกฉันท์ "ไม่รับทั้ง ๕ ประเด็นนั้นไว้พิจารณาวินิจฉัย"
สำหรับประเด็นที่ ๒....
ทักษิณสั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่ "สมเด็จฮุน เซน" ให้เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา นั้น
มติเสียงข้างมาก ๗:๒ "ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย"
๗ ท่าน คือ นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์, นายปัญญา อุดชาชน, นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม, นายวิรุฬห์ แสงเทียน, นายบรรจงศักดิ์ วงศ์ปราชญ์, นายอุดม รัฐอมฤต และนายสุเมธ รอยกุลเจริญ
โดยเห็นว่า....
"ยังไม่มีน้ำหนักพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสองน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง"
๒ เสียง "ข้างน้อย" นายจิรนิติ หะวานนท์ และนายนภดล เทพพิทักษ์
เห็นว่า.....
"มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของทักษิณและพรรคเพื่อไทยน่าจะทำให้เกิดผลเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้"
เป็นอันว่า .......
หนังเรื่อง "การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง" ทักษิณและพรรคเพื่อไทย แสดงนำ
ดูเหมือน "จบ"
แต่ถ้าดูการพิจารณาโดยการอภิปรายของ ๙ ตุลาการศาลฯ เมื่อวาน มี ๒ คีย์เวิร์ด น่าคิด
"คีย์เวิร์ด" แรก.....
"การกระทำนั้น จะต้องกำลังดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ"
"คีย์เวิร์ด" ที่ ๒....
๕ ประเด็น คือ ประเด็นทักษิณสั่งรัฐบาลอำนวยความสะดวกให้ตัวเองป่วยทิพย์
ประเด็น ทักษิณสั่งพรรคเพื่อไทยร่วมกับพรรคประชาชนแก้รัฐธรรมนูญ
ประเด็น ทักษิณเรียก ๕ พรรคไปกินมาม่าในจันทร์ส่องหล้า เพื่อเสนอชื่อนายกฯ แทนเศรษฐา
ประเด็น ทักษิณสั่งพรรคเพื่อไทยขับพรรคพลังประชารัฐออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และ
ประเด็น ทักษิณสั่งพรรคเพื่อไทยนำเรื่องที่ตัวเองแสดงวิสัยทัศน์ไปเขียนเป็นนโยบายรัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา
ทั้ง ๕ นี้ ศาลฯ บอกว่า....
"กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๔๙ วรรคหนึ่ง
นั่นแสดงว่า ประเด็นทั้ง ๕ ไม่ใช่ไม่เป็นประเด็น ไม่มีมูล ไม่มีเหตุ
หากแต่เป็นประเด็น มีเหตุ มีมูล ในฐานอื่น
แต่ในฐาน "ล้มล้าง" ขณะนี้ การกระทำนั้น "มันยังห่างไกลเกินกว่าเหตุ" เท่านั้น
แต่ "ไม่ห่างไกล" ที่จะนำเป็นเรื่องไปร้องตามช่องทางเดินของเรื่องตามฐานความผิดนั้นๆ
อย่างประเด็นที่ ๒ เรื่องพื้นที่อ้างสิทธิในอ่าวไทยบริเวณเกาะกูด ยังเสียงแตก เป็น ๒ ฝ่ายด้วยซ้ำ
ถ้านายธีรยุทธแยกและหยิบเฉพาะแต่ละประเด็นไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมและไปยื่นเรื่องตามช่องทางตามเหตุความผิดนั้นๆ
โอกาสที่คำร้อง "ต้องด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ" มีสูงมาก
วันนี้ "แฮปปี้ เดย์" ของทักษิณ กินแบ่งได้ ก็รีบกินซะ
ก่อนที่ "ทั้งตัว-ทั้งพรรค" จะถูก "กินรวบ"!
-เปลว สีเงิน
๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๗
วันเสาร์ที่ปลายซอย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วัน 'นาฬิกากรรม'
"๒๒ พฤศจิกา." คือวันนี้ละ ได้รู้กันซะทีว่าศาลรัฐธรรมนูญจะ "รับ-ไม่รับ" คำร้อง "นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่?
'วิชาการประจบโจร'
เอาละซี.... เมื่อยูเครนงัด "ขีปนาวุธพิสัยไกล" ถล่มรัสเซีย! ฝ่ายรัสเซีย ก็งัด "นิวเคลียร์" ขึ้นมาลูบคลำ พลางว่า "ถ้าไอ้น้องเล่นขนาดนี้ พี่ก็ยินดีสนอง"
'พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง'
ช่วงนี้ ถึงมกรา.ปีหน้า อย่ามัวงงงวยกับแฟชั่นแต่งตัวนายกฯ หญิงผู้งามเลิศในปฐพี จนลืมดูโลกเป็นอันขาด! เบิ่งกันไว้บ้างเน้อ....
"ผมไปใต้มาครับ"
จู่ๆหายไป ๒ วัน..... ก็เกรงใจท่าน กลับมาถึงสำนักงานตอน ๒ ทุ่มกว่า คุยในไทยโพสต์ไม่ทัน งั้นขอคุยในเว็บ"เปลว สีเงิน"แทนละกัน
พิลึก! 'รมว.คลัง' อ้างยังไม่ได้รายชื่อ 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ' คนใหม่
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปฎิเสธให้สัมภาษณ์ กรณีจะนำรายชื่อ นายกิตติรัต
ตามคาด! อสส.ไม่รับดำเนินการคดี 'ทักษิณ-เพื่อไทย' ล้มล้างการปกครอง
อัยการสูงสุดไม่รับดำเนินการคดีทักษิณ-เพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเเล้วพร้อมผลการสอบถ้อ