จากการที่รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เตรียมจัดการจราจรเพื่อดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย และเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนก่อนเริ่มดำเนินงานก่อสร้างโครงการ เบื้องต้นมีกำหนดจะเริ่มเบี่ยงจราจรในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง 5 สถานีแรก ได้แก่ สถานีบางขุนนนท์ สถานีศิริราช สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานียมราช และสถานีประตูน้ำ ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา เพื่อดำเนินงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคและก่อสร้างกำแพงกันดิน
โดย พล.ต.ต.ธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ได้ร่วมฟังแผนการจัดการจราจรร่วมกับ รฟม. และผู้รับจ้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยได้นำเสนอแผนการจัดจราจรและหารือแนวทางการปิดเบี่ยงจราจรกับ บช.น.และสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อบริหารและจัดการการจราจรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดในช่วงระหว่างดำเนินงาน โดยเร่งประชาสัมพันธ์การปิดเบี่ยงจราจรและเส้นทางเลี่ยงที่ให้ประชาชนไปใช้ทดแทน เพื่อสามารถวางแผนในการเดินทางได้
อีกทั้งต้องมีการพิจารณามาตรการบรรเทาความหนาแน่นด้านการจราจรในช่วงเวลาเร่งด่วนเพิ่มเติมในบริเวณพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เช่น การปรับทิศทางการสัญจรเป็นพิเศษในบางช่วงเวลา การกำหนดทางลัด ทางเลี่ยง เพื่อเป็นทางเลือกในการเดินทางและช่วยระบายการจราจร บรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โดยจะจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร พร้อมด้วยอาสาจราจรของผู้รับจ้าง ร่วมกันอำนวยความสะดวกกับประชาชนที่ใช้เส้นทาง
นอกจากนี้จะร่วมกันเฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์ตลอดระยะเวลาก่อสร้าง เพื่อพิจารณาจัดรูปแบบการจราจรต่างๆ ให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ลดผลกระทบต่อประชาชนผู้สัญจรทางถนนเป็นสำคัญ โดยจุดที่กังวลคือแนวถนนเพชรบุรี ที่ปัจจุบันมีปริมาณการจราจรหนาแน่น จึงต้องประเมินและวางแผนร่วมกันเพื่อหาทางให้มีผลกระทบต่อการสัญจรน้อยที่สุด
ขณะที่ นายกิตติกร ตันเปาว์ รองผู้ว่าการ (วิศวกรรมและก่อสร้าง) รฟม. กล่าวว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ด้านตะวันตก มี 11 สถานี เป็นใต้ดินตลอดสาย ซึ่ง รฟม.ได้แจ้งให้บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในฐานะผู้ร่วมลงทุน เริ่มงานเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ซึ่งบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ผู้รับจ้างของ BEM มีกำหนดจะเริ่มเบี่ยงจราจรในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง 5 สถานีแรก ได้แก่ สถานีบางขุนนนท์ สถานีศิริราช สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานียมราช และสถานีประตูน้ำ
โดยสถานีบางขุนนนท์จะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรชิดทางเท้า 1 ช่องจราจรแนวถนนสุทธาวาสตัดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ ส่วนสถานีศิริราชจะเป็นการจัดการจราจรในพื้นที่การรถไฟฯ ด้านใต้สะพานอรุณอมรินทร์ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อช่องจราจร, สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจะปิดเบี่ยงจราจรบริเวณถนนราชดำเนิน ฝั่งขาเข้าเมือง ช่วงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยถึงแยกผ่านฟ้าฯ, สถานียมราชปิดเบี่ยงจราจรบริเวณหน้าบ้านมนังคศิลา และสถานีประตูน้ำปิดเบี่ยงจราจรบริเวณหน้าสถานทูตอินโดนีเซีย
สำหรับอีก 6 สถานีที่เหลือจะดำเนินการปิดเบี่ยงจราจรครบทั้งหมดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ซึ่งแนวเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มจะผ่านถนนหลายสาย ที่มีสภาพการจราจรค่อนข้างหนาแน่น และมีชุมชน โรงเรียนโดยรอบ รฟม.และผู้รับจ้างก่อสร้างงานโยธาจึงได้ประสานขอความร่วมมือจากตำรวจนครบาลและสถานีตำรวจในพื้นที่กำหนดเส้นทางเลี่ยง และเพิ่มมาตรการลดผลกระทบต่อผู้ใช้เส้นทางให้มากที่สุด
ขณะที่แนวถนนราชดำเนินจะมีสายสีส้มตัดกับสายสีม่วงใต้ ดังนั้น รฟม.และ บช.น.ได้นำข้อมูลมาบูรณาการร่วมกันเพื่อจัดจราจรและทางเลี่ยง เพื่อให้งานก่อสร้าง 2 โครงการมีความสอดคล้องกัน นอกจากนี้ยังมีจุดที่ต้องรื้อสะพานข้ามแยก 3 จุด คือ 1.แยกถนนสุทธาวาส ตัดถนนจรัญสนิทวงศ์ 2.แยกราชเทวี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้เดือน ม.ค.2568 และ 3.สะพานข้ามแยกประตูน้ำ เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างแคบ ขณะที่แนวอุโมงค์รถไฟจะมาจากแยกราชปรารภ และเลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรีตัดใหม่ จะกระทบต่อการจราจรมาก คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ประมาณเดือน มี.ค.2569 ซึ่งในส่วนของการรื้อและสร้างสะพานใหม่นั้นจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี.
กัลยา ยืนยง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน
การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ
ของขวัญรัฐบาล
อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว
ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันเวทีโลก
ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ
ปี68ธุรกิจบริการอาหารยังโตต่อเนื่อง!
“ธุรกิจบริการอาหาร” ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตาในปี 2568 จากอานิสงส์ท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้การบริโภคอาหารน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐยังมีการอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ดันSMEอีอีซีบุกตลาดตปท.
ที่ผ่านมารัฐบาลอาจจะยังไม่ได้พูดถึงโครงการพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี มากนัก เนื่องจากคงจะยุ่งกับการบริหารงานในแนวทางอื่นๆ อยู่ แต่กับหน่วยงานอย่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
โรงไฟฟ้าฟอสซิลต้นทุนพุ่งโตช้า
ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าฟอสซิลยังคงมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในปี 2568 ความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจจะโต 1% ชะลอลงจาก 2.8% ในปี 2567 จากการใช้ไฟฟ้าในภาคการผลิตและภาคบริการที่เพิ่ม