บันทึกหน้า 4

 “ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” สมรภูมิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 24 พ.ย. ไม่เพียงแค่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนในสนามท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการหยั่งกระแสของทั้งสองฝ่ายในเวทีใหญ่ทางการเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะทัพแดงนั้นแพ้ไม่ได้ เพราะสนามแห่งนี้เปรียบเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง เช่นเดียวกัน หากส้มชนะ จะสะท้อนนัยทางการเมืองตามมามากมาย

ถึงขนาด นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร ใช้วิชามารโยนบาปให้คู่แข่งอย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ศาสดาของพรรคส้มเป็นผีตัวใหม่ โดยพาดพิงในประเด็นเคยหารือเกี่ยวกับเรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และการร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยใช้คำพูดในเรื่องเปลี่ยนโครงสร้าง จึงทำให้ร่วมรัฐบาลกันไม่ได้  

ด้าน "ธนาธร" นั่งไม่ติด ต้องโพสต์โต้ทันที สาเหตุสำคัญที่ "พรรคก้าวไกล" (ขณะนั้น) กับ "พรรคเพื่อไทย" ไม่อาจร่วมจัดตั้งรัฐบาลกันได้ มิใช่เรื่องมาตรา 112 แต่ "ทักษิณ" รู้เหตุผลดีว่าเกิดจากอะไร พร้อมแอบแซะ "นายใหญ่" ด้วยว่า น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา    

สาธิต ปิตุเตชะ อดีตสมาชิกพรรคและอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “จะเชื่อได้? กี่โมงครับ” 2 ผู้ยิ่งใหญ่ทางการเมือง ผู้นำจิตวิญญาณ

คนหนึ่งพูดถึงผลประโยชน์ของประชาชน มากกว่าผลประโยชน์พวกพ้องและครอบครัว ทำให้คนหายจน ไม่ทุจริต คอร์รัปชัน อีกคนหนึ่ง บอกว่าไม่เคยคิดล้มล้าง เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันหลักของชาติ ไม่ได้โฆษณาหรือใช้ประเด็นมาตรา 112 (เป็นนโยบายหลัก) มาเพื่อให้ได้คะแนนเสียงเลือกตั้ง  #แล้วคดีทุจริต ต่างๆ ที่ศาลตัดสินสมัยเป็นรัฐบาลนี่ไงดี #แล้วเด็กและเยาวชน ที่เสียชีวิต ถูกจับกุม คุมขัง ในคดี 112 ที่พวกเขาออกมารณรงค์ นี่จะช่วยเขายังไงดี

นอกจากนี้ ทักษิณยังพาดพิงไปถึงคนอื่นๆ ในพรรคก้าวไกลอีกด้วย โดย เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์  สะท้อนปรากฏการณ์ โดยโพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท–คุยการเมือง” เรื่อง "ทักษิณ อยู่ดีไม่ว่าดี ให้เด็กรุมถอนหงอก” สาระสำคัญว่า นายทักษิณ ชินวัตร ที่โจมตีพาดพิงพรรคประชาชนในหลายประเด็น เปรียบเหมือนการตบเด็กโชว์นาย แต่ในที่สุดเด็กก็ฮึดสู้ สวนกลับได้อย่างสะใจ

ขุนพลของพรรคประชาชนแต่ละคนขึ้นปราศรัยตอบโต้ประเด็นที่นายทักษิณเคยพูดไว้ นำเหตุผลมาหักล้างและย้อนกลับเข้าตัวนายทักษิณอย่างแสบๆ คันๆ ประเภทตาต่อตาฟันต่อฟัน ไม่ละเว้นเลยแม้แต่ประเด็นเดียว ถือว่าสะใจคอการเมืองเป็นอย่างยิ่ง จะโทษใครไม่ได้ เพราะนายทักษิณเป็นคนเปิดประเด็นไว้ก่อน แล้วให้เด็กมาถอนหงอกเล่น ทำให้เด็กเลิกเคารพนับถือ เสียผู้เสียคนตอนแก่

การเกิดวิวาทะจากการปราศรัยครั้งนี้ จะเป็นการบ่งบอกถึงความขัดแย้งทางความคิด ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนอย่างชัดเจน ลบล้างคำว่าพันธมิตรทางการเมือง หรือสัญญาใจ หรือดีลลับฮ่องกงได้อย่างชัดเจน 

เพราะนายทักษิณพยายามยัดเยียด และผลักให้พรรคประชาชนเป็นพรรคการเมืองหัวรุนแรง จ้องรื้อโครงสร้างประเทศ และเป็นอันตรายต่อสถาบันหลักของชาติ ต้องการปลุกปีศาจสีส้มมาหลอกหลอนชนชั้นนำ ต้องการเป็นหัวขบวนของฝ่ายอนุรักษนิยมอย่างเต็มตัวแล้ว

การประกาศทวงคืนแชมป์ให้พรรคเพื่อไทย ของนายทักษิณในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะได้ที่นั่ง 200 คนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าหากพรรคเพื่อไทยยังไม่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน ตระบัดสัตย์ หักหลังประชาชน เลือกข้างอยู่กับฝ่ายอนุรักษนิยม ซึ่งแย่งคะแนนกันระหว่างพรรคอนุรักษนิยมด้วยกัน ก็จะทำให้คะแนนของฝ่ายเสรีประชาธิปไตย เทให้กับพรรคประชาชนมากยิ่งขึ้น

เลือกตั้งครั้งต่อไป จะเป็นการแข่งขันกันในเรื่องจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรคการเมือง มากกว่าผลงานหรือเงินทุน และในที่สุดพรรคเพื่อไทยก็จะแพ้พรรคประชาชนอีกครั้งหนึ่ง

การปราศรัยปะทะคารมกันครั้งนี้ จะมีผลต่อการเลือกนายก อบจ.อุดรธานีหรือไม่ ไม่สามารถวัดได้ แต่ถ้าการเมืองระดับชาติ การปราศรัยตอบโต้กันแบบนี้ ถือว่าพรรคประชาชนได้เปรียบ ทักษิณขาดทุน.

 

คางดำ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ถึงคิว "ฉายาสภาประจำปี 2567" หลังเปิดฉายารัฐบาลไปก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาตลอดของนักข่าวสายการเมือง ที่ต้องการสะท้อนภาพการทำงานของ 2 สถาบันหลักของบ้านเมือง ฝ่ายบริหารซึ่งก็คือรัฐบาล

บันทึกหน้า 4

ในวันที่เข้าสู่ช่วงเตรียมนับถอยหลังอำลาปี 2567 ปีมะโรง เพื่อเตรียมต้อนรับปีมะเส็ง งูเล็ก 2568 ทำให้ตอนนี้คนส่วนใหญ่วางแผนเดินทางท่องเที่ยวหรือกลับภูมิลำเนาบ้านเกิดเพื่อพักผ่อนปีใหม่กันแล้ว

บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด "ฉายารัฐบาล" ปีนี้ออกมาเร็วกว่าปกติ สื่อทำเนียบรัฐบาลตั้งฉายาว่า "รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง"

บันทึกหน้า 4

“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” ตามธรรมเนียม ใกล้สิ้นปีสื่อประจำทำเนียบฯ จะตั้งฉายารัฐบาลและคณะรัฐมนตรี เพื่อสะท้อนการทำงาน และบทบาททางการเมืองต่างๆ ในตลอดปี 67

บันทึกหน้า 4

เริ่มนับถอยหลังสู่เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ใคร?!? หน้าแห้ง!! ใคร?!? กระเป๋าแห้ง!! ก็สามารถไปส่งเสียงร้อง "จิงเกิลเบล" ได้เอาที่สบายใจ เพราะสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าถนนสายช็อปปิ้ง ระดมกันจัดงานคึกคัก หวังว่าจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายได้

บันทึกหน้า 4

ถึงมาช้าแต่เข้มข้น "ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี" ประธานอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา ประกาศขึงขังลุยสอบจริยธรรมโรงพยาบาลตำรวจ ปมป่วยทิพย์ชั้น 14 "เรื่องการสอบสวน ต้องมีอำนาจอยู่แล้ว ไม่มีอำนาจไม่ได้