คุณนุชี่-อนุชา บุญยวรรธนะ..
อดีต.. “นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย” ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งถึง 2 สมัย (4 ปี) ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนเมื่อหลายวันก่อนนู้น
หลังการส่งต่อตำแหน่งนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยคนใหม่ให้กับคุณมะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล โดยมีประเด็นหนึ่งที่ไม่รู้ว่าผู้ให้สัมภาษณ์จะเผลอ-หลงลืม
หรือเป็นความไม่รู้ส่วนตัวก็ไม่แน่ใจนัก นั่นคือที่คุณนุชี่ว่า... “...รวมไปถึงนโยบายที่สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยมีการส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นก็ยังคงเดินหน้าทำอย่างต่อเนื่อง
อย่างการร่างพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ขึ้นใหม่เพื่อยื่นต่อรัฐสภา โดยต้องการยกเลิกการทำงานของกองเซ็นเซอร์ ที่มองว่าเป็นการตีกรอบความคิดของคนทำงาน
พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ที่จะร่างใหม่นี้จะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยให้ดียิ่งขึ้น เปลี่ยนจากการแบนหรือเซ็นเซอร์เป็นการจัดเรตโดยคนในอุตสาหกรรมเอง
ซึ่งถือเป็นระบบที่ทั่วโลกส่วนใหญ่ใช้กัน ซึ่งหากมีผู้ผลิตสร้างงานที่ไม่เหมาะสม กฎหมายอื่นๆ ก็ยังสามารถนำมาควบคุมการทำงานได้”
คุณนุชี่เป็นนายกสมาคมฯ มา 2 สมัยไม่รู้จริงๆ รึว่า ปัจจุบันเรามี-เราใช้พระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 ที่เปลี่ยนจากระบบ “เซ็นเซอร์”..
มาเป็นการกำหนดลักษณะของประเภทภาพยนตร์หรือแบบ “เรตติ้ง” มาตั้งวันที่ 10 สิงหาคม 2552 นู่นแล้ว!
นั่น..หมายความว่าการตรวจพิจารณาภาพยนตร์แบบ CENSOR ได้ถูกเลิกใช้มาตั้งแต่ปีมะโว้ และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยก็ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
ฉะนั้น..ที่บอกว่าการยกร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ขึ้นมาใหม่ (อีกครั้ง) เพื่อต้องการยกเลิกการทำงานของกองเซ็นเซอร์ จึงไม่น่าจะถูกต้อง และอาจทำให้เกิดความสับสนได้
เหมือนที่ผมกำลังสับสนว่า พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ ที่เตรียมจะยื่นต่อรัฐสภานั้น เนื้อหาสาระดีกว่า-วิเศษกว่าของเก่าหรืออย่างไร?
เพราะเท่าที่ใช้ๆ กันอยู่ร่วมๆ จะ 20 ปี ก็ไม่เห็นว่า พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 จะเป็นอุปสรรคอะไรมากมายต่อการพัฒนา-ยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย
หนังไทยที่เก็บรายได้เป็น 100 ล้าน ก็ยังคงเป็นหนังธรรมดาๆ พื้นๆ ทั่วไป ไม่ได้แปลกประหลาด หรือหมิ่นเหม่ที่จะหลุดไปจากเรต 20- หรือเรตห้ามเผยแพร่ในราชอาณาจักรแต่อย่างใด
และส่วนใหญ่ผู้สร้าง-ผู้กำกับก็ยังคงวนเวียนสร้างอยู่แต่กับหนังผี หนังตลก หนังรัก-อารมณ์ดี หนังชายรักชาย หนังหญิงรักหญิง นานๆ ถึงจะมีแปลกตาออกมาให้เห็น
ซึ่งส่วนใหญ่ที่ “แปลกตา” นั้น ก็ดูจะล้มเหลวด้านรายได้ จะด้วยเพราะคนดูไม่ให้ความสนใจ หรือเป็นเพราะผู้กำกับ-คนเขียนบทมือไม่ถึงก็ไม่อาจจะรู้ได้!
ที่คุณนุชี่ได้ยกตัวอย่างการทำงานของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศเกาหลีใต้ว่า.. “ก่อนหน้านี้มีกองเซ็นเซอร์ช่วยตรวจสอบการทำงาน
แต่เมื่อประเทศต้องการยกระดับอุตสาหกรรมให้เติบโตมากขึ้น ได้ทำการยกเลิกกองเซ็นเซอร์ ซึ่งผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น
คือผลงานภาพยนตร์ ซีรีส์ของเกาหลีเป็นที่ยอมรับในหลายๆ ประเทศ” นั้น
ถามว่า..แล้วทำไมภาพยนตร์ ซีรีส์ของไทยจึงยังไม่เป็นที่ยอมรับในหลายๆ ประเทศล่ะ ในเมื่อก็ยกเลิกกองเซ็นเซอร์มาจะร่วม 2 ทศวรรษแล้ว..หือ?
เป็นไปได้ไหมว่า..ภาพยนตร์ ซีรีส์เกาหลี พล็อตเรื่องดี บทภาพยนตร์แข็งแรง พูดตรงๆ “คนเขียนบท” มีคุณภาพมากกว่าเรา จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบ-ยอมรับของคนดู
ผมไม่ได้จะปรามาสหรือดูแคลนคนทำหนังไทย กลับกันผมมองว่าผู้กำกับหลายๆ ท่านมีความรู้ความสามารถไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าชาติอื่นใด ไม่งั้นหนังไทยไม่พัฒนามาถึงขั้นนี้หรอก
เพียงแต่เราต้องยอมรับความจริงว่าวงการหนัง-ซีรีส์ไทยยังขาดแคลน “คนเขียนบท” เก่งๆ-ฝีมือดี ส่วนการกำหนดประเภทหนังหรือเรตติ้งนั้นอยู่ที่ปลายเหตุ
ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับการร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ ใหม่ เพียงติดใจเล็กน้อย..
หากจะยกเลิก “การแบนหนัง”!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ได้หนักหัวใคร!
นึกว่าจะเป็นแต่นายทักษิณ ชินวัตร-สทร... นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ก็อีกคนที่ควรจะได้ตำแหน่ง “เสือกทุกเรื่อง” ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในเวลานี้!
ชีวิตอย่าได้มีสุข?
วันนี้-15 พฤศจิกายน..เพ็ญเดือนสิบสองน้ำนองเต็มตลิ่ง ถ้าเป็นแต่ก่อนก็จะได้ยิน.. “ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแล้ว ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง” ดังกระหึ่มล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ๆ เพื่อเกริ่นให้รู้ว่า “เทศกาลลอยกระทง” กำลังจะมาถึง!
ทักษิณทำผิดอะไร?
“เหลือเชื่อ 16 ปีผ่านไป.. คนกลุ่มเดียวกันยังใช้ประเด็นเรื่องเขตแดนไทย-กัมพูชา โจมตีรัฐบาลอยู่เหมือนเดิม”
นิพิฏฐ์..คิดอะไรอยู่
8 มกราคม 2567.. คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุงหลายสมัย โพสต์ข้อเขียนหัวข้อ “ป่วยจริง หรือ ป่วยทิพย์ ทำให้จบเถอะ” พร้อมกับเนื้อหาบางตอนว่า..
ไม่ใช่แค่ “ขาประจำ”
ใครเชื่อก็ควายแล้ว! ผมหมายถึงที่นายทักษิณ ชินวัตร ตอบนักข่าว กรณีเรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปทานข้าวที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ว่า.. “ไม่ใช่เลย ไปกินมาม่า มาม่าอร่อย” น่ะ!
“แม่หยัว”..เรตติ้งสะดุด?
หวั่นใจตั้งแต่เห็น! แล้วที่สุดก็เป็นดั่งคิด สำหรับละครซีรีส์ยอดฮิตเรื่อง “แม่หยัว” ทางช่อง ONE 31 กับฉากที่แมวดำถูกวางยา เห็นภาพชักกระตุก ตัวเกร็ง พร้อมขย้อนอาหารออกมา