'ทักษิณ' จนมุม!

ฟังหูไว้หู

"ทักษิณ" กำลังจะจนมุม!

คดีผู้ป่วยเสี่ยงเสียชีวิตที่ห้องวีไอพี ชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจ กำลังมาถึงจุดสำคัญ

"มีมูล"

ข่าวมาจากโพสต์ในสื่อโซเชียลของ "ไพศาล พืชมงคล" ลึกพอสมควร

"...ด่วน

บิ๊กโจ๊ก ให้การต่อปปช. ยืนยัน ป่วยทิพย์ เช่นเดียวกับพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส

ในขณะเดียวกัน มีข่าวว่าคณะตรวจสอบไต่สวนของปปช. ได้ทำการตรวจสอบไต่สวนเสร็จแล้ว มีความเห็นพร้อมกันว่า คดีป่วยทิพย์มีมูล และสามารถชี้มูลความผิดได้

เตรียมส่งคณะกรรมการปปช.ชุดใหญ่ ลงมติชี้มูลความผิดกราวรูด          

แม้ว่าโรงพยาบาลตำรวจ จะยังไม่ส่งเวชระเบียน แต่คณะตรวจสอบไต่สวนก็เห็นว่า พยานบุคคลและพยานหลักฐานอื่นทั้งหมด ฟังได้แล้วว่าเป็นการป่วย

และการไม่ส่งเวชระเบียนนั้น ก็รับฟังได้ว่า เป็นการจงใจเบียดเบียนพยานหลักฐาน ซึ่งหมออ้างว่าไม่มีการตรวจรักษาแต่ประการใด เพราะถ้ามีการตรวจรักษาพยาบาล ก็ต้องมีการบันทึกเวชระเบียนไว้

การที่ไม่ส่งเวชระเบียน โดยอ้างว่าไม่มี ก็เป็นด้วยก็เป็นข้อเท็จจริงที่ยืนยันได้ว่า ไม่มีการตรวจรักษาจริงจึงเป็นการป่วยทิพย์

ในขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า ได้มีบิ๊กโม่ง สั่งคณะตรวจสอบไต่สวนว่า ให้ทำเรื่องเป็นยุติเรื่อง ว่าคดีไม่มีมูลความผิด ถ้าหากไม่เสนอยุติเรื่อง ก็จะไม่มีการนำเสนอต่อคณะกรรมการปปช.

การที่มีข่าวเช่นนี้หรือสนั่นขึ้นมา ก็เป็นที่คาดหมายว่า คณะตรวจสอบไต่สวน จะยืนยันความคิดเห็นเดิม แม้จะไม่เสนอก็เป็นความรับผิดชอบของผู้มีหน้าที่นำเสนอในที่สุดก็จะฝืนกระแสสังคมไม่ได้..."

สรุปคือ คดีนี้มีมูล ป.ป.ช.เตรียมฟันกราวรูด

แต่อีกด้าน มีคำสั่งวิ่งเต้นกับ ป.ป.ช.

ให้ยุติเรื่อง

ไม่จำเป็นต้องเชื่อทั้งหมดครับ เพราะยังไม่มีข่าวที่เป็นทางการออกมา

แต่ก็มีแนวโน้มสูงที่ ป.ป.ช.จะชี้มูล เพราะหากนิ่งเงียบ หรือยุติเรื่องไป ป.ป.ช.จะเป็นฝ่ายถูกถล่มเละไม่มีชิ้นดี

คดีนี้ถูกบังคับให้ชี้มูลตั้งแต่แรกแล้วครับ

คนบังคับไม่ใช่ใครอื่น คือ "ทักษิณ" กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจนั่นเอง

การที่ ป.ป.ช.ขอเวชระเบียนไป ๓ รอบ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากโรงพยาบาลตำรวจ คือหนึ่งในเหตุผลที่ต้องชี้มูล

เพราะส่อเจตนาปกปิด

เมื่อสภาวการณ์เป็นเช่นนี้ ไม่มีทางเลี่ยงอื่น ป.ป.ช.จำต้องชี้มูล

เบื้องต้นต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า โรงพยาบาลตำรวจจัดทำเวชระเบียนของ "ทักษิณ" เอาไว้

เหตุผลง่ายๆ ผู้ป่วยทุกคนที่เข้ารับรักษาตัวที่โรงพยาบาล ต้องมีเวชระเบียนกันทั้งนั้น

ขนาดพา หมา แมว ไปหาหมอ ทางคลินิกยังต้องทำเวชระเบียนไว้ ไม่งั้นยุ่งตายโหงเลยครับ

แต่เหตุที่โรงพยาบาลตำรวจไม่ส่งให้ ป.ป.ช. ก็อ้างเรื่องความลับของผู้ป่วยนั่นแหละครับ เมื่อผู้ป่วยไม่ยินยอม  โรงพยาบาลก็ไม่ยินดี

เอาจริงๆ นะ อยากช่วย "ทักษิณ" ครับ จะได้มูฟออนเรื่อง นักโทษเทวดาป่วยทิพย์กันเสียที

แต่ "ทักษิณ" ต้องช่วยตัวเองก่อน 

 เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประโยชน์สูงสุดจากกระบวนการ และตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความร่วมมือกับผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ แพทยสภา สภาการพยาบาล  สภาเภสัชกรรม ทันตแพทยสภา สภากายภาพบำบัด สภาเทคนิคการแพทย์ และคณะกรรมการการประกอบโรคศิลปะ จึงได้ร่วมกันออกประกาศรับรองสิทธิและข้อพึงปฏิบัติของผู้ป่วย ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ เดือนสิงหาคม  พ.ศ. ๒๕๕๘ ไว้ดังต่อไปนี้

๑.ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะได้รับการรักษาพยาบาลและการดูแลด้านสุขภาพตามมาตรฐานวิชาชีพจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ

๒.ผู้ป่วยที่ขอรับการรักษาพยาบาลมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริงและเพียงพอเกี่ยวกับการเจ็บป่วย การตรวจ การรักษา ผลดีและผลเสียจากการตรวจ การรักษาจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ด้วยภาษาที่ผู้ป่วยสามารถเข้าใจได้ง่าย เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอม

ให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่ในกรณีฉุกเฉิน อันจำเป็นเร่งด่วนและเป็นอันตรายต่อชีวิต

๓.ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตมีสิทธิได้รับการช่วยเหลือรีบด่วนจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยทันทีตามความจำเป็นแก่กรณี โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอความช่วยเหลือหรือไม่

๔.ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบชื่อ สกุล และวิชาชีพของผู้ให้การรักษาพยาบาลแก่ตน

๕.ผู้ป่วยมีสิทธิขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่นที่มิได้เป็นผู้ให้การรักษาพยาบาลแก่ตน และมีสิทธิในการขอเปลี่ยนผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพหรือเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ ทั้งนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของสิทธิการรักษาของผู้ป่วยที่มีอยู่

๖.ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับการปกปิดข้อมูลของตนเอง เว้นแต่ผู้ป่วยจะให้ความยินยอมหรือเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ เพื่อประโยชน์โดยตรงของผู้ป่วยหรือตามกฎหมาย

๗.ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลอย่างครบถ้วนในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวจากการเป็นผู้เข้าร่วมหรือผู้ถูกทดลองในการทำวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ

๘.ผู้ป่วยมีสิทธิได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏในเวชระเบียนเมื่อร้องขอตามขั้นตอนของสถานพยาบาลนั้น ทั้งนี้ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิหรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลของผู้อื่น

๙.บิดา มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรม อาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุยังไม่เกินสิบแปดปีบริบูรณ์ ผู้บกพร่องทางกายหรือจิต ซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิด้วยตนเองได้

ก็ง่ายๆ ตามนี้ครับ

เรื่องนี้เป็นคดีความไปแล้ว

ในทางกฎหมาย เวชระเบียน คือสิ่งที่จะทำให้ "ทักษิณ" หลุดพ้นจากคดีนี้ไปอย่างมีศักดิ์ศรี และเต็มไปด้วยเกียรติภูมิ

ไม่ยากเย็นอะไรเลยครับ

ที่สำคัญ ไม่กินเวลาอันมีค่าของ "ทักษิณ" อีกด้วย

เห็นมั้ยครับ มันง่ายมาก แค่ "ยินยอม" เท่านั้นเอง

แต่ไม่เลือกที่จะทำกัน

บอกตรงๆ ครับ สงสัยไม่หายว่า หากมีการสมคบคิดไม่ให้ "ทักษิณ" ติดคุกแม้แต่วันเดียว มันต้องเตรียมการกันอย่างรอบคอบ

เรื่องเวชระเบียนปลอม ขี้ผงเลยครับ

ทำปลอมๆ ตั้งแต่วันแรกที่ "ทักษิณ" เข้ารักษาตัว ยันวันสุดท้าย ใครจะไปแยกแยะออก

แต่ไม่ทำ!

ย่ามใจกันจริงๆ ครับ.    

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผนงรจตกม.

รัฐบาลนี้แปลกครับ... บอกว่าข้างหน้ามีเหว อย่าเดินไป

จะเห็นปรากฏการณ์ใหม่

มวยถูกคู่จริงๆ "ทักษิณ-จตุพร" แค้นมันลึกจนปลายตีนไม่น่าจะหยั่งถึงแล้ว วิถีของทั้ง ๒ คน น่าจะบรรจบได้ยาก แต่จะเกิดปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นมาแทน

'ทักษิณ' ภาคสุดท้าย

เป็นพื้นฐานของคนจริงๆ ครับ ความฉิบหายวายป่วงของรัฐบาลระบอบทักษิณช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ใชเรื่องคนอื่นทำ หรือเกิดจากการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด

โกงซ้อนโกง

ต้องยกนิ้วให้ครับ อย่าเข้าใจผิด...นิ้วโป้ง ครับ ฉายารัฐบาลถ้าไม่มีฉายา “พีระพัง” ร่วมด้วย บอกตรงๆ ว่า จืดไปเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่า ฉายารัฐบาล และรัฐมนตรี จะออกมาแนวนี้

"ทักษิณ" ยังต้องการอำนาจ

ยังคาใจกันเยอะครับ... ตั้งแต่ "ทักษิณ ชินวัตร" กลับมาไทยในรอบ ๑๗ ปี จากนักโทษที่ไม่ยอมติดคุก เพราะป่วยวิกฤตห่างหมอไม่ได้ มีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง

อนาคต'ส้ม-แดง'จับมือ

เข้าใจตรงกันนะครับ... ขอชมสักวัน "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" เจ้าของตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี วิเคราะห์การเมืองได้ตรงใจจริงๆ