หลังจากมีกระแสข่าวว่านักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะกูดลดลง 30% จากกรณีการแบ่งผลประโยชน์พื้นที่อ้างสิทธิ์ทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา
เรื่องดังกล่าวนี้ ว่าที่ร้อยตรีกรกฏ โอภาส ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ จากการสำรวจโดยใช้ฐานข้อมูล 20 โรงแรม ต่างๆในพื้นที่ พบว่าอัตราการเติบโตของนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1% และอยู่ในเกณฑ์ตามปกติ
ขณะที่ นายสวงค์ รำไพ ชาวบ้านเกาะกูด ผู้อาวุโสอายุ 92 ปี ผู้ที่อาวุโสที่สุดบนเกาะกูด เล่าให้ฟังว่า จำนวนนักท่องเที่ยวปริมาณไม่ได้ลดลงมาก อีกทั้ง นักท่องเที่ยวยังมีจำนวนมากแต่แบ่งไปตามอ่าวต่างๆ ของเกาะ พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาที่เกาะกูด เพราะเป็นที่สงบ ไม่มีนักเลง ไม่มีขโมย นอนเปิดประตูทิ้งไว้ได้
“ก๋งวัย92 ปี” ยืนยันว่า ตนเองอยู่บนเกาะกูดมาตั้งแต่เกิด จนครบอายุ 92 ปี การอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ไม่มี บรรพบุรุษก็ยืนยันว่าเกาะกูดเป็นของไทย
นายสุธี ศิราชนิยม ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 อ.เกาะกูด ยอมรับว่า นักท่องเที่ยวมีปริมาณปกติอยู่แล้ว ไม่ได้มีผลกระทบมากเนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ช่วงนี้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ภาคเหนือเพราะเข้าฤดูหนาว หลังจากนี้เชื่อว่าจะมาเยือนเกาะกูดเช่นเดิม
ขณะที่ “มท. หนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้พบปะกับนักท่องเที่ยวเกาะกูด จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 11 พย.ที่ผ่านมา ระหว่างการเดินทางมาตรวจราชการ
ซึ่งตนเองได้รับรายงานว่า มีนักท่องเที่ยวและประชาชนมีความกังวลเกี่ยวกับ MOU 44 จึงยกเลิกการเดินทาง เพราะไม่มั่นใจว่าจะสามารถเดินทางมายังเกาะกูดได้หรือไม่ ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และทุกคนเดินทางมาเที่ยวได้ปกติ
จึงอยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังเกาะกูด เพราะเกาะกูดเป็นของประเทศไทยและคนไทยทุกคน ที่นี่คนไทยทุกคนมีสิทธิ์มาเที่ยวมาพักผ่อน เกาะกูดผมพึ่งมาครั้งแรก น้ำใสเห็นตัวปลาทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นลำธารหรือทะเล
“วันนี้ผม และ รัฐบาลมาสร้างความมั่นใจให้เป็นที่ประจักษ์ว่าที่นี่คือแผ่นดินไทย ไม่มีวันสูญเสียไปให้กับใครแม้แต่ตารางนิ้วเดียว “ มท.1ให้ความมั่นใจ
รัฐบาลและชาวบ้านแท้ๆช่วยการันตีขนาดนี้ นักท่องเที่ยวจะพลาดมาเยือนเกาะกูดได้อย่างไร
ช่างสงสัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หัวหน้าแก๊งเด็ก
พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย
ไร้บอดี้การ์ด
ต้อนรับปีใหม่ปีงู 2568 แล้ว แต่ภารกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเข้มข้นเช่นเดิม หลังเห็นรีวิวส่งท้ายปีของ รทสช. ที่บอกว่า พร้อมพังทุกอุปสรรค เพื่อประโยชน์ชาติ ทั้งพัง..การผูกขาด, พัง..ระบบที่เน่าเฟะ และพัง..การโกงกินทุกรูปแบบ พร้อมผลิตเสื้อพรรคสีน้ำเงิน สกรีนข้อความ “พัง! เพื่อประโยชน์ชาติ” ให้ได้เห็นกัน
“เป็นกำลังใจให้เด็กทุกคน”
เมื่อผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ที่ทุกคนเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข ต่อไปจะเป็นวันที่เด็กๆ หลายคนรอคอย นั่นคือ วันเด็กแห่งชาติ ซึ่งจัดตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือน ม.ค.ทุกปี โดยปี 68 ตรงกับวันที่ 11 ม.ค.นี้
บ๊ายบายปีมะโรง
ส่งท้ายปี 67 ต้อนรับปีใหม่ 68 มะเส็ง งูเล็ก ด้วยบทกลอนการเมืองจาก “บัญญัติ บรรทัดฐาน” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยกให้เป็น สส.ในตำนานท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่กล่าวขานโดยเฉพาะเวลาได้ลุกขึ้นอภิปรายในสภา ในฐานะฝ่ายค้าน ชาวบ้านหลายคนติดตามรับฟัง เพราะมีลีลาที่เป็นเฉพาะตัว
มือแทน 'อุ๊งอิ๊ง'
เป็นเสนาบดีมาตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน จนมาถึงรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สำหรับ ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)
สมกับกำกับดูแลสื่อ
เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่ได้รับฉายา จิราพอ (ล) สำหรับ หนูน้ำ-จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนาบดีอายุน้อย