“ถ้าไม่เลือกเรา...เขามาแน่”...ทำให้เขาชนะขาดลอย

ผมไม่แน่ใจว่ากว่าแฟนคอลัมน์จะได้อ่านบทความนี้ เรื่องที่ผมจะเขียนนั้นมันแห้งเกินไปหรือเปล่า เพราะกว่าจะถึงวันที่ได้อ่านบทความนี้ เรื่องนี้อาจจะเก่าไปแล้วก็ได้ อาจมีมุมมองอื่นที่ใหม่กว่าและทันกว่า แต่ ณ เวลาที่ผมเขียนอยู่ ผลการเลือกตั้งในสหรัฐยังสดๆ ร้อนๆ ครับ

ถ้าจะถามว่า ผลการเลือกตั้งทำให้คนช็อก ทำให้คนตกใจ ทำให้คาดไม่ถึง มันอยู่ที่ว่าถามใคร ถ้าถามบรรดา “นักวิเคราะห์แม่นๆ.... หลังผลออกมาแล้ว” เขาจะประกาศให้คนได้ยินชัดๆ ว่า “Trump ชนะอยู่แล้วววว รู้ตั้งนาน” (แต่ถามก่อนผลออกมา ไม่พูดเต็มปอดขนาดนี้) แต่ถ้าถามคนทั่วไป จนวันสุดท้ายการหาเสียง มันยากที่จะฟันธงว่าใครชนะ

ผมถึงพูดอยู่เสมอว่า ผมไม่แปลกใจถ้าทรัมป์ชนะ....แต่จะแปลกใจถ้าแฮร์ริสแพ้ เมื่อผลออกมาแล้วที่ผมแปลกใจคือคะแนนที่ทิ้งห่างระหว่างทรัมป์กับแฮร์ริส ผมแปลกใจที่ทรัมป์ได้คะแนน Popular Vote ทิ้งห่างแฮร์ริส เหมือนทรัมป์เป็นผู้สมัครที่ไม่เคยมีประวัติเสียมาก่อน เหมือนไม่มีคดีติดตัว ไม่มีประวัติเป็นปมด้อย ไม่มีผลงานที่ไม่ได้เรื่อง คนอเมริกันลืมง่ายกว่าคนไทย (ที่ลืมง่าย) อย่างงั้นเหรอ?

ความจริงแล้ว ระบบการเลือกตั้งของแต่ละประเทศ จะมีความแตกต่างกัน ในความแตกต่างมีอะไรที่เหมือนกัน และในความเหมือนกันมีอะไรที่แตกต่างกัน พูดไปคนอาจหาว่าผมเล่นคำ แต่นอกจากระบบที่แตกต่างกันจริงจัง ในการหาเสียงทุกที่มีความคล้ายๆ กันอยู่ครับ

อย่างเช่นบ้านเรา พื้นฐานการหาเสียงจะหนีไม่พ้นวลี “ถ้าไม่เลือกเรา....เขามาแน่” คือทำอย่างไรหรือพูดอะไรให้ฝ่ายตรงข้ามดูไม่ดี ขาดศักยภาพ และสร้างความเชื่อใจในฝ่ายเราให้มากที่สุด จะเห็นว่าในการเลือกตั้งทุกระดับ ทุกครั้ง ซึ่งถามว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่เวิร์กไหม? ผมว่าเวิร์กครับ เพราะผ่านมากี่ยุคๆ ยุทธศาสตร์นี้ ใช้ได้ตลอด และจะใช้ตลอดไป

อย่าว่าแต่บ้านเราเลย ทุกประเทศก็ใช้ยุทธศาสตร์นี้ ในสหรัฐครั้งนี้ฝ่ายแฮร์ริสบอกว่า ถ้าไม่เลือกเรา ทรัมป์มาแน่ ส่วนฝ่ายทรัมป์ก็ประกาศว่า ถ้าไม่เลือกเรา แฮร์ริสมาแน่ ทำให้ต่างฝ่ายต่างกลัวอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์ 9-11 ขึ้นมา

เหตุการณ์ตึกเวิลด์เทรดถล่มนั้น เป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญคนทั่วโลก มีอยู่ภาพหนึ่ง หลอนใจผมจนถึงวันนี้ครับ เป็นภาพผู้ชายกำลังตกจากตึกอยู่ ซึ่งช่วงนั้นตึกยังไม่ถล่มลงมา แต่เครื่องบินพุ่งชนไปแล้ว ดังนั้นผู้ที่อยู่ชั้นสูงๆ (สูงกว่าจุดที่เครื่องบินพุ่งชน) มีหนทางหนีออกจากตึกลำบาก จะเดินลงบันไดหนีไฟ แทบจะเดินไม่ได้เพราะไฟไหม้และมีเครื่องบินกลางตึก จะลงลิฟต์ ผมเชื่อว่าลงไม่ได้ ดังนั้นมีหนทางอะไรที่จะเอาตัวรอดออกจะตึกที่กำลังไฟลุกอยู่?

ตามข่าวรายงานว่า หลายคนกระโดดออกจากตึก ทั้งๆ ที่อยู่ชั้นสูงประมาณ 80 ชั้นขึ้นไป ทั้งที่รู้ว่า ก้าวออกจากหน้าต่างปุ๊บ มีแต่ตายเท่านั้น แต่เลือกทางเลือกนี้ เพราะดีกว่าสิ่งที่อยู่ข้างหลัง ผมไม่อยากคิดว่า มีอะไรที่เลวร้ายไปกว่าการกระโดดออกจากตึกสูงขนาด 80 กว่าชั้น อะไรอยู่ข้างหลังเขา ทำให้คิดว่ากระโดดจากตึกสูงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า? แค่คิดก็หลอนครับ รูปดังกล่าวคือ The Falling Man (ถ่ายโดย Richard Drew)

การเป็นประธานาธิบดีของแฮร์ริส ทำให้คนอเมริกันจำนวนไม่น้อยกลัวขนาดลงคะแนนให้กับทรัมป์หรือครับ?

ผมไม่บอกว่าการเลือกตั้งครั้งนี้แฮร์ริสแพ้มากกว่าทรัมป์ชนะ เพราะชนะคือชนะ และแพ้คือแพ้ครับ นอกจากผมไม่ใช่พวก “นักวิเคราะห์แมนๆ.... หลังผลออกมาแล้ว” ผมไม่ใช่พวกที่วิเคราะห์อะไรถูก....หลังผลออกมาเหมือนกัน เพราะเมื่อผลออกมาใครวิเคราะห์อะไรก็ถูกหมด

แต่ผมสงสัยว่า ทำไมคนอเมริกันรู้ทั้งรู้ว่าทรัมป์เป็นแบบไหน มีผลงานอะไร มีจุดยืนอย่างไร และเป็นประธานาธิบดีแบบไหน ทำไมยังเทคะแนนให้เขาขนาดนี้ครับ? กลัวแฮร์ริสจะเป็นประธานาธิบดีขนาดนั้น? ไม่พอใจในตัวแฮร์ริส? รักทรัมป์? ไม่พอใจกับโจ ไบเดน? มีปัจจัยอะไรทำให้คนนำชัยชนะให้กับทรัมป์แบบขาดลอยขนาดนี้?

ตอนแฮร์ริสเข้ามาเป็นนารีขี่ม้าขาว (ช่วงที่ไบเดนถอนตัว) ตอนนั้นกระแสไปที่แฮร์ริสหมด ยิ่งหลังดีเบตระหว่างแฮร์ริสกับทรัมป์ แฮร์ริสยิ่งดูดี จากวันนั้นถึงวันนี้ เกิดอะไรขึ้นครับ? มีอะไรทำให้คะแนนของแฮร์ริสทั้งสู้ทรัมป์ไม่ได้ และยังได้คะแนนต่ำกว่าที่ไบเดนเคยได้?

ความเบื่อหน่ายของคนอเมริกันที่มีต่อไบเดนในการบริหาร 4 ปีที่ผ่านมา น่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่แฮร์ริสหนีไม่พ้น เพราะเขาบริหารประเทศคู่กัน ดังนั้นจะโยนความผิดให้กับไบเดนได้ไหม? ก็โยนได้ แต่ถือว่าเป็นปัจจัย ทั้งหมดเลยเหรอ? คนเบื่อหน่ายกับไบเดนทำให้เลือกผู้สมัครที่มีคดีติดตัวเยอะขนาดนี้เลยเหรอ?

พอพูดถึงทรัมป์ที่มีคดีติดตัวเยอะๆ คงมีหลายคนสงสัยว่าทำไมเขาถึงมีสิทธิ์เลือกตั้งได้?

รัฐที่ทรัมป์อาศัยอยู่ (ฟลอริดา) มีกฎหมายว่าสำหรับใครที่มีคดีในรัฐอื่นๆ ทางรัฐฟลอริดาจะยอมตามหรือตามกฎหมายในรัฐนั้นๆ สำหรับทรัมป์คดีถูกตัดสินในรัฐนิวยอร์ก ในนิวยอร์กเองมีกฎหมายบอกว่าตราบใดที่ผู้ถูกลงโทษไม่ติดคุกช่วงเวลาลงคะแนน เขามีสิทธิ์ลงคะแนนได้ แต่เรื่องคดีที่ค้างอยู่ เรื่องที่กำลังอุทธรณ์ อันนั้นต้องว่ากันไปครับ อันนั้นต้องจับตามองว่า ในฐานะเป็นประธานาธิบดี คดีเหล่านี้จะเดินหน้าอย่างไร จะล่าช้า จะชะงัก หรือจะมีการว่ากันตามกระบวนการยุติธรรม อันนี้ไม่มีใครรู้ คงจะต้องดูกันต่อไป

หรือทั้งหลายทั้งปวง เป็นความพยายามหาเหตุว่าทำไมแฮร์ริสแพ้ ถ้าดูจากรายงาน CNN เขารายงานว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ทรัมป์กับทีมงานของทรัมป์ทำการบ้านได้ดี เตรียมตัวได้ดี และวางแผนได้ดี เขาตั้งใจไม่หาเสียงเฉพาะฐานเสียงตัวเอง แต่ตั้งใจเจาะฐานเสียงพรรคเดโมแครต ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนผิวดำ กลุ่มลาตินอเมริกัน และกลุ่มสตรีครับ แถมทีมยุทธศาสตร์ทรัมป์สามารถคุมให้ทรัมป์ไม่หลุดจากสคริปต์ และครอบคลุมการพูดของทรัมป์ (เท่าที่เป็นไปได้)

เพราะปกติ เวลานึกถึงการหาเสียงของทรัมป์ต้องนึกถึงความวุ่นวาย นึกถึงโครงสร้างที่ไร้ระเบียบ แต่การหาเสียงครั้งนี้ ถือว่ามีวินัยมาก และการหาเสียงครั้งนี้ ทำให้ทรัมป์ดูเป็นคนติดดิน เป็นคนกันเองที่คนอเมริกันเข้าถึงได้ อย่างน้อยติดดินและเข้าถึงง่ายกว่าภาพพจน์ของแฮร์ริส

เป็นไปได้ไหมว่า ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งเพียงเพราะเขามีคุณสมบัติ มีคุณภาพ และนโยบายที่เหนือกว่าแฮร์ริส จนทำให้คนอเมริกันยอมรับในตัวเขา ให้เป็นประธานาธิบดี? ทำไมมันยากที่จะยอมรับเหตุปัจจัยตรงนั้นครับ? ถ้าสังเกตวันนี้ผมจะตั้งคำถามมากมาย ซึ่งเป็นคำถามที่ผมไม่มีคำตอบ หรือเป็นคำถามที่วันนี้ไม่มีคำตอบ พอวันเวลาผ่านไปคำตอบอาจชัดเจนกว่านี้ เอาเป็นว่าวันนี้เป็นการตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นความคิดให้กับพวกเราครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Gisele Pelicot วีรสตรีของโลก

วันนี้ผมขออนุญาตเขียนเรื่องที่อาจสะเทือนใจ และสร้างความอึดอัดให้กับแฟนคอลัมน์หลายท่าน มันไม่ใช่เรื่องที่คนปกติจะนั่งพูดคุยกัน เป็นเรื่องสะเทือนใจ

President Biden….You’re a Good Dad

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีสารพัดเรื่องที่น่าสนใจและน่าเขียนถึง เรื่องแรกต้องเป็นเรื่องประกาศกฎอัยการศึกในเกาหลีใต้ เพราะเป็นเรื่องไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้น และถือว่าเป็นการประกาศฟ้าผ่าทีเดียว

คุยเรื่อง…ที่ไม่ใช่เรื่อง

เผลอแป๊บเดียว วันนี้เราเข้าเดือนสุดท้ายของปีแล้ว ถือว่าเราเข้าฤดูกาลซื้อของขวัญสำหรับคริสต์มาสและปีใหม่อย่างเป็นทางการ ถึงแม้ตามห้างต่างๆ

'BRO!!!!!'

เกือบ 2 สัปดาห์กับผลการเลือกตั้งในสหรัฐ ที่สร้างความประหลาดใจให้กับคนทั่วไป เว้นบรรดานักวิเคราะห์แม่นๆ….หลังผลออกมา พวกนี้ยังพูดเต็มปากเต็มคำว่า