ท่าทีความมั่นคงของเนทันยาฮู 2024 (1)

บัดนี้สถานการณ์ชี้ชัดแล้วว่าอิสราเอลกำลังจัดการฮิซบุลเลาะห์ต่อจากฮามาส ทำลายอิหร่านกับสมุนให้เสียหายหนัก

กันยายน 2024 เบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ แสดงท่าทีความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านและกลุ่มต่างๆ ตามบริบทล่าสุด มีสาระสำคัญพร้อมการวิเคราะห์ ดังนี้

ประเทศอยู่ในภาวะสงคราม:

อิสราเอลโหยหาสันติภาพ อยากทำข้อตกลงสันติภาพแต่ศัตรูต้องการทำลายล้าง อิสราเอลจึงจำต้องป้องกันตัวเอง

ภาพ: เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล

เครดิตภาพ: https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121433946019081&set=pb.100044574573209.-2207520000

ศัตรูไม่เพียงต้องการฆ่าให้ตาย ยังหวังทำลายอารยธรรม อยากนำอิสราเอลกลับสู่ยุคมืดอันโหดร้ายน่าสะพรึงกลัว การตัดสินใจเข้าทำสงครามเมื่อปีก่อนเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญ ส่งผลต่ออนาคตชนรุ่นหลัง การตัดสินใจจัดการกับอิหร่านในวันนี้มีผลต่อความสมานฉันท์ระหว่างอาหรับกับยิวในอนาคต

ต้องหยุดอิหร่านให้จงได้:

นายกฯ เนทันยาฮูกล่าวว่า รัฐบาลอิสราเอลพยายามปรับความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียและเห็นแววสำเร็จมากขึ้น แต่แล้วการรุกรานของฮามาสเมื่อ 7 ตุลาคม 2023 สังหารคนอิสราเอลกว่า 1,200 คน จับกุมตัวประกัน 251 คน ทำให้สถานการณ์ร้อนแรงขึ้นทันที วันต่อมาฮิซบุลเลาะห์ฉวยโอกาสโจมตีจากเลบานอน ถึงวันนี้พวกเขายิงจรวดนานาชนิดใส่เรากว่า 8,000 ลูก พ่วงด้วยพวกฮูตีในเยเมน กองกำลังชีอะห์ในซีเรียกับอิรักดังที่ทุกคนรับรู้

การโจมตีเหล่านี้อิหร่านเป็นผู้หนุนหลัง นโยบายของอิหร่านทำร้ายตะวันออกกลาง จำต้องหยุดอิหร่านให้จงได้และต้องหยุดเดี๋ยวนี้ นายกฯ เนทันยาฮูกล่าวว่า “ถ้าอิหร่านมีเสรี (เป็นประชาธิปไตย) ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนไป และคาดว่าน่าจะเป็นเช่นนี้ในไม่ช้า” เมื่อนั้น “ชาวยิวกับเปอร์เซีย อิสราเอลกับอิหร่านจะอยู่ด้วยกันอย่างสงบ”

แต่ไหนแต่ไรนายกฯ เนทันยาฮูมีจุดยืนข้อนี้ ยกตัวอย่างกุมภาพันธ์ 2018 กล่าวว่า อิสราเอลไม่มีปัญหาอะไรกับชาวอิหร่าน แต่ระบอบอิหร่านจะต้องล้มในที่สุด และเมื่อนั้นทั้งคนอิสราเอลกับชาวอิหร่านจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

ในสายตาอิสราเอล อิหร่านเป็นปรปักษ์หลัก ต้นเหตุความขัดแย้งรุนแรงกับอิสราเอลในขณะนี้และเป็นเช่นนี้มานาน เป้าหมายสุดท้ายต้องล้มระบอบอิหร่านให้จงได้

ความตอนหนึ่ง นายกฯ เนทันยาฮูกล่าวว่า ด้วยเหตุผลทั้งหลาย นานาชาติต้องสนับสนุนอิสราเอล ร่วมกันหยุดโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติต้องคว่ำบาตร ที่ผ่านมานานาชาติไม่ทำอะไร อิหร่านจึงมีเวลานับสิบปีพัฒนานิวเคลียร์ กำลังจะสร้างเป็นอาวุธ นานาชาติต้องร่วมกันทันทีเพื่อความปลอดภัยความมั่นคงของโลก ไม่ยอมให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ “ถ้าอิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์จะไม่แค่ทำลายอิสราเอลแต่คุกคามทั้งโลก”

นานาชาติต้องเลือกว่าต้องการเห็นโลกที่สงบสุขหรือไม่ หรือจะปล่อยให้อิหร่านกับตัวแทนสร้างเหตุนองเลือดความโกลาหลต่อไป รัฐบาลอิสราเอลตัดสินใจแล้ว จะร่วมกับหุ้นส่วนและเพื่อนบ้านอาหรับต่อสู้ความชั่วร้ายนี้

โครงการนิวเคลียร์อิหร่านเป็นประเด็นที่อิสราเอลใช้เผชิญหน้าอิหร่านเสมอ ในอีกด้านนานาชาติยอมรับว่าอิสราเอลมีนิวเคลียร์กว่า 100 ลูก ตามหลักการป้องปรามถ้าศัตรูมีอาวุธนิวเคลียร์ตัวเองต้องมีนิวเคลียร์ด้วย แต่รัฐบาลอิสราเอลจะข้ามหลักป้องปรามนี้ เป็นการมองด้านเดียวยึดผลประโยชน์ส่วนตนฝ่ายเดียว อิสราเอลมีสิทธิ์ยึดนโยบายดังกล่าวแต่ผลลัพธ์คือเพื่อนบ้านไม่ไว้วางใจ

ฮามาส:

พวกฮามาสถูกสังหารเกือบ 40,000 คนแล้ว กลุ่มมีจรวดกว่า 15,000 ลูก อุโมงค์ยาว 350 ไมล์ ฐานใต้ดินบางจุดใหญ่กว่าสถานีรถไฟใต้ดินนิวยอร์ก อย่างไรก็ตามกองทัพอิสราเอลจะไม่หยุดเท่านี้ ฮามาสพร้อมรวมตัวใหม่เสมอ ยังมีอิทธิพลต่อชาวบ้านกาซา ประกาศสู้กับอิสราเอลต่อไป อิสราเอลจึงต้องทำลายส่วนที่เหลือ นำตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน ไม่อาจปล่อยให้ฮามาสฟื้นตัวและเกิดเหตุร้ายซ้ำ วนเวียนอยู่อย่างนี้

อิสราเอลยินดีอยู่ร่วมกับฮามาส หากพวกเขายอมแพ้และวางอาวุธ ปล่อยตัวประกันทั้งหมด เป้าหมายคือกาซาต้องปลอดอาวุธ ปลอดกลุ่มหัวรุนแรง อิสราเอลยินดีร่วมมือกันเพื่อนบ้านจัดตั้งองค์กรบริหารกาซาบนเงื่อนไขอยู่ร่วมกับอิสราเอลโดยสันติ

ย้อนหลังเมื่อสงครามผ่านไป 1 เดือน นายกฯ เนทันยาฮูกล่าวว่าไม่มีแผนยึดครองฉนวนกาซา ไม่คิดย้ายใครออก คิดแต่ทำอย่างไรที่คนกาซากับอิสราเอลจะอยู่ด้วยกันได้ ให้กาซามีผู้ปกครองพลเรือนของตนเอง ในเวลาต่อมาชี้ว่านายมะห์มูด อับบาส ผู้นำ PA ควรมีบทบาทเรื่องนี้

ที่น่าติดตามคือ การไม่ยึดครองกาซาไม่ได้หมายความว่าทหารอิสราเอลจะไม่อยู่ยาว อาจอยู่ต่ออีกนานเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยร่วมกับการบริหารของ PA และน่าจะใช้แนวทางนี้กับพื้นที่ปาเลสไตน์ทั้งหมด

ฮิซบุลเลาะห์:

หลายสิบปีที่ผ่านมาอิสราเอลปะทะกับฮิซบุลเลาะห์เป็นระยะ ครั้งนี้อิสราเอลจะจัดการเด็ดขาด ไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนี้อีกต่อไป

ฮิซบุลเลาะห์โจมตีอิสราเอลหนักอีกครั้งเมื่อฮามาสบุกอิสราเอลจนต้องอพยพชาวบ้านกว่า 60,000 คนออกจากพื้นที่ เมืองที่เคยมีชีวิตชีวากลายเป็นเมืองร้าง รัฐบาลปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้ ต้องทำบางอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าประชาชน 60,000 คนปลอดภัย ไม่โดนโจมตีอีก

18 ปีแล้วที่ฮิซบุลเลาะห์ละเมิดข้อมติคณะมนตรีความมั่นคง 1701 ที่ต้องถอนกำลังพ้นจากแนวชายแดน พวกเขาสร้างอุโมงค์ลับเพื่อบุกเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว หรือเพื่อยิงจรวดผ่านเครือข่ายอุโมงค์ ไม่เพียงที่ตั้งทางทหารที่ตกเป็นเป้า บ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาลโดนโจมตีด้วย

พวกฮิซบุลเลาะห์ตั้งตนเป็นศัตรู คอยโจมตีอิสราเอลเป็นระยะ ครั้งนี้อิสราเอลจึงเห็นควรตอบโต้เด็ดขาด เป็นสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะขจัดภัยคุกคามให้ประชาชนอิสราเอลสามารถกลับไปอยู่บ้านตัวเองอย่างปลอดภัยไร้กังวล

ล่าสุดต้นเดือนพฤศจิกายน 2024 นายกฯ เนทันยาฮูประกาศว่าจะผลักพวกฮิซบุลเลาะห์ให้อยู่หลังแนวแม่น้ำ Litani ไม่ว่าจะได้มาด้วยการเจรจาหรือด้วยกำลัง และจะต้องตัดช่องทางส่งอาวุธกำลังบำรุงผ่านซีเรีย “เป้าหมายคือต้องไม่มีพวกฮิซบุลเลาะห์ตามพรมแดนทางเหนือ”

แม่น้ำ Litani ห่างจากพรมแดนอิสราเอล 30-50 กิโลเมตร (ขึ้นกับจุดที่วัด) หมายความว่าพื้นที่ส่วนนี้จะอยู่ใต้การควบคุมโดยกองทัพอิสราเอลหรือนานาชาติ

ดังที่เคยนำเสนอแล้วว่า ต่อจากสงคราม “ฮามาส-อิสราเอล” อาจเป็น “ฮิซบุลเลาะห์-อิสราเอล” เปรียบเสมือนแขนซ้ายกับแขนขวาอิหร่านที่จะทุบอิสราเอลให้จมดิน บัดนี้สถานการณ์ชี้ชัดแล้วว่าอิสราเอลกำลังจัดการฮิซบุลเลาะห์ต่อจากฮามาส ตรงตามคำกล่าวของเนทันยาฮู “ยุทธศาสตร์ระยะยาวของเราคือทำลาย axis of evil ตัดแขนทางใต้กับทางเหนือ ทำลายอิหร่านกับสมุนให้เสียหายหนัก”

แต่อิสราเอลที่สูญเสียมากแล้วต้องสูญเสียมากขึ้นถ้าส่งกองทัพรบทางภาคพื้นดิน ข้อนี้ยังต้องติดตามว่ากองทัพอิสราเอลจะบุกเข้าไปลึกถึง 30 กิโลเมตรหรือไม่ อิสราเอลอาจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ศึกนี้ต้องจ่ายราคาหนักทั้งสองฝ่าย ตามข้อมูลอิหร่านฮิซบุลเลาะห์มีกองกำลังถึงแสนนาย จรวดขีปนาวุธรวม 150,000 ลูก และยังคงพัฒนาอาวุธต่อเนื่อง

ถ้อยแถลงของนายกฯ เนทันยาฮูต่อสมัชชาสหประชาชาติ 2024 มีทั้งจุดยืนเดิมกับจุดยืนใหม่ สถานการณ์ล่าสุดคือสงครามฮิซบุลเลาะห์-อิสราเอล ที่กองทัพอิสราเอลอยู่ในช่วงโจมตีทางอากาศ คาดว่าเฟสต่อไปคือการบุกกวาดล้างทางภาคพื้นดิน การปะทะกับอิหร่านเป็นประเด็นที่ควรให้ความสำคัญที่สุด หากกลายเป็นสงครามใหญ่จะส่งผลต่อโลก ชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนสถานการณ์ แม้ทรัมป์ไม่ต้องการสงคราม แต่ทรัมป์มองอิหร่านเป็นปรปักษ์ไม่ต่างจากรัฐบาลไบเดน ไม่ต่างจากรัฐบาลสหรัฐชุดก่อนๆ อาจต่างกันเพียงวิธีปฏิบัติ ความเข้มข้นรุนแรงเท่านั้น เหตุที่อิสราเอลทำสงครามได้นานเพราะรัฐบาลสหรัฐหนุนหลัง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลือกตั้งสหรัฐ2024เลือกสังคมนิยมหรือฟาสซิสต์

ทรัมป์ชี้ว่าแฮร์ริสเป็นพวกสังคมนิยม ส่วนแฮร์ริสชี้ว่าทรัมป์เป็นเผด็จการ สหรัฐกำลังเข้าสู่การเลือกระหว่าง “สังคมนิยม” กับ “ฟาสซิสต์”

ทรัมป์คุกคามโลกเสรีประชาธิปไตย?

การที่ทรัมป์แสดงท่าทีเป็นมิตรต่อรัสเซีย จีน อาจไม่ปกป้องสมาชิกนาโต ชวนให้ตั้งคำถามว่าทรัมป์เป็นภัยคุกคามโลกเสรีประชาธิปไตยหรือไม่

รัสเซียเตือนสงครามใหญ่หลังยูเครนรุกลึก (3)

ถ้าไบเดนอนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธอำนาจทำลายสูงโจมตีรัสเซีย และปูตินโต้กลับทำลายฐานทัพ จุดยุทธศาสตร์อเมริกัน เมื่อถึงตอนนั้นสมรภูมิจะเปลี่ยนไปทันที

รัสเซียเตือนสงครามใหญ่หลังยูเครนรุกลึก (2)

ท้ายที่สุด ผู้พยายามทำลายรัสเซียจะนำหายนะสู่โลก ดังนั้นหากรัฐบาลยุโรปอยากกระโจนเข้ารบโดยตรงกับรัสเซีย รัฐบาลนั้นกำลังพาประเทศสู่หายนะหรือไม่