“ชูวิทย์”กลับมาเพื่อ..?

คุณยายมารศรี อิศรางกูร ณ อยุธยา..

ดารานักแสดงอาวุโส อายุ 104 ปี ยังยิ้มหัวหยอกล้อกับลูก-หลานอยู่อย่างเบิกบานแจ่มใส

ส่วน “คุณยายบรรเจิดศรี ยมาภัย” ดารานักแสดงอาวุโสอีกท่าน ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่ออายุครบ 100 ปี

โดยกำหนดการสวดพระอภิธรรมที่วัดมกุฏฯ ศาลา 10  ระหว่างวันที่ 7-11 พ.ย.67 และทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 12 พ.ย.67 เวลา 17.00 น. 

ก็..ขอแสดงความอาลัย-เสียใจกับครอบครัว ลูกหลานมา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ!

ครับ.. “ยามย่ำแย่มาเยือนเพื่อนก็ซ้ำ ยามตกต่ำลูกน้องหายนายชิ่งหนี คนเคยรักเสน่หาเปลี่ยนท่าที มิตรที่ดีกลับตาลปัตรเป็นศัตรู

ศัตรูใหม่ไล่บุกรุกโรมเร้า ศัตรูเก่าดาหน้ามาข่มขู่ จะถูกผิดอย่างไรเราไม่รู้ ก็อยู่ที่ตัวเขาเท่านั้นเอง”

นี่.. “สุนทรถอก” ได้ร่าย และคุณสัญญลักษณ์ ดอนศรี นักแต่งเพลงคนดัง เจ้าของเพลง “ดาวมหาลัย” ที่ขับร้องโดย “สาวมาด เมกะแดนซ์” นำมาโพสต์ไว้

ส่วนจะหมายถึงใครเห็นจะพอเดากันได้ ซึ่งก็ให้บังเอิญระหว่างปั่นต้นฉบับอยู่นี้ “ผู้จัดการออนไลน์” ได้รายงานข่าว..

วันนี้-7 พ.ค. เวลา 12.00 น. ตำรวจกองปราบนำกำลังจับกุมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้ที่ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา

ในคดีหลอกลวงเงิน น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5337/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.2567 ข้อหา ฉ้อโกง, ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และสมคบฟอกเงิน

รวมถึงจับกุมนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาของนายษิทรา ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.5338/2567 ลงวันที่ 7 พ.ย.2567

ข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน หลังพบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว

ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังเร่งนำตัวทั้งสองเข้ากองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป”

ว้าวว..กรรมทำไมถึงไล่ล่าเร็วจัง ก็ไม่อยากซ้ำเติมทนายษิทราหรอกนะ เพราะเข้าใจความรู้สึก ตอนนี้คงจะ “ทุกข์” ทั้งกาย-ใจ

ทุกข์เพราะเข้าคุกก็ว่าหนักหนาสาหัสแล้วสำหรับทนายที่ใช้ชีวิตกินหรู-อยู่แพง แล้วนี่มาเสียพนันคำท้า ต้อง “ดื่มเยี่ยว 71 แก้ว” เข้าไปอีก

และก็ไม่รู้ว่าเป็น “เยี่ยว” ของตัวเองหรือของคุณสนธิ เพราะไม่ได้ทำ MOU44 เอ๊ยข้อตกลงกันไว้แต่แรก จึงเห็นจะทุกข์ซ้ำกรรมซัด..

เยี่ยวตั้ง 71 แก้วพูนๆ คงไม่ลื่นคอเหมือนซดไวน์ ใช่ไหม..ทนายจุ๊กกรู?

และนั่นก็เหมือนรู้..คุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้ที่เคยฟาดฟันกับทนายษิทรามาแบบชนิดแทบไม่เผาผี ก่อนที่จะมายื่นไมตรี-คืนดีกันหลังจากที่ฝ่ายแรกต้องปลีกวิเวกไปรักษาตัวที่แดนไกล

ได้กลับมาปรากฏตัวให้สาธารณะได้เห็นก่อนหน้าคุณษิทราโดนตำรวจรวบตัวแค่วัน-สองวัน จึงเลยทำให้เป็นที่สงสัยกันว่า..

คุณชูวิทย์กลับมาเพื่อสมน้ำหน้า หรือเพื่อปลอบประโลม-ให้กำลังใจทนายษิทรากันแน่?

แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุใด ผมก็ให้รู้สึกดีใจที่เห็นคุณชูวิทย์ยังคงเดินเหินไปไหนต่อไหนได้ และหวังว่าโรคร้ายที่รักษาอยู่ในขณะนี้นั้นจะค่อยๆ บรรเทาหายเป็นปกติ

ให้คุณชูวิทย์ได้กลับมาใช้ชีวิต เพื่อทำประโยชน์ให้กับสังคม ประเทศชาติต่อไป เพราะดีๆ ชั่วๆ คนอย่างคุณชูวิทย์ก็ไม่ได้คิดคดโกงชาติ

ยังดีกว่า “คนโกงชาติ” ที่ได้รับโอกาสกลับมาใช้ชีวิตไม่ต้องติดคุกสักวันเดียว แต่กลับทำตัวเป็นผู้มีอำนาจ มากบารมี จนบ้านเมืองวุ่นวาย-ปั่นป่วน..

คิดแต่เรื่อง..ขายชาติ-สร้างฐานอำนาจให้ตัวเอง!.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“พี่-น้อง”..ทางเดินที่ถูกกำหนด!

เจ้าตัวจะยืดอกยอมรับรึไม่..ไม่รู้! รู้แต่..ประโยค “ผมเชื่อว่าสังคมไทยมีประสบการณ์ อ่านขาดว่าเรื่องนี้คือการเมืองของฝ่ายขวาสุดขอบ ซึ่งรัฐบาลยังต้องรับมืออีกหลายขนาน” ของคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

จะเอาอะไรไปสู้?

สะใจกันแล้ว.. จากนี้ก็คอยเป็นกำลังใจให้กับ “มือตบ” ด้วยล่ะ อย่าปล่อยให้ต้องต่อสู้กับคดีทั้งอาญาทั้งแพ่งแบบโดดเดี่ยวเดียวดายเชียวนะ!

ทราบแล้ว..อย่าวางเฉย!

“ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากทุกคนที่มอบให้.. ผมจะไม่ทำให้ความไว้เนื้อเชื่อใจของทุกคนสูญเปล่า ทุกนโยบายที่วางไว้จะเริ่มทำให้เป็นรูปร่างให้เร็วที่สุด และเป็นประโยชน์กับทุกคนให้มากที่สุด”

เสน่หาพาเสียว!

ซาบซึ้งน้ำตาเล็ด! ก็ที่ธนาคาร (ออมสิน) ได้ทำตามนโยบายรัฐ ด้วยการยกหนี้ NPLs สินเชื่อโควิด-19 เพิ่มอีกกว่า 110,000 ราย..