'ทรัมป์' มาแล้วนะ 'อุ๊งอิ๊ง'

เรียบร้อยไปแล้วครับ...

"โดนัลด์ ทรัมป์" กลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ ๒ ได้สำเร็จ

ส่วน "กมลา แฮร์ริส" จากเดโมแครต ไม่สามารถสร้างปรากฏการณ์ อเมริกันเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกที่จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้

การมาของ "ทรัมป์" เป็นที่วิตกกังวล และดีอกดีใจ ของคนทั้งโลก

ขึ้นกับ "ทรัมป์" จะมองแต่ละพื้นที่ของโลกในมุมไหน

อย่าง ไต้หวัน ยุโรป ดูจะกังวล กันพอควร กลัว "ทรัมป์" จะเปลี่ยนนโยบายต่างประเทศ

โดยเฉพาะ สงคราม

จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ แอบดีใจเล็กๆ เพราะระยะหลังมานี้ในแง่ความมั่้นคง รีพับลิกัน มองประเทศเหล่านี้เป็นมิตรมากกว่า เดโมแครต

แต่ในแง่เศรษฐกิจ ยังไงก็ต้องฟาดฟันกันดุเดือด

คำปราศรัยของ "ทรัมป์" หลังรู้ผลชนะเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ

 “พระเจ้าช่วยชีวิตผมไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง”

 “และเหตุผลนั้นคือ เพื่อปกป้องประเทศของเรา และฟื้นฟูอเมริกาให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง"

แม้จะเป็นการขี้โม้ตามสไตล์ "ทรัมป์" แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่า อเมริกาจะเข้มงวดกับชาติที่ได้ดุลการค้าตัวเองมากขึ้น

ก็ได้แต่หวังครับว่า จะมีอานิสงส์มาตกกับไทยบ้างพอประมาณ 

จีนเป็นคู่ค้าหมายเลข ๑

ปีที่แล้ว อเมริกาขาดดุลการค้าให้จีนมโหฬาร ๒๗๙.๔ พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นโยบายที่ "ทรัมป์" ประกาศนับว่าสุดโต่งพอควร คือขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนถึง ๖๐%

สำหรับคู่ค้าประเทศอื่นๆ ขึ้นอีก ๑๐%

รัฐบาลไทยเห็นช่องกระตุ้นเศรษฐกิจหรือเปล่า ถ้าเห็นก็รีบเลยครับ นับหนึ่งกันได้แล้ว

สิ่งที่จะเกิดหลังจากนี้ มีโอกาสสูงมากที่จีนจะย้ายฐานการผลิตภาคอุตสาหกรรมมายังภูมิภาคอาเซียน

รวมทั้งไทย

อุตสาหกรรมรถอีวี ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ โซลาร์เซลล์  อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ จะถูกโยกย้ายขนานใหญ่เพื่อหนีกำแพงภาษี

"ทรัมป์" เป็นนักธุรกิจแบบกล้าได้กล้าเสีย ฉะนั้นการเจรจาต้องยื่นหมูยื่นแมว หากยึกยักกล้าๆ กลัวๆ จะเสียโอกาสมหาศาลทีเดียว

เมื่อการค้ายุคใหม่คือสงคราม มันก็ต้องมีความพร้อมตั้งแต่ "แม่ทัพ" ยัน ทหารเลวหน้าค่าย

"อุ๊งอิ๊ง" พร้อมหรือยัง!

ไม่ง่ายนะครับ

หากจีนใช้ไทยเป็นฐานการผลิตแล้วไปกระทบกับอเมริกามากเกินไป สุดท้ายไทยจะโดนด้วย

ฉะนั้นการรักษาสมดุลทางการค้า ต้องควบคู่ไปกับการรักษาความสัมพันธ์ทั้งอเมริกาและจีน ที่ต้องได้สมดุลเช่นกัน

"อุ๊งอิ๊ง" ต้องทำการบ้านเรื่องนี้ได้แล้ว

มองในแง่ดี การมาของ "ทรัมป์" อาจทำให้เศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะถดถอย กลับมากระเตื้องขึ้น จากมาตรการลดภาษีนิติบุคคลจะกระตุ้นธุรกิจในอเมริกา

เมื่อเศรษฐกิจอเมริกาโต เศรษฐกิจโลกกระเตื้องตาม ไทยก็ได้รับอานิสงส์ด้วย จากการส่งออกที่โตกว่าเดิม

มีแง่ดีก็ต้องมีแง่ลบ

ไทยเองถูกอเมริกาเพ่งเล็งเรื่องได้ดุลการค้ามาพักหนึ่งแล้ว อาจจะโดนหางเลขไปพร้อมๆ กับจีน จะเป็นสงครามที่ต้องกระอักเลือดกันแน่นอน

แต่อย่าตกใจ ไม่ถึงขั้นทำให้ประเทศไทยล่มสลายครับ ๔ ปีก่อน "ทรัมป์" เคยเป็นประธานาธิบดีมาแล้ว มีผลกระทบกับไทยระดับหนึ่ง เพียงแต่ช่วงนั้นเราไม่สามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสเท่านั้นเอง

มาครั้งนี้ก็ควรเรียนรู้จากคราวที่แล้ว การเจรจาการค้าต้องหนักหน่วง ดูประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม มาเลเซีย เป็นตัวอย่าง

"อุ๊งอิ๊ง" มีข้อมูลหรือยัง

ถ้ายัง ทีมงานต้องป้อนด่วน

ครับ...ลำพังนายกฯ คงไม่มีศักยภาพพอที่จะทำงานใหญ่ขนาดนี้ได้ จึงต้องฟังข้าราชการที่เขาทำงานด้านนี้มาตลอดให้มาก

คนของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์  กระทรวงอุตสาหกรรม เก่งๆ มีเยอะครับ

อย่าเชื่อแต่นักการเมือง ลิ่วล้อ ที่คอยแต่จะเอาใจนายอย่างเดียว มันจะฉิบหายได้

วานนี้ (๖ พฤศจิกายน) มีข่าวไม่เล็กไม่ใหญ่

นายกฯ อุ๊งอิ๊ง ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ลงนามประกาศเจตนารมณ์ เรื่องการงดรับ งดให้ ของขวัญ ของกำนัลทุกชนิด จากการปฏิบัติหน้าที่

ในเอกสารระบุข้อความว่า...

"...ประกาศเจตนารมณ์ เรื่อง การงดรับ งดให้ ของขวัญ ของกำนัลทุกชนิด จากการปฏิบัติหน้าที่ (No Gift Policy)  กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นองค์กรหลักในการบูรณาการอำนวยการ และประสานการปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเพื่อให้เกิดความมั่นคงของรัฐ และความสงบสุขของประชาชน มีหน้าที่วางแผน อำนวยการ ประสานงาน และเสริมการปฏิบัติตามแผนงาน

และแนวทางการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขบรรเทาเหตุการณ์ที่เป็นภัยหรืออาจเป็นภัยต่อ ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรทุกรูปแบบ รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ เพื่อปกป้อง ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้ตระหนักและให้ความสำคัญถึงการป้องกัน ป้องปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ

ดังนั้น เพื่อผู้บริหาร เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ทุกระดับ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ก่อให้เกิดการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร จึงจัดให้มีการประกาศเจตนารมณ์ เรื่อง การงดรับ งดให้ของขวัญ ของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่ (No Git Policy) เพื่อเป็นการปลูกฝังค่านิยม เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม อีกทั้งยังเป็นการสร้างทัศนคติที่ถูกต้องในการปฏิบัติราชการโดยการ ไม่รับ ไม่ให้ของขวัญ  ของกำนัล ทุกชนิด ในช่วงเทศกาลและทุกโอกาสเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทำอันอาจมีผลต่อดุลยพินิจ หรือการตัดสินใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งนำไปสู่การเลือกปฏิบัติ หรือก่อให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อน จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน..."

ต้องยกนิ้วให้ครับ

แต่จะแจ่มกว่านี้มาก หากประกาศเจตนารมณ์ต่อคณะรัฐมนตรี และข้าราชการการเมืองทั้งหมดด้วย

 คนใน ครม.ไม่โกง ใครจะกล้าโกงครับ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อย่าขายชาติ

คงต้องพูดกันอีกนานครับ... เรื่องเกาะกูด ที่รัฐบาลนั่งยัน นอนยันว่า เกาะกูด เป็นของไทย ส่วนกัมพูชาเอง ก็รับรู้ว่าเป็นของไทยมาตลอด มันก็จริงครับ

สิ่งที่ทำให้รัฐบาลพัง

เลื่อนอีกแล้วครับ... คณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังไม่เคาะชื่อ ประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่

ไม่เอา 'กิตติรัตน์'

ใครจะมา... วันนี้แล้วครับ (๔ พฤศจิกายน) ธนาคารแห่งประเทศไทย จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดเป็นประวัติการณ์

ค้าความประชาชน

ไม่ทันไร...จะใช้กฎหมายปิดปากซะแล้ว เสียงขู่มาจากพรรคเพื่อไทย "นพดล ปัทมะ" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ตรรกะส้มวิบัติ

ติดตามมาก็นาน... เพิ่งจะเข้าใจความคิดที่แท้จริงของ "ปิยบุตร แสงกนกกุล" วันนี้นี่เอง