OCAแก้วิกฤตพลังงานไทย

ปัจจุบันปริมาณสำรองก๊าซของไทยลดลงอย่างต่อเนื่องจนเข้าขั้นวิกฤต ส่งผลให้ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ในราคาที่ผันผวนเพิ่มมากขึ้น มีผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นของประชาชนและรายได้งบประมาณของรัฐลดลง ซึ่ง คุรุจิต นาครทรรพ ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมและพลังงานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในงานสัมมนา "พลังงานราคาถูก.. ทางรอดเศรษฐกิจไทย” จัดโดยฐานเศรษฐกิจ ว่าไทยมีความจำเป็นต้องเร่งจัดหาแหล่งก๊าซธรรมชาติ โดยภาครัฐต้องเร่งเปิดประมูลสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ บริหารจัดการแหล่งก๊าซในแปลงสัมปทานหมดอายุ แต่ยังมีศักยภาพในอ่าวไทย รวมถึงการเร่งเจรจาหาข้อยุติใน เขตไหล่ทวีปในทะเลที่ทับซ้อนระหว่างไทย-กัมพูชาทะเล หรือ OCA ที่เป็นความหวังทำให้ลดการนำเข้า LNG ส่งผลต่อค่าไฟฟ้าลดลงได้ในอนาคต

และการใช้กรอบบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU ปี 2544 ในการเจรจาเขตพื้นที่ OCA มีความสำคัญที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม เพราะสถานการณ์พลังงานของไทยอยู่ในภาวะวิกฤตพลังงาน เพราะปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติของประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง หากสามารถพัฒนา OCA ที่คาดว่าจะมีปริมาณก๊าซสำรองประมาณ 9 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท สามารถช่วยลดการนำเข้า LNG ได้อย่างมาก และยังช่วยให้เกิดการใช้ประโยชน์ท่อส่งก๊าซในอ่าวไทยได้อย่างเต็มศักยภาพ เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานมีความพร้อมอยู่แล้ว

ส่วนขั้นตอนการดำเนินงานนั้นต้องเริ่มดำเนินการแก้ไขปัญหาพื้นที่ไหล่ทวีปทับซ้อนระหว่างไทยและกัมพูชา (TC-OCA) โดยเจรจากำหนดเส้นแบ่งเขตทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชาในพื้นที่ OCA ส่วนบน (เหนือเส้นละติจูด 11 องศาเหนือ) รวมถึงต้องเจรจากำหนดขอบเขตพื้นที่พัฒนาร่วม และวางหลักการแบ่งปันค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์จากทรัพยากรปิโตรเลียมที่อาจพบในพื้นที่ OCA ส่วนล่าง เพื่อนำไปสู่ข้อตกลง JDA (Joint Development Area)

ด้าน อารีพร อัศวินพงศ์พันธ์ นักวิชาการด้านนโยบายพลังงาน สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ TDRI กล่าวว่า การพัฒนาแหล่งก๊าซจากพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล หรือ OCA น่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับประเทศไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ เพราะสามารถตอบโจทย์ความมั่นคงทางด้านพลังงานและราคาแล้ว ยังสามารถสร้างเศรษฐกิจให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ปิโตรเคมี ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เป็นผลบวกต่อประเทศไทย หากมองภาพสังคม สามารถสร้างทักษะ แรงงานที่มีฝีมือ และภาครัฐจะได้ภาษีจากการผลิตปิโตรเลียมด้วย

เช่นเดียวกับ วุฒิกร สติฐิต ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หากไทยสามารถจัดหาก๊าซธรรมชาติจากประเทศเพื่อนบ้านได้ จะทำให้เกิดความมั่นคงของประเทศและมีราคาสมเหตุสมผลมากขึ้น และมีราคาต้นทุนที่ถูกลงได้ ส่วนประเด็นที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาจะมีการเจรจาพื้นที่ OCA และแบ่งผลประโยชน์ปิโตรเลียมภายใต้ MOU 44 นั้น มองว่าไทยมีพื้นที่ข้อได้เปรียบหลายเรื่องทั้งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และระบบท่อต่างๆ อีกทั้งมีรูปแบบความร่วมมือที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการผลิตท่อใหม่หรือการจ้างผลิตท่อ ซึ่งจะทำให้เกิดต้นทุนในราคาต่ำสุด

ด้าน อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บอกว่า OCA มีโอกาสสามารถเกิดขึ้นได้ เราควรเดินหน้าตามกรอบ MOU 44 แต่ถ้ารื้อมันไม่จบ และเรื่องนี้ไม่ควรเป็นเรื่องการเมือง ซึ่ง อดีตรัฐมนตรีพลังงานและต่างประเทศหลายคนบอกว่าควรเดินหน้า สัมปทานควรเป็นแบบโปร่งใส ทีมเจรจาต้องเป็นทีมต่อเนื่องเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และต้องมีความเชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับ ผู้นำต้องมีบารมี การเจรจาควรเป็นความลับ แต่เมื่อมีความคืบหน้าต้องมีทีมสื่อสารเป็น Focus Group เพื่อมารับฟังซึ่งกันและกัน มองว่าไทยบอบช้ำเพียงพอแล้ว ทั้งจากตัวเรา เศรษฐกิจประเทศ และเศรษฐกิจโลก

ส่วนนักวิชาการอิสระอย่าง สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี ระบุว่า เรื่อง OCA ควรดำเนินการตามบันทึกความเข้าใจปี 2544 มีการเจรจาต่อเนื่องเพื่อแบ่งเขตแดนทางทะเลและกำหนดข้อตกลงในการพัฒนาทรัพยากรร่วมกัน โดยใช้แนวทางที่เป็นกลางและไม่ยึดติดกับแนวคิดแบบชาตินิยม ที่สำคัญต้องลดความตึงเครียดทางการเมือง ควรมีการสร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ โดยให้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนเกี่ยวกับประโยชน์ที่ทั้งสองประเทศจะได้รับจากการพัฒนาทรัพยากรในพื้นที่ทับซ้อน.

 

บุญช่วย ค้ายาดี 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เคาต์ดาวน์ปลอดภัยส่งท้ายปี

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความหวัง โดยในปีนี้สถานที่จัดงาน Countdown ทั่วประเทศไทยหลายหน่วยงานได้เตรียมกิจกรรมไว้ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและสัมผัสความงดงาม

แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ

ของขวัญรัฐบาล

อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว

ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันเวทีโลก

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ

ปี68ธุรกิจบริการอาหารยังโตต่อเนื่อง!

“ธุรกิจบริการอาหาร” ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตาในปี 2568 จากอานิสงส์ท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้การบริโภคอาหารน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐยังมีการอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ดันSMEอีอีซีบุกตลาดตปท.

ที่ผ่านมารัฐบาลอาจจะยังไม่ได้พูดถึงโครงการพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี มากนัก เนื่องจากคงจะยุ่งกับการบริหารงานในแนวทางอื่นๆ อยู่ แต่กับหน่วยงานอย่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก