ในที่สุด “โดนัลด์ ทรัมป์” ก็คัมแบ็กกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 47 จนได้ โดย จะเป็นผู้นำมะกันที่มีอายุมากที่สุดในวันสาบานตน วันจันทร์ที่ 20 มกราคม 2568 ซึ่งการที่ “ทรัมป์” กวาดชัยชนะเหนือ “กมลา แฮร์ริส” คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตครานี้ ที่หวังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้การเมืองสหรัฐด้วยการเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกนั้น จะ โทษใครไม่ได้นอกจาก “โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 46 ที่ทู่ซี้จะลงเลือกตั้งทั้งที่สุขภาพไม่เอื้ออำนวย โดยกว่าจะประกาศวางมือส่งไม้ต่อให้ “แฮร์ริส” ฝ่ายรีพับลิกันของ “ทรัมป์” ก็หาเสียงล่วงหน้าไปไกลเกินตามทันแล้ว ...๐
ที่น่าสนใจในการเลือกตั้งของดินแดนแฮมเบอร์เกอร์ครานี้ นอกจาก “ทรัมป์” จะได้เก้าอี้ผู้นำมาครองสมัยที่ 2 แบบไม่ติดต่อกันแล้ว คือการที่ “รีพับลิกัน” กวาดชัยทั้งในสภาสูงและสภาล่างอย่างท่วมท้นมาด้วย เรียกว่า “4 ปี” นับจากทรัมป์ขึ้นครองอำนาจจะสามารถเดินหน้าได้สะดวกโยธินอย่างไม่เคยมีมาก่อน งานนี้เลยทำให้ “โลก” ไม่ใช่เฉพาะไทยเท่านั้นที่ต้องจับตาดูทิศทางลมให้ดี เพราะอำนาจในมือของผู้นำทรัมป์นั้นช่างน่าหวาดผวาอย่างยิ่ง หากไม่สะดุดขาตัวเองล้มเสียก่อน ...๐
ในขณะที่ “อินทรีผยอง” เลือกตั้งและรู้ผลอย่างไม่เป็นทางการไปแล้ว ในส่วนของ “สยามประเทศ” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีก็หอบคณะบิน ไปประชุมที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว โดยจะมีการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 8 และการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ 10 งานนี้ก็ต้องลุ้นกันอีกรอบว่า “นายกฯ ไอแพด” จะสร้างปรากฏการณ์อะไรหรือไม่อย่างไร ...๐
พูดถึงเรื่อง “นายกฯ อิ๊งค์” ไปประชุมต่างประเทศ จะไม่เอ่ยถึงเรื่อง “เอ็มโอยู 2544” ก็กระไรอยู่ เพราะเรียกว่ายังเป็นกระแสร้อนอย่างต่อเนื่อง แม้เมื่อวันจันทร์ “นายกฯ อิ๊งค์” พร้อมวอลเปเปอร์หัวหน้าพรรคต่างๆ จะชี้แจงแถลงไขไปแล้ว รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศภายใต้บังเหียนของ “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” จะให้อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายออกมาตั้งโต๊ะชี้แจงแล้วก็ตามที แต่ก็ ต้องบอกว่า “สังคม” ยังไม่ไว้วางใจแต่ประการใด ซึ่งรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลนั้น ก็ต้องยอมรับความจริงว่า เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน หรือเรื่องทุจริตคอร์รัปชันนั้น เป็น “ตราบาป” ที่ถูกสังคมตั้งข้อสงสัยเสมอมา ...๐
แล้วยิ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องเกี่ยวพันกับ “กัมพูชา” โดยเฉพาะมีเงาชื่อของ “สมเด็จฮุน เซน” ทาบทาอยู่ข้างหลัง ในขณะที่ของพี่ไทยก็มีเงาของคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อยู่ไม่จางหาย เมื่อมีเรื่องเจรจาทั้งพื้นที่ทับซ้อนและแหล่งพลังงานก็ย่อมหลีกไม่พ้นคำติฉินนินทาแน่นอน ก็ดูง่ายๆ “ทักษิณ” ที่ออกจาก รพ.ตำรวจกลับมาพักที่บ้านจันทร์ส่องหล้าไม่เท่าไหร่ “ฮุน เซน” ก็บินข้ามมาเยี่ยมกันถึงที่แบบเป็นการส่วนตัวโดยไม่สนใจเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ประการใด แม้ว่า “ฮุน เซน” จะไม่ได้เป็นนายกฯ แล้วก็ตามที แต่ของแบบนี้มันก็ต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู ไม่ใช่อ้างเรื่องความสนิทชิดเชื้อกันถ่ายเดียว ...๐
เอ่ยถึงการเลือกตั้งระดับอินเตอร์ไปแล้ว ก็ต้องพูดถึงการเลือกตั้งระดับบ้านๆ อย่างการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กันบ้าง เพราะล่าสุด “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” ได้เปิดไทม์ไลน์แผนการจัดการเลือกตั้งแล้ว โดยจะเปิดให้รับสมัครเลือกตั้ง 23-27 ธ.ค.2567 และกำหนดให้มีเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.2568 แต่ดูเหมือนไม่ถูกใจ “พริษฐ์ วัชรสินธุ” สส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาชน เพราะได้เรียกร้องให้ทบทวนไปเลือกตั้งวันอาทิตย์ตามเดิม สภากาแฟก็ได้แต่มึนงงเพราะ ปชน.ชอบเรียกร้องว่าอย่ายึดโยงอดีต งานนี้ กกต.ก็เลยปรับมาเป็นวันเสาร์ กลับมาเรียกร้องให้ไปใช้แบบเดิม อย่าลืมว่านายก อบจ.ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2563 จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 ธ.ค.2567 ซึ่ง กกต.ก็พยายามให้หย่อนบัตรเร็วขึ้นไม่ดีหรืออย่างไร ไม่แปลกใจแต่ประการใดที่ผลโพลสำรวจการทำงานของพรรคฝ่ายค้านในยุคการดูแลของ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” ถึงได้สาละวันเตี้ยลงๆ ทุกที เพราะ ทีเรื่องเดือดร้อนของชาวบ้านอย่างรถเมล์ในเส้นทางมีนบุรี หรือรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกที่ไม่เปิดใช้เสียที สส.ในพื้นที่เงียบเป็นเป่าสาก แต่พอเรื่องวันเลือกตั้ง อบจ.ปรับจากวันอาทิตย์มาเป็นวันเสาร์เท่านั้น กลับจะเป็นจะตายเสียอย่างไร ตกลงฝ่ายค้านทำงานเพื่อใครกันแน่ ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
22 พ.ย. ลุ้น ผลการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะ “รับ-ไม่รับ” คำร้องของ “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ให้ “ทักษิณ ชินวัตร” และ “พรรคเพื่อไทย” หยุดพฤติการณ์ล้มล้างการปกครอง จาก 6 กรณี ดังนี้ หนึ่ง “ทักษิณ” ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
บันทึกหน้า 4
ต้องเรียกว่า “พุธพิพากษา” ของแท้ โดยเฉพาะศาลอาญาที่ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 5 และมารดาผู้เสียชีวิตร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้อง “สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์” หรือ “แอม ไซยาไนด์” อายุ 36 ปี
บันทึกหน้า 4
ควันหลงการหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ที่ นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ. สังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.)
บันทึกหน้า 4
สมรภูมิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 24 พ.ย. ไม่เพียงแค่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนในสนามท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการหยั่งกระแสของทั้งสองฝ่ายในเวทีใหญ่ทางการเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะทัพแดงนั้นแพ้ไม่ได้
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันครึ้มฟ้าครึ้มฝนจากผลกระทบปลายๆแถวพายุหม่านยี่ เสียงฟ้าร้องฟ้าคะนองอาจจะไม่มี แต่เสียงอื้ออึง "ทักษิณ" กลับมาแล้ว
บันทึกหน้า 4
เสือกทุกเรื่อง! ตำแหน่งใหม่ที่ "นายใหญ่" เพื่อไทย ศาสดาเสื้อแดง ภูมิใจสถาปนาตัวเองกลางวงปราศรัยใหญ่เมืองอุดร หวังเฉไฉปัดข้อหาเจ้าของพรรคและครอบงำลูกสาว