แอ่วเหนือ...คนละครึ่งบูมเศรษฐกิจ

จากสถานการณ์อุทกภัยในช่วงที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ ทั้งในแง่ของการคมนาคม เดินทางเข้าสู่พื้นที่และความเสียหายต่อแหล่งท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถานการณ์ในจังหวัดภาคเหนือได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว และตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป แหล่งท่องเที่ยวและสถานประกอบการต่างๆ ในภาคเหนือพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้กลับมาเดินทางชื่นชมความสวยงามของธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมที่งดงามและทรงคุณค่าของทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงฤดูแห่งการท่องเที่ยวภาคเหนือ

ล่าสุด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดงาน “เหนือพร้อม...เที่ยว” ประกาศศักยภาพความพร้อม เร่งสร้างความเชื่อมั่น ฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยว และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง” รับนักท่องเที่ยวช่วง High Season หวังกระตุ้นรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวช่วงโค้งสุดท้ายปี 2567

โดย นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. กล่าวว่า เพื่อสร้างกระแสให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว ฟื้นฟูความเชื่อมั่นในการเดินทาง ตลอดจนแสดงถึงความพร้อมและศักยภาพของภาคเหนือ ททท.ได้จัดงาน “เหนือพร้อม...เที่ยว” ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นๆ สู่ภาคเหนือ 17 จังหวัด โดยในวันที่ 1-3 พฤศจิกายน 2567 ททท. ได้นำผู้ประกอบการและสื่อมวลชนจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศกว่า 200 คน ร่วมอัปเดตสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว และเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวภาคเหนือ 17 จังหวัด ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่

พร้อมร่วมพิธีสืบชะตาหลวงล้านนาเพื่อความเป็นสิริมงคล ตลอดจนกิจกรรม CSR พร้อมกันนี้ถือเป็นการคิกออฟเปิดตัวแคมเปญ “แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง” ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เพื่อเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนืออย่างเต็มที่ ทั้งนี้คาดว่าเมื่อสิ้นสุดปี 2567 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ภูมิภาคภาคเหนือกว่า 22.13 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวกว่า 164,106 ล้านบาท

ด้าน นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายได้ผนึกความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เร่งฟื้นฟูการท่องเที่ยวในพื้นที่ และช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างเต็มกำลัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2567

โดยได้เตรียมเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยหลากหลายกิจกรรม เทศกาล งานประเพณีที่มีการผสมผสานทั้งกิจกรรมท่องเที่ยว กีฬา ผลิตภัณฑ์ชุมชน วิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น งานประเพณีลอยกระทงยี่เป็งนครเชียงราย กิจกรรม Mae Salong Trail งานมหกรรมดอกไม้อาเซียน งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม งานเคาต์ดาวน์เชียงราย 2025 ฯลฯ ซึ่งจะช่วยสร้างสีสันรับฤดูท่องเที่ยวของภาคเหนือ และสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง และการกระจายรายได้หมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจภายในจังหวัดได้เป็นอย่างดี

นาย นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดในรอบ 50 ปีของจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่นับเป็นรายได้หลักของจังหวัด ภายหลังจากเหตุการณ์คลี่คลายลง จังหวัดเชียงใหม่ได้ระดมกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ หน่วยงานภาครัฐ ประชาชน และจิตอาสา เร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ และในวันนี้จังหวัดเชียงใหม่พร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วง High Season ที่กำลังจะมาถึง

โดยมีไฮไลต์ในช่วงปลายปี จังหวัดเชียงใหม่จะมีการจัดกิจกรรม เทศกาล งานประเพณีที่น่าสนใจ เช่น งานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ มหกรรมดนตรีเชียงใหญ่เฟส เทศกาลงานออกแบบ Chiang Mai Design Week งานวิ่งเมืองไทยเชียงใหม่มาราธอน และงาน Amazing Chiang Mai Countdown 2025 และอีกมากมาย

ซึ่งคาดว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ กระตุ้นการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ให้ฟื้นตัวและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง.

 

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ

ของขวัญรัฐบาล

อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว

ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันเวทีโลก

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ

ปี68ธุรกิจบริการอาหารยังโตต่อเนื่อง!

“ธุรกิจบริการอาหาร” ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตาในปี 2568 จากอานิสงส์ท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้การบริโภคอาหารน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันภาครัฐยังมีการอัดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ดันSMEอีอีซีบุกตลาดตปท.

ที่ผ่านมารัฐบาลอาจจะยังไม่ได้พูดถึงโครงการพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี มากนัก เนื่องจากคงจะยุ่งกับการบริหารงานในแนวทางอื่นๆ อยู่ แต่กับหน่วยงานอย่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

โรงไฟฟ้าฟอสซิลต้นทุนพุ่งโตช้า

ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ธุรกิจโรงไฟฟ้าฟอสซิลยังคงมีทิศทางเติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าในปี 2568 ความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจจะโต 1% ชะลอลงจาก 2.8% ในปี 2567 จากการใช้ไฟฟ้าในภาคการผลิตและภาคบริการที่เพิ่ม