เหตุโผ 'ผู้การกรม' คลอดยาก

ก่อนจะถึงช่วงเวลาการ "จัดทัพ" สีกากี ตอนนี้ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ก็ได้ฤกษ์งามยามดี "ปรับทิศ" กรมปทุมวัน เรียกประชุมมอบนโยบายการบริหารราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปิงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในฐานะ "ผบ.ตร" ในวันจันทร์ที่ 4 พ.ย. 2567 เวลา 13.00-15.30 น. ห้องแจ้งยอดสุข อาคารศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรและสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีตำรวจเข้าร่วมประชุมกว่า 465 นาย ทั้งระดับ ตร., ผบช., รักษาการ ผบช., รอง ผบช., ผบก., รักษาการ ผบก. รวมทั้งสมาคมแม่บ้านตำรวจและแม่บ้านตำรวจ นอกจากนี้ "ผบ.ต่าย" กำชับให้ตำรวจระดับ รอง ผบก.

ลงมาทุกนาย และ ผกก.โรงพักร่วมเฝ้าฟังการถ่ายทอดสัญญาณ เพื่อให้รับรู้ รับทราบทิศทางการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในยุค "บิ๊กต่าย" ที่จะกุมบังเหียน "กรมปทุมวัน" 2 ปีเต็ม ตามอายุราชการที่จะเกษียณในปี 2569 ซึ่งมีเวลาสร้างผลงานได้มากกว่า "อดีต ผบ.ตร." ก่อนหน้านี้ ทั้ง ผบ.เด่น-พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ และ ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. ที่มีเวลาอยู่ในตำแหน่งเพียงแค่คนละ 1 ปี ๐

พอ "บิ๊กต่าย" ได้ฤกษ์มอบนโยบายการทำงานตำรวจระดับ "นายพล" ทั่วประเทศแล้ว จากนี้อีกไม่กี่วันข้างหน้า บันทึกข้อความที่จะส่งต่อไปยังรอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งกองบัญชาการ และกองบังคับการ คงเป็นการสั่งให้จัดทำบัญชีแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี ตำแหน่ง รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ลงไปถึงผู้บังคับการ ที่หลายคนกำลังรอคอย เพราะตามไทม์ไลน์ที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะแต่งตั้งระดับ รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ถึง ผบช.ในช่วงกลางเดือน พ.ย. ตามมาด้วยระดับ รองผบช.ถึง ผบก.ปลายปี ก็เป็นช่วงเวลาเหมาะเจาะที่จะต้องมีคำสั่งทำบัญชีแต่งตั้งออกมาแล้ว ไฮไลต์ที่เคยสะกิดให้จับตาก่อนหน้าคือ ผบช.ขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ตามกฎ ตามกติกาต้องเรียงลำดับอาวุโส แต่ก็มีเสียงเล่าลือพวก ผบช. "ฤทธิ์เยอะ" จะไม่ยอมขยับ ตอนนี้กระแสเริ่มลดลง หลัง บิ๊กเอก-พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ออกมาโพสต์ข้อความกำราบไปหนึ่งยก ในท่วงทำนองต้องยึด พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ และกฎ ก.ตร.โดยเคร่งครัด และดูเหมือนพวก "ฤทธิ์เยอะ" จะเริ่มหยุดดิ้น "โผนายพล" เลยกลับมาคึกคักอีกรอบ โดยเฉพาะเก้าอี้ที่ต้องจับตา ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) และผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.)  หรือ บช.ไซเบอร์ ว่ากันว่าตัวเลข 41 กับ 42 เบียดกันสนุก ๐

เล่นเอา "ผบ.ต่าย" ควันออกหู คดีที่มีตำรวจ 6 นายร่วมกับพลเรือน ใช้หมายค้นปลอมบุกตรวจค้นบ้านชาวจีน และข่มขู่กรรโชกทรัพย์เรียกรับเงิน 300 ล้านบาท หรือเงินสกุลดิจิทัลจำนวน 10 ล้าน USDT ก่อนจะถูกตำรวจ สน.ทุ่งสองห้องจับกุมดำเนินคดี สั่ง บิ๊กจ้าว-พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดสั่งการสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดี  และให้ต้นสังกัดดำเนินการทั้งวินัย อาญา อย่างเด็ดขาด โดยให้สืบสวนขยายผลผู้มีส่วนในการกระทำผิด ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด แล้วรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว พร้อมประกาศ "เป็นตำรวจทำผิดต้องรับโทษ จะไม่มีละเว้น" ล่าสุด พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท. เซ็นคำสั่งให้ตำรวจในสังกัดทั้งระดับ รอง สว.และชั้นประทวน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาไปช่วยราชการที่ ศปก.บช.สอท. รวมทั้งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ถ้าจะให้ดีเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์งามหน้าเช่นนี้บ่อยๆ "บิ๊กต่าย" ต้องปัดฝุ่นคำสั่ง 1212/2537 ว่าด้วยเรื่อง มาตรการควบคุมและส่งเสริมความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ออกมาดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นด้วย จะได้เป็นตัวอย่าง หากผู้บังคับบัญชาไม่ดูแลลูกน้องให้ดี ก็ต้องรับผิดชอบด้วย ๐

ว่าด้วยเรื่องวินัยและความประพฤติของกำลังพลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ “เกณฑ์ทหาร” ถือเป็นนโยบายของทุกเหล่าทัพในการวางกฎเหล็กให้ทุกอย่างโปร่งใสและปลอดภัย  ที่สำคัญให้เหล่าบรรดา “ครูฝึก” ทหารใหม่ที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ทบทวนเรื่องระเบียบ มาตรฐานการฝึกให้อยู่ในกรอบกฎหมาย ทำให้ “ผบ.เหล่าทัพ” ถ่ายทอดเป็นคำสั่งให้หน่วยฝึกรับไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ตั้งเป้าไม่ให้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นแม้แต่เคสเดียว ล่าสุด พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกทหารใหม่ และโรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ในพื้นที่ตำบลบางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้เน้นย้ำครูฝึกให้เข้าใจถึง “อำนาจ หน้าที่ และความรับผิดชอบ” ย้ำให้ผู้บังคับบัญชาและครูฝึกปฏิบัติตามนโยบายที่ได้มอบไว้ให้ในการปฏิบัติแก่ผู้ที่เข้ารับการฝึก ให้มีสิทธิเท่าเทียม ห้ามไม่ให้มีการลงโทษเกินกว่าเหตุ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ การให้ครูฝึกทุกนายคำนึงอยู่เสมอในการดูแลเอาใจใส่นักเรียนจ่า รวมถึง พลทหารกองประจำการ ผลัด 3/67 ว่าเป็นน้องเล็กของกองทัพเรือ ๐

เป็นปีที่มีการปรับเปลี่ยนในกองทัพบกและ ฉก.คอแดง มากพอสมควร ทำให้โผรองนายพล-ผู้การกรม เพิ่งคลอดหลังจากผ่านปีงบประมาณได้ 1 เดือน โดย "บิ๊กปู" พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ลงนามเซ็นคำสั่ง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 โฟกัสที่ขุมกำลังสำคัญ มีชื่อของ พ.อ.คทาวุธ ชัยยัง ผบ.ร.31 รอ. ขึ้นเป็น รอง ผบ.พล.1 รอ., พ.อ.กฤษดา หิรัญโรจน์ เสธ.พล.1 รอ. เป็น ผบ.ร.31 รอ., พ.อ.ปฏิวัติ เพื่องประภัสสร์ ผบ.ร.12 รอ. ขึ้นเป็น รอง ผบ.พล.ร.2 รอ., พ.อ.บัญชา ชาญฉลาด เสธ.พล.ร.2 รอ. เป็น ผบ.ร.2 รอ., พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี รอง ผบ.ร.12 รอ. ขึ้นเป็น ผบ.ร.12 รอ., พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ร.29 เป็น  รอง ผบ.พล.ร.9, พ.อ.พรรณศักย์ เพรียวพานิช เสธ.พล.ร.9  เป็น ผบ.ร.29, พ.อ.ชูพงษ์ สายอุบล ผบ.กรม.สน.พล.ร.9  เป็น ผบ.ร.19, พ.อ.สังกาศ สร้อยคํา รองผอ.สน.ปรมน.จว.มทบ.13 เป็น รอง ผบ.พล.ร.11 ว่ากันว่าเป็นการจัดทัพให้เข้าที่เข้าทาง...ส่วนไฮไลต์ในการสลับสับเปลี่ยนผู้การกรม ต้องไปลุ้นอีกระลอก หลังจากผ่านต้นเดือน ธ.ค.ไปแล้ว เพราะแว่วว่ามีการสลับสับเปลี่ยนตัวบุคคลในตำแหน่งสำคัญอีก 2-3 ตำแหน่ง ๐

ข่าวฝาก...กองทัพบกประกาศรับสมัครทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ โดยวิธีร้องขอ (กรณีพิเศษ) ด้วยระบบออนไลน์ ประจำปี 2568 โดยชายไทยที่มีอายุ 18-20 ปีบริบูรณ์ และอายุ 22-29 ปีบริบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2568 ที่ผ่านการตรวจเลือกฯ แล้วแต่ไม่ถูกเข้ากองประจำการ และบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติตามที่กองทัพบกกำหนด ที่มีความต้องการสมัครเข้ารับราชการทหารกองประจำการ สามารถสมัครและเลือกหน่วยทหารที่ต้องการเข้ารับราชการฯ ได้ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 26 ม.ค. 68 ผ่านระบบออนไลน์ที่ https://rcm.rta.mi.th สำหรับกำหนดวันทำการคัดเลือก ในวันเสาร์ที่ 14 ธ.ค. 67, วันเสาร์ที่ 25 ม.ค. 68 และวันอาทิตย์ที่ 26 ม.ค. 68 ๐

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมดปัญญา...เทวดาต้องรอด

เวลานี้ มีคนบางคนทำผิดกฎหมาย ไม่ให้ค่ารัฐธรรมนูญ บดขยี้กระบวนการยุติธรรมจนป่นปี้ แล้วปรากฏว่าเขาไม่มีความผิดใดๆ ไม่มีหน่วยงานใด ไม่มีกฎหมายมาตราใดจะเอาโทษเขาได้

ว่าด้วยความสำคัญของ 'จังหวะ' และ 'โอกาส'

อาทิตย์นี้...ก็ 22 ธันวา.เข้าไปแล้ว อีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงช่วงจังหวะ คริสต์มาส ที่คงมีโอกาสได้ยิน ได้ฟัง บทเพลงอันสุดจะซาบซึ้ง ตรึงใจ ไม่ว่าประเภท จงกระเบน-จงกระเบน (Jingle Bells)

ตั้ง'นายพล'ไปต่อ

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 41 นาย ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ที่เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี

นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร

นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง

'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!

คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน

'เห็นลิ้นไก่' แก้ กม.กลาโหม

ป่วนกันทั้ง "กรมปทุมวัน" หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. มีคำวินิจฉัยกรณีตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งนักบิน (สบ 5) รายหนึ่ง