ให้?!?..ในสิ่งที่ไม่ใช่

คนฝั่งธนฯ ตื่นเต้นกันพอสมควรทีเดียว กับป้ายรถเมล์ติดแอร์เย็นฉ่ำ ให้กับชาวบ้านบริเวณถนนหน้าซีคอนบางแค

ถือเป็นการอำนวยประโยชน์ให้คนสัญจรบริเวณนั้น ไม่ต้องตากแดด ตากลม ตากฝน และสูดดมมลภาวะทางอากาศที่นับวันจะรุนแรงขึ้นทุกทีจากปัญหาฝุ่น PM 2.5

ถ้าถามใจคนใช้รถเมล์ล่ะก็ หากเลือกได้ คงไม่อยากจะไปอยู่ในป้ายรถเมล์ติดแอร์นานๆ ร่วมกับคนมากหน้าหลายตาที่ไม่รู้จัก แต่ขอเลือกให้รถเมล์มาเร็วๆ หรือไม่ก็มีกำหนดเวลาที่แน่นอนดีกว่านะ เพราะเมื่อรถเมล์สามารถบริการจัดการเวลาตามที่ระบุไว้ในแต่ละป้าย แบบเดียวกับรถไฟฟ้าที่แต่ละขบวนจะรอไม่นานเกิน 3-5 นาที ชีวิตมันก็คงจะง่าย โดยไม่จำเป็นต้องร้อนอกร้อนใจ แล้วพึ่งพาแอร์คอนดิชั่นหรอก..จริงไหม

แทนที่ กทม.จะไปสรรหาอะไรที่ไม่ตรงกับความต้องการของชาวบ้านผู้เดินดินกินข้าวแกง ผู้ใช้รถใช้ถนน ควรอย่างยิ่งที่จะประสานหารือกับ ขสมก. อีกทั้งสำนักจราจรของตำรวจดีกว่าไหมว่า จะหาทางออกอย่างไร ให้การจราจรบนท้องถนนสำหรับรถประจำทางหรือรถเมล์นั้น เป็นไปตามกรอบเวลาที่พึงปรารถนา

มนุษย์ป้าคิดแทนแบบตรงไปตรงมา เพราะขึ้นรถเมล์มาตั้งแต่เด็ก จนถึงอายุปูนนี้ก็ยังใช้บริการอยู่บ้างเป็นครั้งคราวนะคะ ไม่ใช่สักแต่จะวิพากษ์วิจารณ์ แล้วไม่เคยสัมผัสของจริง

ลองตรองดูสิ ต่อไปในป้ายรถเมล์จะมีคนไร้บ้านมาจับจองที่นั่งที่นอน คุณจะทำอย่างไร และเอาเข้าจริงๆ ผู้โดยสารแต่ละคน เดินมาเหงื่อเต็มตัว กว่าจะถึงป้ายรถเมล์ แล้วไปรวมกันอยู่ในป้ายที่ปิดมิดชิด เพราะเกรงว่าแอร์จะหลุดลอดออกมา กลิ่นคงประหลาดนะคะ

ช่วยบริการจัดการรถเมล์ให้มีคุณภาพจะดีกว่าไหม เพราะใครๆ ก็คงอยากจะไปถึงที่หมายโดยไว มากกว่าจะนั่งเย็นสบายอยู่ที่ป้ายรถเมล์ แล้วต้องกังวลว่า เมื่อไหร่รถเมล์จะมา..จริงๆ นะ.

"ป้าเอง"  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ต้องมีน้ำอดน้ำทน..ไปถึงไหน?!?

ตื่นเต้นตื่นตัวกันอย่างอึกทึกครึกโครม เมื่อ สคบ.ป่าวประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2567 ใครซื้อของจ่ายเงินปลายทางแล้วพบว่า "ไม่ตรงปก" ชำรุด หลอกส่งสินค้า ให้ปฏิเสธการจ่ายเงินได้ แต่ถ้าใครจ่ายแล้วก็ให้แจ้งขอเงินคืนภายใน 5 วัน

ไม่ไป..ก็ไม่รู้!!

ไปเห็นมาแล้วหรือยังคะ กับแหล่งช็อปปิ้งใหม่ที่ใหญ่มาก อลังการงานสร้างใจกลางเมืองที่ชื่อว่า One Bangkok

พื้นฐานใช้ชีวิตให้สุขบั้นปลาย

ในงานประชุมเพลิงศพ "นายแพทย์" คนหนึ่ง มีหนังสือที่ระลึกแจกแก่ผู้ไปไว้อาลัยเพื่อหวังให้เป็น "บทเรียน" หรือจะเรียกว่าเป็นอุทาหรณ์สอนใจก็ได้ว่า เป็นหมอทั้งชีวิตก็มีสิทธิ์ป่วยได้ และไม่มีใครหนีพ้นสัจธรรมของโลก เกิด แก่ เจ็บและตาย

อายุน้อย100ล้าน!?!

ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในกรณีเหล่าคนดัง ดารานักแสดง พิธีกร นางแบบนายแบบ พากันเดินเข้าคิวรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะธุรกิจขายตรง กลายเป็น "แชร์ลูกโซ่" นั้น มีผู้วิเคราะห์วิจารณ์ว่า มันได้สะท้อนบางเรื่องบางราวในสังคมไทยยุคนี้แบบน่าตกใจ นั่นคือ

ความรับผิดชอบของบุคคลสาธารณะ

กลายเป็นเรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์กันเลยทีเดียว กับดารานักแสดง พิธีกรรายการทีวีและวิทยุทั้งหลาย ที่ต้องตกเป็น "ผู้ต้องหา" ในคดีอื้อฉาวขายสินค้าประเภทอาหารเสริมและเวชสำอาง แต่กลับกลายเป็นขบวนการแชร์ลูกโซ่ไปเสียแล้ว