7 พระตำรวจสร้าง

พระที่ได้จัดสร้างไว้มีหลายรูปแบบ มีทั้งพระพุทธรูป และพระเครื่องราง หรือนิยมเรียกโดยย่อว่า พระเครื่อง เช่น พระพุทธรูปขนาดเล็ก พระเนื้อผงพิมพ์สมเด็จ พระกริ่ง หรือเหรียญเกจิอาจารย์ต่างๆ

ขอนำเอาพระตำรวจสร้าง ที่มีเรื่องราวที่น่าสนใจมานำเสนอ โดยสังเขปบางองค์ ดังนี้

องค์แรก สมเด็จเผ่า เป็นพระเครื่องที่ตำรวจได้จัดสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก

ปี พ.ศ.2495 พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ ได้จัดสร้างพระสมเด็จ โดยเอาพิมพ์พระสมเด็จที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สร้างไว้เป็นที่นิยมของประชาชนทั้งประเทศ ที่วัดอินทรวิหาร

ได้มีการจัดสร้างพระพิมพ์สมเด็จเผ่า  มี 4 พิมพ์ 1.พิมพ์ใหญ่ 2.พิมพ์ทรงเจดีย์ 3.พิมพ์อกร่องหูบายศรี 4.พิมพ์สามเหลี่ยมนางพญา รวมทั้งหมดจำนวน 84,000 องค์

แม่พิมพ์พระสมเด็จเผ่าใช้รูปแบบพระพิมพ์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทั้งแบบสี่เหลี่ยมและสามเหลี่ยม แม่พิมพ์นี้เป็นของมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษของนายประยูร วงศ์ผดุง ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของสมเด็จวัดพลับ จังหวัดชลบุรี

พิธีปลุกเสกได้ทำพิธี 2 ครั้ง พล.ต.อ.เผ่าเป็นประธานในพิธี มีการอัญเชิญดวงวิญญาณสมเด็จโตร่วมปลุกเสกกับเกจิอาจารย์ที่เป็นที่เคารพสักการะสมัยนั้นหลายองค์ อาทิ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ,  หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว, หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ฯลฯ

พุทธคุณเป็นที่โจษขานด้านแคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยมวงการพระและประชาชนทั่วไปเรียกกันจนติดปากว่า “สมเด็จเผ่า’’

องค์ที่สอง พระภูธราวดี เป็นพระเครื่องที่จำลองแบบมาจากองค์พระร่วงโรจนฤทธิ์ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร  จังหวัดนครปฐม

เมื่อปี พ.ศ.2505 พล.ต.ท.ประชา บูรณะธนิต และ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้ร่วมกันสร้างพระภูธราวดีขึ้น เนื่องในโอกาสเกษียณอายุราชการทั้งสองท่าน

ทั้งสองท่านเป็นนายตำรวจผู้มีชื่อเสียงในการปราบปรามโจรผู้ร้าย และเชื่อกันว่าตัวท่านเองมีคาถาอาคมพิเศษ สามารถปกปักรักษาตัวเองให้ปลอดภัย ปราบปรามโจรผู้ร้ายได้อย่างราบคาบ

พระภูธราวดี ได้จัดสร้าง 3 แบบ พระภูธราวดี, พระกริ่งภูธราวดี และพระคะแนน สำหรับพระคะแนนยังแบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ ได้แก่ พิมพ์ทวารวดี, พิมพ์พระนางตรา และพิมพ์พระประตูทอง

พระภูธราวดี เป็นพระที่มวลสาร ว่านมหามงคลครบเครื่อง นับแต่วันนั้นจนกระทั่งบัดนี้ ยังไม่มีพระเครื่องใดที่มีมวลสารว่านมหามงคลครบเครื่องเท่าได้ และได้จัดสร้างไว้จำนวนมากถึง 168,000 องค์

พระกริ่งภูธราวดีก็ประกอบด้วยเนื้อทองนวโลหะ 9 อย่าง ตามตำราโบราณ (นวโลหะเต็มสูตร) ประกอบด้วย โลหะทองคำ เงิน ทองแดง พลวง สังกะสี ดีบุก  เจ้าน้ำเงิน เหล็กละลายตัว เหล็กธรรมดา และเหล็กไหล

พิธีสร้างพระที่พระอุโบสถวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช และประกอบพิธีปลุกเสก 2 ครั้ง ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช และวัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม

พิธีปลุกเสกที่วัดมหาธาตุฯ โดยคณาจารย์จากสำนักวัดเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง อาทิ พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา,  อาจารย์คง วัดบ้านสวน, อาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ ส่วนพิธีปลุกเสกที่วัดพระปฐมเจดีย์ฯ โดยเกจิอาจารย์ภาคกลาง

เมื่อสร้างเสร็จได้มีการนำทูลเกล้าฯ  ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระองค์ท่านได้รับสั่งว่า “พระเก่าพระใหม่นั้น สำคัญอยู่ที่ผู้สร้าง ถ้าผู้สร้างจิตใจบริสุทธิ์ และถึงพระแล้ว พระนั้นก็ศักดิ์สิทธิ์”

ได้มีการแจกจ่ายพระภูธราวดีให้ตำรวจ ทหาร และประชาชนทั่วไป ไม่มีการเช่าบูชา

องค์ที่สาม เหรียญเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต หรือที่เรียกกันว่า เหรียญปรกจเร

ปี พ.ศ.2514 พล.ต.ท.ชนะ วงศ์ชะอุ่มเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งจเรตำรวจ ได้จัดสร้างขึ้น

เจ้าคุณนรฯ อดีตเป็นพระยานรรัตน์ราชมานิต ในสมัยรัชกาลที่ 6 ต่อมาอุปสมบท มีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนาเคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นพระที่มีเมตตาสูง เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป

เหรียญปรกจเร เป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้าเป็นพระนาคปรก มีเศียร 7 เศียร ด้านหลังมีข้อความว่า “ของจเรตำรวจ พ.ศ.2514” ได้จัดสร้างจำนวนทั้งหมด 84,000 เหรียญ

เหรียญเจ้าคุณนรฯ ปรกจเร เป็นพระเครื่องที่ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมพระเครื่อง พลังพุทธคุณเปี่ยมล้นด้วยพลังจิตอธิษฐานของเจ้าคุณนรฯ

องค์ที่สี่ เหรียญหลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในภาคเหนือ

ปี พ.ศ.2535 พล.ต.ท.ชุมพล อัตถศาสตร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 รับผิดชอบพื้นที่ทางภาคเหนือ ได้จัดสร้างพระหลวงพ่อเกษม รุ่นบารมี 81

หลวงพ่อเกษม เป็นพระอริยสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติและปฏิปทาควรแก่การกราบไหว้ วัตถุมงคลที่ท่านตั้งจิตอธิษฐานทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์และมีอานุภาพ วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นของดี ประชาชนมีความต้องการเอาไปบูชาอย่างมาก

เหรียญหลวงพ่อเกษม รุ่นบารมี 81 ได้จัดสร้างเป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อเกษม ด้านหลังเป็นรูปตราแผ่นดิน สัญลักษณ์ตำรวจและพระผงหลวงพ่อเกษม รูปแบบเหมือนกับเหรียญรูปไข่ทุกประการ ทุกเหรียญมีการตอกโค้ดไว้ด้านหลังของเหรียญ เหรียญนี้ออกแบบแกะพิมพ์ได้อย่างสวยงาม

รวมทั้งเหรียญอาร์ม รุ่นบารมี 81 เนื้อเงินลงยาสีเขียว ด้านหน้าเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 5 ด้านหลังของเหรียญอาร์มเป็นรูปตราแผ่นดิน

หลวงพ่อเกษมท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกให้เต็มที่ ทรงความศักดิ์สิทธิ์และเปี่ยมไปด้วยมหาพุทธานุภาพเป็นอย่างยิ่ง

ได้นำออกให้เช่าบูชาและแจกจ่ายตำรวจและประชาชนผู้มีจิตศรัทธานำเงินรายได้เป็นสวัสดิการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจ ภาค 3

องค์ที่ห้า พระกริ่งญาณวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา

หลวงพ่อคูณ เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดของภาคอีสาน เมื่ออุปสมบทศึกษาพระธรรมวินัยกับพระอาจารย์ต่างๆ และปฏิบัติอย่างเคร่งครัด นั่งวิปัสสนากรรมฐานอย่างจริงจัง เดินธุดงค์ไปทั่วทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เขมร กลับมาสร้างวัตถุมงคลพร้อมทั้งก่อสร้างวัด โรงเรียน โรงพยาบาล จนเป็นที่สักการะของประชาชนทั้งประเทศ

ปี พ.ศ.2536 พล.ต.ท.บุญทิน วงศ์รักมิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจ ภาค 2 รับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสาน ได้จัดสร้างพระกริ่งญาณวิทยาคม หลวงพ่อคูณ รุ่นรู้รัก สามัคคี

ได้จัดสร้างเป็นพระกริ่งญาณวิทยาคมเนื้อทองคำ 399 องค์, เนื้อเงิน 1,999 องค์, เนื้อนวโลหะ 7,601 องค์ รวม 9,999 องค์

เหรียญรูปไข่ญาณวิทยาคม เนื้อทองคำ 499 เหรียญ, เนื้อเงิน 4,999เหรียญ, เนื้อนวโลหะ 9,999 เหรียญ

พระเกจิอาจารย์ที่ร่วมลงอักขระและปลุกเสก อาทิ หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย นครพนม, หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวิน นครราชสีมา, หลวงปู่เครื่อง วัดกำแพงใหญ่ ศรีสะเกษ

โดยหลวงพ่อคูณนั่งปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลา 7 คืน

ได้นำออกให้ประชาชนเช่าบูชา นำเงินรายได้เป็นสวัสดิการช่วยเหลือตำรวจและครอบครัว สนับสนุนประชาชนที่ทำหน้าที่พลเมืองดี ดำเนินการเพื่อสาธารณะประโยชน์กับองค์กรการกุศลอื่นๆ

องค์ที่หก หลวงพ่อทวด วัดพะโคะ  พระที่มีอิทธิปาฏิหาริย์และอภิญญาแก่กล้า จนเกิดสมญานามว่า หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

คนรู้จักและโด่งดังไปทั้งประเทศ วัตถุมงคลได้รับความนิยมสูงมาก มีการจัดสร้างกันหลายรุ่น หลายวัด ไม่เฉพาะแต่คนไทยที่เสาะแสวงหาเช่ามาบูชา คนจีน คนสิงคโปร์ คนมาเลเซีย ก็นิยมเช่นกัน

ปี พ.ศ.2551 พล.ต.อ.วิสุทธิ์ กิตติวัฒน์ นายกสมาคมตำรวจ ได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อทวด รุ่นพิทักษ์แผ่นดิน โดยหลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย จังหวัดปัตตานี เป็นผู้ดำเนินการ

หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย เป็นเกจิอาจารย์แห่งปัตตานีที่มีชื่อเสียงมีศิษยานุศิษย์ทั่วประเทศ เป็นพระสุปฏิปันโน และมีอาคมขลัง ปลุกเสกวัตถุมงคล ให้เกิดโชคลาภและเมตตามหานิยม แคล้วคลาดภยันตรายต่างๆ

ได้จัดสร้างเป็นพระเครื่องชนิดต่างๆหลายรูปแบบ

เหรียญหลวงพ่อทวด พิมพ์เสมา เหรียญหัวโต (ย้อนยุค) เลียนแบบเหรียญหลวงพ่อทวด หลวงพ่อทิม วัดช้างไห้ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2501 ด้านหลังเป็นตราแผ่นดิน สัญลักษณ์ตำรวจ เนื้อโลหะชนิดต่างๆ ได้แก่ เนื้อทองคำ เนื้อเงินลงยาสีธงชาติ เนื้อทองแดงลงยาสีธงชาติ ฯลฯ

รูปหล่อหลวงพ่อทวด พิมพ์หลังเตารีด (ย้อนยุค) เนื้อทองคำ เนื้อนวโลหะ เนื้อเมฆพัด เนื้อทองขาว เนื้อสัมฤทธิ์

รูปหล่อหลวงพ่อทวด พิมพ์ลอยองค์เลขใต้ฐาน (ย้อนยุค) เนื้อทองคำเนื้อนวโลหพะ เนื้อเมฆพัด เนื้อทองขาว เนื้อสัมฤทธิ์

หลวงพ่อทวด พิมพ์โบราณ (ย้อนยุค)เนื้อว่าน และแหวนหลวงพ่อทวดเนื้อต่างๆ

วัตถุมงคลรุ่นนี้สร้างเพื่อหารายได้ไปเป็นทุนตั้งมูลนิธิสมาคมตำรวจ และสวัสดิการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดภาคใต้

องค์ที่เจ็ด เป็นพระพุทธรูปหลวงพ่อโสธร พระประธานในอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา

เป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนเคารพกราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่ง ประชาชนหลั่งไหลไปสักการบูชาบนบานขอในสิ่งประสงค์ ประสบความสำเร็จมากมาย ทำให้มีการสร้างวัตถุมงคลทั้งพระบูชา พระกริ่ง เหรียญรูปแบบต่างๆ ให้คนทำไปบูชา จำนวนมาก

ปี พ.ศ.2538 กรมตำรวจสถาปนามาครบรอบ 80 ปี พล.ต.อ.พจน์ บุณยะจินดา อธิบดีตำรวจ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สมชาย ไชยเวช รองอธิบดีตำรวจ เป็นประธานจัดสร้างพระพุทธโสธร รุ่นประวัติศาสตร์ 80 ปีกรมตำรวจ จัดสร้างโดยบริษัท แพรนดา จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน)

จัดสร้างเป็นพระพุทธรูปพระพุทธโสธร เนื้อสามกษัตริย์ (ทองแดง ทองเหลือง นิกเกิล) หน้าตัก 9 นิ้ว จำนวน 5,000 องค์ พระพุทธโสธร พิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็ก เนื้อต่างๆ และพระพุทธโสธร แปดเหลี่ยม เนื้อต่างๆ จำนวนมาก

วัตถุที่ใช้ในการสร้างพระพุทธโสธรรุ่นนี้ สถานีตำรวจต่างๆ ได้นำแผ่นทองคำ ทองเหลือง และแผ่นทองแดง ไปให้เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศ จำนวน 474 รูป ลงยันต์ตามที่เกจิอาจารย์ศึกษามา เพื่อความเป็นสิริมงคล

พิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก ที่ห้องสารสิน กรมตำรวจ ปทุมวัน มีเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วประเทศ 108 รูป มาร่วมในพิธีปลุกเสก อาทิ หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกการาม กาญจนบุรี, หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม ฯลฯ

พิธีมหาพุทธาภิเษก ครั้งที่ 2 ที่พระอุโบสถวัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย มีเกจิอาจารย์ร่วมปลุกเสก 108 รูป ไม่ซ้ำกับพิธีพุทธาภิเษกที่ห้องสารสิน กรมตำรวจ

รายได้จากการให้เช่าบูชานำมาสร้างสโมสรตำรวจ บางเขน และนำเงินเข้ามูลนิธิบุณยะจินดา เป็นสวัสดิการตำรวจและครอบครัว

ปัจจุบันพระพุทธโสธร รุ่นประวัติศาสตร์ กรมตำรวจ 80 ปี ได้รับความนิยมเล่นหากันในหมู่นักสะสมพระเครื่องเป็นจำนวนมาก ผู้มีพระพุทธโสธรรุ่นนี้ต่างมีประสบการณ์อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเมตตาแคล้วคลาด หรือโชคลาภ

องค์ที่แปด พระพุทธประทานยศบารมี เป็นพระที่มีรูปแบบศิลป์ที่สวยงามที่สุดองค์หนึ่ง

ปี พ.ศ.2552 พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ล้านนา เป็นผู้ปั้น เป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธศิลป์เป็นศิลปะร่วมสมัย รัชกาลที่ 9 มีลักษณะพิเศษเป็นลักษณะเฉพาะตัว แตกต่างจากพระพุทธรูปอื่นทั่วไป

จัดสร้างเป็นพระพุทธประทานยศบารมี แบบบูชา ปางชนะมาร ขนาดหน้าตัก 99 ซม. จำนวน 1 องค์ ประดิษฐานที่หอพระหน้ากองบัญชาการตำรวจภาค 5

พระพุทธประทานยศบารมี แบบบูชา ปางชนะมาร ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว จำนวน 355 องค์

พระพุทธประทานยศบารมี แบบกริ่งลอยองค์ มีทั้งพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เล็กเนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ รวมจำนวน 32,420 องค์

พิธีพุทธาภิเษกตำรวจภูธรภาค 5 ได้ประกอบพิธีในวัดต่างๆ ในเขตรับผิดชอบ 8 จังหวัด วัดพระธาตุดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่, วัดพระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน, วัดพระแก้วดอนเต้า จังหวัดลำปาง, วัดพระธาตุช่อแฮ่ จังหวัดแพร่, วัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน, วัดศรีโคนคำ จังหวัดพะเยา, วัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย และวัดพระธาตุดอยกองมู  จังหวัดแม่ฮ่องสอน

พิธีพุทธาภิเษกครั้งสุดท้ายที่ตำรวจภูธร ภาค 5 สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สมเด็จเกี่ยว) เสด็จเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์ พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในภาคเหนือทั้งหมดร่วมในพิธีพุทธาภิเษก

พระได้นำแจกจ่ายให้ข้าราชการตำรวจภูธร ภาค 5 คนละ 1 องค์ รวม 16,000 คน โดยไม่คิดมูลค่า

และนำออกจำหน่าย นำเงินรายได้เป็นสวัสดิการ พัฒนาเครื่องมือในการปฏิบัติราชการ ปรับปรุงสิ่งก่อสร้าง และตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษาบุตรธิดาข้าราชการตำรวจภูธร ภาค 5

เป็นพระที่ได้รับความนิยม จำหน่ายหมดอย่างรวดเร็ว และมีคนตามหาซื้อหามากที่สุดในภาคเหนือ

องค์ที่เก้า พระนิรันตราย เป็นพระประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ปี พ.ศ.2555 พล.ต.อ.เภา สารสิน ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ได้มีหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ขอพระบรมราชานุญาตจัดสร้างพระนิรันตราย จำลอง

เพื่อเป็นพระประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และให้ประชาชนบริจาคบูชานำรายได้เข้ามูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ จัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้โรงพยาบาลตำรวจ

ได้จัดสร้างพระนิรันตราย จำลอง มีพระพุทธรูปนิรันตราย ขนาดหน้าตัก 19 นิ้ว จำนวน 2 องค์ นำไปประดิษฐานหอพระหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปทุมวัน และที่อาคารรัชมังคลานุสรณ์ ภายในโรงพยาบาลตำรวจ

พระนิรันตราย แบบพระบูชา หน้าตัก 9 นิ้ว และพระกริ่งนิรันตราย เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อนวโลหะ

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเป็นประธานในพิธีเททอง และมีพิธีพุทธาภิเษกที่พระอุโบสถวัดบวรนิเวศฯ คณาจารย์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศมาร่วมในพิธีจำนวน 255 รูป มากที่สุดในประวัติศาสตร์การประกอบพิธีปลุกเสกพระ

ได้มีการมอบพระบูชานิรันตราย ขนาดหน้าตัก 9 นิ้ว ไปประดิษฐานที่สถานีตำรวจ และหน่วยงานตำรวจต่างๆ เพื่อให้ประชาชน ตำรวจ ได้มีโอกาสสักการะบูชา ส่วนพระกริ่งนิรันตราย ได้แจกจ่ายให้ตำรวจทุกนายเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย

นอกจากพระจำนวน 9 องค์ที่กล่าวมานี้ ผู้บังคับบัญชาตำรวจยังได้จัดสร้างพระอีกหลายองค์ ล้วนแต่เป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพสักการะของพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วทั้งประเทศ เช่น หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต ขอนแก่น, หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล หนองบัวลำภู, หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม, หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีนบุรี เป็นต้น

ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมอนุโมทนา แสดงมุทิตาจิตในกุศลให้กับผู้ที่ได้ดำเนินการจัดสร้างพระตำรวจทุกท่านด้วยเทอญ.

หมายเหตุ: บทความนี้ ข้อความบางตอนคัดลอกมาจากหนังสือ "พระตำรวจสร้าง" โดย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ผู้รวบรวม จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน ครั้งที่ 1 พ.ศ.2553