“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” หลังออกมาตีกินผ่านนิด้าโพลของ จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ ว่ารัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร จะอยู่ครบเทอม แต่ไม่ทันข้ามวันก็ถูกจับโป๊ะทันที เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “รัฐบาลอย่าหลงประเด็น:ผลนิด้าโพล” ระบุว่า ผมขออนุญาตวิเคราะห์ผลนิด้าโพล ประเด็นคำถาม : รัฐบาลอุ๊งอิ๊งอยู่ครบเทอมหรือไม่ ผลปรากฏว่า ร้อยละ 41.68 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้จนครบเทอมในปี 2570
รองลงมา ร้อยละ 19.08 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้อีกประมาณ 2 ปี (2569) ร้อยละ 16.87 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้อีกประมาณ 1 ปี (2568) ร้อยละ 11.99 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้จนเกือบๆ ครบเทอมในปี 2570 ร้อยละ 9.77 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้ไม่เกินสิ้นปี 2567 และร้อยละ 0.61 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
จะเห็นได้ว่าประชาชนที่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลอยู่ครบเทอม มีเพียง 41.68% ส่วนที่เห็นว่าไม่ครบเทอม แต่แตกต่างกันในเงื่อนไข รวมทั้งสิ้น 57.71% แสดงให้เห็นว่า ประชาชนที่เชื่อว่า รัฐบาลชุดนี้อยู่ไม่ครบเทอม สูงกว่าความเห็นว่า รัฐบาลอยู่ครบเทอม 16.03%
ส่วนเหตุผลที่ประชาชนคิดว่ารัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม มีหลายเหตุผล มีน้ำหนักแตกต่างกันไป แต่ในฐานะที่เป็นผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง จะขอวิเคราะห์ว่า สาเหตุที่ทำให้รัฐบาลอาจอยู่ไม่ครบเทอม ประมวลมาจากผลนิด้าโพล น่ามาจากเหตุผล 4 ประการ
คือ 1.รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลผสม พรรคการเมืองแต่ละพรรคมีจุดยืนและอุดมการณ์แตกต่างกัน สุ่มเสี่ยงต่อความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันสูงมาก 2.มีการยื่นคำร้องต่อองค์กรอิสระจำนวนมาก 3.เกิดจากผลงานของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ล้มเหลว ไม่ประสบความสำเร็จ และ 4.มีการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้
“ผมเห็นข่าวโฆษกรัฐบาลออกมาขอบคุณประชาชน ที่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลอยู่ครบเทอมสูง แต่ในข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น รัฐบาลกำลังหลงประเด็น เพราะคะแนนรวมของผู้เห็นว่ารัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอมรวมกันแล้วสูงกว่าที่เห็นว่ารัฐบาลอยู่ครบเทอมนะครับ”
ต่อเนื่องด้วยเรื่องโพล แต่งานนี้เป็นการสอบถามการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ซึ่งระยะหลังถูกมองว่าบทบาทการทำงานไม่ค่อยสมศักดิ์ศรี ท่ามกลางข้อสงสัยมีดีลอะไรกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่
โดยศูนย์สำรวจความคิดเห็น นอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยผลจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน จำนวน 1,500 คน จากทั่วทุกภูมิภาค ระหว่างวันที่ 11–12 ต.ค.2567 เรื่อง “ความเชื่อมั่นต่อการทำงานของพรรคฝ่ายค้าน”
โดยเฉพาะยังได้สำรวจถึงความเชื่อมั่นต่อการทำงานของพรรคการเมืองฝ่ายค้านเพียงใด พบว่า เชื่อมั่นมาก 12.3% ค่อนข้างเชื่อมั่น 16.1% ค่อนข้างไม่เชื่อมั่น 30.6% ไม่เชื่อมั่นมาก 26.7% และไม่มีความเห็น 14.3% สรุปก็คือ คนไม่เชื่อมั่นรวมกันมากถึง 57% เลยทีเดียว
เมื่อถามว่า การทำหน้าที่ของนักการเมืองพรรคฝ่ายค้านคนใดที่โดดเด่นที่สุด ซึ่งผู้ให้สำรวจให้ความเห็นว่า 1.นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) 15.2% 2.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. 12.8% 3.นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคปชน. 9.3% 4.นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. 9.3% 5.นางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. 8.7%
6.นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม 5.6% 7.นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชน. 5% 8.นางสาวธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม. พรรคปชน. 4.9% 9.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรค ปชน. 4.8% 10.นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย 4.2%
โดยหัวหน้าพรรค ปชน. ได้เพียง 4.8% อันดับ 9 เท่านั้น ทั้งที่เป็นผู้นำทัพสีส้ม ข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นการบ้านของพรรคสีส้มที่ต้องปรับปรุงความน่าเชื่อถือ ทั้งเรื่องการทำงาน และความนิยมของหัวหน้าพรรค หากต้องการชนะเลือกตั้ง.
คางคำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ต้องบอกว่า “มหากาพย์ดิไอคอน” ดูเหมือนจะลามและขยายวงไปเรื่อยๆ ในขณะที่ “บอสพอล” หรือ “วรัตน์พล วรัทย์วรกุล” ที่ยังนอนอยู่ในเรือนจำก็ยังยึดทฤษฎีว่าไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอยู่ต่อเนื่อง
บันทึกหน้า 4
เมื่อวันอังคาร ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานงานแถลงข่าว “Thailand Winter Festivals” ซึ่งจะมีกิจกรรมไฮไลต์ 7 กิจกรรม ประกอบด้วย 1.เทศกาลลอยกระทง 2.เทศกาลเคาต์ดาวน์ 3.กิจกรรมเชิงกีฬา 4.กิจกรรมด้านวัฒนธรรม 5.เทศกาลอาหาร 6.เทศกาลดนตรี และ 7.เทศกาลแสงสี
บันทึกหน้า 4
...บันทึกในวันที่สังคมไทยเปิดหูเปิดตาเสพเรื่องราวฉาวโฉ่ ทั้งเรื่องบนโต๊ะใต้โต๊ะ ซอกแซก ไปจนถึงใต้เตียงและบนโซฟา มากกว่าเรื่องราวความเป็นไปทางการเมือง!! มันก็แปลกดีนะ ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งหายไปจากแสงสีในโลกโซเชียลได้อย่างเนียนๆ เพราะชาวบ้านมัวแต่สนใจเรื่องผู้หญิง 2 คนในแวดวงสีกากีฟ้องร้องกล่าวโทษกัน และความเป็นไปของ "บอสพอล" ที่กำลังเล่นแร่แปรธาตุจาก "ผู้ต้องหา" กลายเป็น "ผู้เสียหาย" แบบไม่เกรงใจใคร
บันทึกหน้า 4
ไร้ปาฏิหาริย์! ครบรอบ 20 ปีคดีตากใบ มรดกบาปจากพ่อสู่ลูก "ในฐานะนายกรัฐมนตรีในวันนี้รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และต้องขอโทษในนามรัฐบาลด้วย ก็จะทำให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก...และก็อยากให้ประชาชนทุกๆ คนไว้ใจว่า
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับปรากฏการณ์ “ดิไอคอน” แรงดีไม่มีตกเสียจริงๆ นอกจาก 18 บอสที่เป็นดารานำแล้ว ดูเหมือนเรื่องราวจะลามยิ่งกว่า “ไวรัสมาร์บูร์ก” ที่ระบาดใน “รวันดา” แต่สามารถควบคุมได้
บันทึกหน้า 4
ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อค่ำวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นเจ้าภาพ หารือประเด็นร้อนของพรรคร่วมฯ