น่าจะชัดเจนในระดับหนึ่ง การแต่งตั้ง "นายพลสีกากี" วาระประจำปี 2567 ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และจเรตำรวจแห่งชาติ ลงมาถึง ผู้บังคับการ (ผบก.) ทั่วประเทศ ปีนี้จะแบ่งการแต่งตั้งเป็น 2 ขยัก แบ่งเป็น "นายพลใหญ่" กับ "นายพลเล็ก" ตามข้อมูลที่ บิ๊กเอก-พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวตอนหนึ่งระบุ "...ในเดือนพฤศจิกายน จะต้องดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกสองช่วง โดยช่วงแรกประมาณกลางเดือน จะเป็นการแต่งตั้งระดับ พลตำรวจโท-พลตำรวจเอก ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ยึดอาวุโสร้อยละ 100 สำหรับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้บัญชาการเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และร้อยละ 50 สำหรับรองผู้บัญชาการเป็นผู้บัญชาการ ส่วนช่วงปลายเดือนจะเป็นการแต่งตั้งระดับพลตำรวจตรี โดยใช้หลักอาวุโสร้อยละ 50..." ซึ่งก็ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ไทม์ไลน์ "กรมปทุมวัน" ครั้งนี้
สิ่งหนึ่งที่ "ก.ตร.เอก" ออกมาสะกิดถึงผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจในการแต่งตั้ง ประเด็นสำคัญคือการยึดกฎ เกณฑ์ อาวุโส ตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เหมือนที่ นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ขึ้นดำรงตำแหน่ง "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" หรือ "ผบ.ตร." ก็พิจารณาตามลำดับอาวุโส ประกอบกับความรู้ความสามารถ ก็อยากเห็นการแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร.ลงไปถึง ผบก. ยึดเป็นแนวทาง โดยเฉพาะ "ผู้บังคับบัญชา" ที่มีอำนาจในการแต่งตั้งหากให้ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การแต่งตั้ง เพราะ "ก.ตร.เอก" เน้นย้ำหากมีผู้ร้องทุกข์เกิดความเสียหาย ให้ถือว่าเป็นความผิดวินัยหรือผิดวินัยร้ายแรง ลงโทษได้โดยไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวน หรืออาจถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดอาญาฐานกระทำการต่างๆ โดยมิชอบ เกี่ยวกับการแต่งตั้งตำรวจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี...งานนี้เห็นที "ผบ.ต่าย" คงต้องกำชับการปฏิบัติไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีอำนาจในการแต่งตั้ง ให้ยึดกฎ ยึดระเบียบ อย่างเคร่งครัด ไม่เช่นนั้นโทษทั้งอาญาและวินัยร้ายแรงรออยู่แน่ๆ ๐
ทำดีก็ต้องชื่นชม บิ๊กต่าย เดินทางไปที่ สน.สายไหม มอบรางวัล “ทำดี มีรางวัล” ชื่นชมชุดปฏิบัติการทำงานยาเสพติดของ สน.สายไหม 6 นาย ประกอบด้วย ร.ต.อ.พงศ์พัฒน์ เกิดนพนันท์ รอง สวป.สน.สายไหม ด.ต.มานพ ยิ่งสูง ผบ.หมู่ ป.สน.สายไหม จ.ส.ต.ชินวุฒิ คงแสง ผบ.หมู่ ป.สน.สายไหม จ.ส.ต.วิชเยศ ภูฉลอง ผบ.หมู่ ป.สน.สายไหม จ.ส.ต.ณัฐภัณฑ์ พันธเสริม ผบ.หมู่ ป.สน.สายไหม และ ส.ต.ท.เจษฎา ยิ่งสูง ผบ.หมู่ ป.สน.สายไหม ที่เข้าจับกุมคนร้ายค้ายาเสพติดและใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนได้รับบาดเจ็บแต่ก็ยังกัดฟันยิงสู้คนร้าย จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ 2 ราย ยึดยาบ้าได้ 160,000 เม็ด ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม เช่นเดียวกับ บิ๊กจวบ-พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รรท.รอง ผบ.ตร. ชื่นชม ร.ต.ต.กฤษณะ บุตรสวัสดิ์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล., ร.ต.ต.สมสมัย เดชยศดี รอง สว.(ป.) ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. และ ด.ต.ธีรภัทร์ จันประทักษ์ ผบ.หมู่ ส.ทล.1 กก.8 บก.ทล. ที่ช่วยเหลือประชาชนรถกระบะเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ มีน้ำมันรั่วไหลและเกิดไฟลุกท่วมรถออกมาได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งชื่นชม ร.ต.อ.พีระยุทธ์ โนวัฒน์ รอง สว.(จร.) สภ.เมืองกระบี่ และ จ.ส.ต.นนทวัช แก่นเมือง ผบ.หมู่ (จร.) สภ.เมืองกระบี่ ช่วยเหลือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บหมดสติ ออกจากรถก่อนไฟลุกไหม้ท่วมทั้งคัน ๐
แม้อยู่ระหว่างรอประกาศคำสั่งแต่งตั้งผู้การกรมฯ-รองนายพล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ.ก็เรียกประชุมหน่วยขึ้นตรง ทบ.วาระพิเศษ เพื่อมอบนโยบายให้งานขับเคลื่อนไปตามนโยบายที่วางไว้ โดยมีผู้เข้าประชุม 388 นาย สิ่งที่ “ผบ.ปู” ได้เน้นย้ำ คือให้ ผบ.หน่วยยึดแนวทางการทำงานของกองทัพบกภายใต้กรอบ “นโยบายรัฐบาล” วาระเร่งด่วนและต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือการเตรียมกำลัง ใช้กำลัง เพิ่มประสิทธิภาพ กองกำลังป้องกันชายแดนในการสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมาย ตามมาด้วยการเดินหน้านโยบายการเข้าเป็นทหารกองประจำการโดยสมัครใจ สำหรับ “โครงการทหารออนไลน์” โดยย้ำให้ผบ.หน่วยลงไปใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการปฏิบัติ กระบวนการคัดสรร และให้ ผบ.หน่วยจับมือกับสัสดีอำเภอ ที่รู้ถึงกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่เพื่อเข้าถึงการประชาสัมพันธ์ แจ้งถึงสิทธิเพื่อเป็นแรงจูงใจ โดยตั้งเป้าผู้สมัครเพิ่มขึ้น และเมื่อเข้ามาฝึกแล้วต้องได้รับการฝึกที่เป็นมาตรฐาน ในเรื่องการส่งเสริมระเบียบวินัย ความแข็งแกร่งทางร่างกาย จะต้องไม่เกิดความสูญเสีย
นอกจากนั้น ยังให้ถอดบทเรียนในการช่วยเหลือบรรเทาภัยพิบัติ โดยใช้กลไกจิตอาสาพระราชทาน ทบ.เพื่อเชื่อมโยงศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสา กับศูนย์จิตอาสาภาค เพื่อบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่าง ทบ.กับภาคส่วนอื่นๆ ให้ทุกหน่วยตระหนักในหน้าที่ รู้รักสามัคคี ทำงานเป็นทีม ร่วมมือร่วมใจกันในการปฏิบัติภารกิจ ในฐานะข้าราชการที่ดี บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ปกป้องชาติและอธิปไตย ดูแลและเป็นที่พึ่งของประชาชนได้ในทุกโอกาส ได้สั่งการให้ ผบ.หน่วยนำไปสู่แผนการปฏิบัติงาน หรือ "แอ็กชันแพลน" ของแต่ละหน่วยเพื่อให้เกิดเป็นรูปธรรม ที่สำคัญคือได้น้อมนำ "หลักราชการ 10 ประการ" พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ซึ่งได้แก่ ความสามารถ, ความเพียร, ความมีไหวพริบ, ความรู้เท่าถึงการ, ความซื่อตรงต่อหน้าที่, ความซื่อตรงต่อคนทั่วไป, ความรู้จักนิสัยคน, ความรู้จักผ่อนผัน, ความมีหลักฐาน และความจงรักภักดี รวมถึงพระราชปณิธาน 5 ประการ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อให้ผู้บังคับหน่วยได้รับทราบและยึดถือเป็นแนวทางการปฏิบัติงาน ตลอดจนขยายผลไปยังกำลังพลภายในหน่วย
พอจะเห็นทิศทางลมใน ทร. หลังจาก "บิ๊กแมว" พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. ตั้ง พล.ร.อ.สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช (ตท.25) ที่ปรึกษาพิเศษ ทร. เป็นประธานคณะกรรมการบริหารเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกของกองทัพเรือ (อีอีซี) ในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา ในยุคนี้ “บอร์ด” ดังกล่าวถือว่ามีความสำคัญ และต้องจับตามอง เพราะโครงการยักษ์ที่กำลังจะเคาะในไม่ช้านี้คือ "เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์" แว่วว่าใบอนุญาตหนึ่งใบปักหมุดหมายไว้ คนที่มาดูงานนี้ต้องสานต่อรับไม้จาก “บิ๊กแมว” ที่เคยนั่งเป็นประธานคณะกรรมการฯ มาก่อน และน่าจะต้องเข้าถึงวงใน และได้รับความไว้วางใจพอสมควร จึงไม่แปลกที่จะมีการมองไกลไปถึง “โผปลายปี” ที่ชื่อของแคนดิเดตผู้นี้มาแรงตั้งแต่ต้นปี แถมมีแต้มต่อตรงที่อายุราชการยาวไปถึงปี 2570.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลัคนาตุลกับเค้าโครงชีวิตปี2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีที่มีระยะแตกแยกพี่น้อง หรือเพื่อนสนิท หรือยุ่งยากมรดก-การเงิน
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม
จ่ายเงินซื้อเก้าอี้!
ไม่รู้ว่าหมายถึง "กรมปทุมวัน" ยุคใด สมัยใคร จ่ายเงินซื้อเก้าอี้ ซื้อตำแหน่ง ในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ ตามที่ "ทักษิณ ชินวัตร" สทร.แห่งพรรคเพื่อไทย ประกาศเสียงดังฟังชัดในระหว่างขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก
ช่วงเค้าลางคดีสำคัญของนายกรัฐมนตรีก่อตัวในดวงเมือง
ขอพักการทำนายเค้าโครงชีวิตคนปี 2568 ไว้ชั่วคราว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคิวที่รออยู่คือท่านที่ลัคนาสถิตราศีตุล
ไม่สนใจใครจะต่อว่า เสียงนกเสียงกา...ข้าไม่สนใจ
ถ้าหากเราจะบอกว่านายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีเสียงตำหนิ มีการนำเอาการพูดและการกระทำที่ไม่ถูกไม่ต้อง ไม่เหมาะไม่ควร