ไม่ไหวแล้วนายจ๋า ใกล้หมดเวลาแล้วจ้ะ

เมื่อนายใหญ่ต้องระเห็จออกจากประเทศไทยไปเป็นสัมภเวสีอยู่ต่างแดนถึง 17 ปี ข้าทาสบริวารทั้งหลายก็พยายามที่จะให้นายใหญ่ได้กลับประเทศ และแล้วก็สมหวังเมื่อนายใหญ่ตัดสินใจที่จะกลับเข้ามาในประเทศไทย โดยบอกว่าจะกลับมาเลี้ยงหลานและจะยอมติดคุก วันที่นายใหญ่กลับเข้ามาก็พากันแห่แหนไปต้อนรับ นายใหญ่มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี สุขภาพแข็งแรงดี แต่แล้วตั้งแต่เข้าประเทศมา นายใหญ่ก็กระทำการอยู่เหนือกฎหมาย นั่งรถส่วนตัวไปเรือนจำ ไม่เปลี่ยนใส่ชุดนักโทษ ไม่ตัดผมเหมือนนักโทษเด็ดขาดคนอื่นๆ ภาพแบบนี้บาดตาบาดใจคนที่รักความถูกต้อง ความยุติธรรมยิ่งนัก และยังไม่ทันข้ามคืน นายใหญ่ก็เกิดอาการป่วยหนักปางตายแบบที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีความสามารถจะรักษาได้ จึงต้องออกมาอยู่โรงพยาบาลตำรวจ

เมื่อเข้ามาในประเทศไทยแล้ว นายใหญ่ก็ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ โดยในหนังสือที่ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกานั้น พูดชัดเจนว่ายอมรับผิดตามที่ศาลตัดสิน และสำนึกแล้ว จึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณลดโทษจาก 8 ปี เหลือเพียงปีเดียว แต่แล้วเหตุการณ์ต่อจากนั้น นายใหญ่ก็ทำตัวเหนือกฎหมายหลายประการ ไม่อยู่ในห้องรวมที่โรงพยาบาลตำรวจ ไม่อยู่ในห้อง ICU เยี่ยงคนที่ป่วยปางตาย ไม่ยอมให้หมอแถลงอาการ อยู่จนครบ 180 วัน ได้รับการพักโทษ ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านทันที ไม่มีอาการตาม 11 ข้อที่เป็นเงื่อนไขของการพักโทษนอกเรือนจำ แล้วยังตะลอนไปโน่นไปนี่ กินเลี้ยง ร้องเพลง มีท่าทีเหมือนนายใหญ่ไปตรวจงาน ตลอดระยะเวลาดังกล่าว ข้าทาสบริวารต่างช่วยกันอธิบายแก้ตัวให้นายใหญ่สารพัด อ้างว่าทำทุกอย่างตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์

แต่บัดนี้ มีคนมองเห็นว่าการทำตามระเบียบที่ว่านั้นน่าจะขัดพระราชบัญญัติที่มีศักดิ์เหนือระเบียบของราชทัณฑ์ อาจจะทำให้ข้าราชการที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้นายใหญ่ได้อยู่ห้อง VVIP ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจต้องโทษตามมาตรา 157 เวลานี้มีหน่วยงานหลายหน่วยงานกำลังตรวจสอบเรื่องนี้ ข้าทาสบริวารเริ่มมองว่าไม่ไหวแล้ว ทั้งการกระทำในอดีตและในปัจจุบันของนายใหญ่และลูกสาวที่นายใหญ่ “ครอบครอง” ที่เหนือกว่า “ครอบงำ” นั้น มีเรื่องที่ทำให้ผู้คนยื่นคำร้องกับหน่วยงานที่จะต้องวินิจฉัยเอาผิดพรรคเพื่อไทย ถึงขั้นที่พรรคเพื่อไทยอาจจะถูกยุบพรรค

นอกจากเรื่องทำตัวเป็นนักโทษเทวดาแล้ว ยังมีเรื่องการคิดอ่านที่จะเจรจากับกัมพูชาเรื่องผลประโยชน์จากทรัพยากรที่เกาะกูด โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน ทั้งๆ ที่เกาะกูดเป็นของประเทศไทยเราตามสนธิสัญญาระหว่างไทยกับฝรั่งเศสที่ทำกันตั้งในในรัชสมัยของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 เรื่องการจะรวมเอาการนิรโทษกรรมผู้กระทำผิดตามมาตรา 112 ไว้ในพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมที่พยายามขับเคลื่อนกันอยู่ ทั้งนี้เพราะนายใหญ่ก็มีคดีมาตรา 112 อยู่ด้วย การลงคะแนนว่าจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของกรรมาธิการที่ศึกษาเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่า สส.จำนวนมาก รวมทั้ง สส.ของพรรคเพื่อไทย ไม่ยอมรับทางเลือกที่เป็นข้อเสนอของกรรมาธิการ หมายความว่า สส.จำนวนมากไม่เอาด้วยที่จะให้มีการนิรโทษกรรมให้คนทำผิดตามมาตรา 112 การลงคะแนนครั้งนี้ เหมือนจะเป็นการส่งสารไปยังนายว่ามันไม่ไหวแล้วนาย จะไปต่อสุดซอยอย่างที่นายต้องการไม่ได้แล้ว เพราะทั้งเรื่องเกาะกูดและเรื่องนิรโทษกรรมคนทำผิดมาตรา 112 อาจเป็นเหตุให้พรรคเพื่อไทยถูกยุบตามคำร้องก็ได้

การประชุมที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเพื่อกำหนดตัวนายกรัฐมนตรีหลังจากที่เศรษฐาหลุดออกจากตำแหน่ง การแสดงวิสัยทัศน์ที่ตรงกับนโยบายของรัฐบาลที่ลูกสาวนำเสนอในสภาก็เป็นอีก 2 เรื่องที่ทำให้ผู้คนสันนิษฐานว่านายใหญ่ครอบงำพรรคเพื่อไทย ทำให้ไม่มีเสรีภาพในการบริหารบ้านเมือง พฤติกรรมต่างๆ ของนายใหญ่ตั้งแต่กลับเข้ามาในประเทศไทยไม่เป็นคุณแก่พรรคเพื่อไทยเลย มีแต่จะทำให้พรรคเพื่อไทยหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่รู้ว่าจะถูกยุบพรรคหรือไม่ แม้ว่าเวลานี้ยังไม่มีคำตัดสินทางกฎหมายปรากฏออกมา แต่ประชาชนโดยทั่วไปก็เชื่อไปแล้วเกือบทั้งประเทศว่านายใหญ่มีอำนาจในการควบคุมพรรค ทำให้คนในพรรคไม่มีเสรีภาพในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เรื่องดังกล่าวนี้ก็ยังเป็นเพียงความเชื่อของประชาชน ยังไม่ใช่การวินิจฉัยของศาล แต่เชื่อว่าคนในพรรคเพื่อไทยหลายคนคงไม่สบายใจกับพฤติกรรมของนายใหญ่ที่อาจจะนำไปสู่การยุบพรรคเพื่อไทยได้

  • การทำตัวเป็นนักโทษเทวดาคือการย่ำยีกระบวนการยุติธรรมของไทยที่คนส่วนใหญ่ไม่พอใจ และต้องการให้มีการทบทวนการติดคุกของนายใหญ่
  • เรื่องการจะจัดให้มี Entertainment Complex ที่มีบ่อนเสรีอยู่ด้วย ก็อาจจะเป็นอีกระเบิดเวลาที่ทำลายภาพลักษณ์ชื่อเสียงของพรรคเพื่อไทยว่าคิดแต่เรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ไม่คิดถึงผลกระทบทางสังคม นอกจากนั้นยังมีข่าวลืออีกว่ามีการรับผลประโยชน์ใต้โต๊ะจากคนที่จะมาลงทุนทำ Entertainment Complex เป็นเงินหลักหมื่นล้านในแต่ละแห่ง
  • เรื่องการคิดที่จะเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรของเกาะกูดด้วยการอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ทับซ้อน เรื่องนี้ประชาชนไม่ยอมแน่ๆ
  • เรื่องของการประพฤติตนไม่เหมือนคนป่วยวิกฤตปางตายเมื่อได้รับการพักโทษ ทำให้ประชาชนจำนวนมากมองว่าการป่วยอยู่ห้อง VVIP ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจเป็นป่วยทิพย์ที่มีคนพยายามจะลากนายใหญ่กลับเข้าคุกอีกครั้ง เพราะถือว่าที่ผ่านมายังไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว และอาจจะทำให้ข้าราชการและนักการเมืองที่ช่วยเหลือนายใหญ่ให้อยู่นอกเรือนจำเป็นเวลา 180 วันต้องติดคุกด้วย
  • เรื่องความพยายามที่จะนิรโทษกรรมให้คนทำผิดมาตรา 112 เพราะนายใหญ่ก็มีคดีทำผิดมาตรา 112 อยู่ด้วย

เรื่องราวทั้งหมดนี้ บางเรื่องก็มีผู้ร้องเอาผิดกับนายใหญ่บ้าง เอาผิดกับนายน้อยบ้าง เอาผิดกับพรรคเพื่อไทยบ้าง บางเรื่องหน่วยงานที่รับผิดชอบก็รับคำร้องแล้ว บางเรื่องหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ขยับหาข้อมูลเพื่อตัดสินใจว่าจะรับคำร้องหรือไม่ นักวิเคราะห์ทางการเมืองทั้งหลายต่างก็เห็นว่าคำร้องที่มีอยู่มากมายขนาดนี้ พรรคเพื่อไทยไม่น่าจะรอดไปได้ทั้งหมด พรรคอาจจะมีอันเป็นไปเพราะคำร้องใดคำร้องหนึ่ง ดังนั้นจึงมีความพยายามของคนในพรรคเพื่อไทยบางคนที่พยายามจะแก้ไขสถานการณ์ด้วยการไม่ทำตามใจนายใหญ่ไปทุกเรื่อง และพวกเขาคงอยากให้นายใหญ่เก็บเนื้อเก็บตัว สงบปากสงบคำในช่วงเวลานี้ เพราะยิ่งพูด ยิ่งทำ ก็ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยมีภาพลักษณ์ที่ติดลบเพิ่มมากขึ้น ถ้าหากพูดได้ชัดๆ พวกเขาอาจจะอยากพูดว่า “พอเถอะนาย อย่าทำอะไรที่แสดงตนเป็นคนอยู่เหนือกฎหมายมากนักเลย ประชาชนสมัยนี้ไม่ใช่คนตาบอดไม่กลัวเสืออย่างที่นายว่าอีกต่อไปแล้ว พวกเขาเปิดตากว้างแล้ว ไม่กล้าหาทางกำจัดเสือแล้ว” แต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีข้าทาสบริวารคนไหนกล้าเอากระดิ่งไปผูกคอแมว และถ้าหากมีใครสักคนกล้า นายใหญ่จะฟังหรือเปล่าล่ะ

เวลานี้มีแต่คนพูดว่ารัฐบาลนี้จะอายุสั้น บางคนก็ให้เวลาแค่ปลายปีนี้ บางคนก็ให้เวลาไปถึงต้นปีหน้า แต่หลายคนก็ห่วงว่าถ้าหากรัฐบาลมีอันเป็นไป ฉากทัศน์การเมืองของประเทศไทยจะเป็นเช่นไร คณิตศาสตร์ทางการเมืองที่เห็นอยู่ตอนนี้ ใครจะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะบริหารประเทศได้อย่างราบรื่น ถ้าหากยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในเวลานี้ หลายคนก็ไม่สบายใจว่าการกระทำของพรรคเพื่อไทยกำลังไปเพิ่มคะแนนให้พรรคส้ม ถ้าหากพรรคส้ม Landslide ขึ้นมา คราวนี้ก็คงว้าวุ่นแน่ๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ว่าด้วย 'คุณหนูนา' กับ 'ช้างไทย-วิถีไทย'

น่าจะซักประมาณหลายสิบๆ ปีที่แล้ว...ที่เคยมีโอกาสได้พูดคุย สนทนา กับ คุณหนูนา หรือคุณ กัญจนา ศิลปอาชา แบบตัวเป็นๆ และทำให้อดทึ่ง อดประทับใจ กับความอดทน

ตั้ง 'นายพล' 2 ขยัก

น่าจะชัดเจนในระดับหนึ่ง การแต่งตั้ง "นายพลสีกากี" วาระประจำปี 2567 ตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และจเรตำรวจแห่งชาติ ลงมาถึง ผู้บังคับการ (ผบก.)

ลัคนากรกฎกับเค้าโครงชีวิตปี2568

ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีของการปฏิวัติชีวิตทางสังคมและอาชีพพิเศษ เกณฑ์ลบด้านสุขภาพอนามัย-ความอึดอัดรอเพียบ แต่มีช่วงซ้อมรับโชคที่ได้แล้วรักษาไว้ไม่ได้ และซ้อมรับหัวหน้าเทวดาประจำตัวอวยชีวิตความโดดเด่นเจิดจ้า

ปากกล้า...ขาสั่น

เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงไม่กี่เดือน หลายคนมองว่าถ้าจะไปไม่ไหว เพราะนายกรัฐมนตรีของเราทำสิ่งที่ผิดพลาดหลายครั้ง มีทั้งการทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม การทำสิ่งที่ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ

ศูนย์รวมจิตใจในยาม 'วิกฤต'

มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา

'การเมือง' แก้ด้วย 'การเมือง'

สง่างาม...พิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ สวนสนามเนื่องในวันตำรวจ 2567 ณ บริเวณลานศรียานนท์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปีแรกที่ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์