ว่าด้วย 'คุณหนูนา' กับ 'ช้างไทย-วิถีไทย'

น่าจะซักประมาณหลายสิบๆ ปีที่แล้ว...ที่เคยมีโอกาสได้พูดคุย สนทนา กับ คุณหนูนา หรือคุณ กัญจนา ศิลปอาชา แบบตัวเป็นๆ และทำให้อดทึ่ง อดประทับใจ กับความอดทน อดกลั้น ของคุณหนูนาขึ้นมามิได้ ที่ไม่ได้คิดจะปริปากใดๆ กับควันบุหรี่ที่ฟุ้งขโมงภายในห้องทำงานแคบๆ ของ อันตัวข้าพเจ้าเอง ยังคงความสุภาพ เรียบร้อย ถ่ายทอดความคิด ความอ่านที่น่าคิด น่าสะกิดใจ ผ่านบทสนทนาที่ยืดยาวร่วมชั่วโมงๆ...

ส่วนที่ต้องหยิบเอาเรื่องคุณหนูนา...มารำลึกนึกถึงกันในช่วงนี้ อาทิตย์นี้ อาจเนื่องมาจากคุณหนูนา ท่านดันไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของ ช้างไทย หรือ วิถีช้างไทย ในแบบไหน? เมื่อไหร่? อย่างไร? ก็ไม่ถึงกับชัดเจน 

แต่ด้วยเหตุเพราะพอจะรับรู้รับทราบ เรื่องราวเหล่านี้อยู่มั่ง จากผู้ที่ดูแล เยียวยา อันตัวข้าพเจ้าเอง ที่นำมาเล่าสู่กันฟังแบบวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เลยเกิดอาการคล้ายๆ กับพวก ดิไอค่ง-ไอคอน อะไรทำนองนั้น คือมีอันต้องเห็นข่าว สัมผัสข่าว อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงใดๆ ได้เลย...

แต่เรื่องของ ช้างไทย หรือ วิถีช้างไทย นั้น...น่าจะ ยังประโยชน์ ให้มากกว่าเรื่องของดิไอค่ง-ดิไอคอนเป็นไหนๆ ไม่เพียงเพราะ ช้าง เคยถูกถือเป็น สัญลักษณ์ ของประเทศไทย สังคมไทย มาเป็นเวลาช้านาน แต่มาช่วงหลังๆ นี้...ยังต้องเผชิญกับ วิถีฝรั่ง ที่ไม่ใช่แค่คิดจะ ครอบงำ ประเทศไทย สังคมไทย หรือปัญญาชนคนไทย ฯลฯ แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังเพียรพยายามครอบงำ วิถีช้างไทย โดยอาศัย มาตรฐานฝรั่ง เป็นหลักซะอีกต่างหาก เลยมีอันต้องเจอกับ คุณหนูนา ไปด้วยประการฉะนี้...

คือ คุณหนูนา ท่านจะชอบช้าง รักช้าง ด้วยเหตุผลกลใดก็ตามที แต่ด้วยเหตุเพราะสายเลือด หรือเพราะได้รับการถ่ายทอดสิ่งต่างๆ จากท่านอดีตนายกฯ บรรหาร หรือไม่? อย่างไร? ก็ยากจะสรุปได้ ไม่เพียงแต่ความอดทน อดกลั้น ความกตัญญูกตเวที ความเมตตา-กรุณา อันเป็น คุณสมบัติ ติดตัวท่านมาอย่างเห็นได้โดยชัดเจน ดูๆ ท่านน่าจะมีความ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อ วิถีช้างไทย หรือกระทั่ง วิถีความเป็นไทย จนมิอาจอดรนทนได้อีกต่อไป ต่อความพยายามครอบงำของพวกฝรั่ง หรือการนำเอา วิถีฝรั่ง มาใช้เป็นหลักมาตรฐานต่อ ช้างไทย จนกลายเป็นเรื่อง-เป็นราว เป็นข่าวใหญ่ ข่าวโต สำหรับบรรดาผู้รักช้างทั้งหลาย...

ในเฟซบุ๊ก NuNa Silpa-archa ท่านว่าเอาไว้ดังนี้... “ดิฉันไม่ยอมให้ฝรั่งมาชี้นำ เพราะไม่เคยขอเงินฝรั่ง เราคนไทยใช้โซ่และตะขอก็เมื่อจำเป็น มีควาญประจำตัวช้าง ที่เป็นควาญจริงๆ ไม่ใช่แค่คนให้อาหาร และเพราะอย่างนี้...ชาวช้างไทยจึงดูแล รักษา ชีวิตช้างของเรามาได้โดยตลอด” ส่วนจะถูก-จะผิด หรือไม่? อย่างไร? คงต้องขึ้นอยู่กับ รสนิยม ของใคร-ของมันที่จะไปว่ากันเอาเอง เพราะคงไม่ต่างไปจากการเถียงกันไป-เถียงกันมา ระหว่าง ประชาธิปไตยแบบฝรั่ง กับ ประชาธิปไตยแบบไทยๆ นั่นแหละทั่น ที่โอกาสจะหาข้อสรุป ข้อยุติ ยังแทบเป็นไปไม่ได้จนตราบเท่าทุกวันนี้...

แต่จะด้วย ความเป็นไทย หรือด้วยอะไร? ก็แล้วแต่...ใครก็ตามซึ่งมีโอกาสได้พบปะ เจอะเจอ คุณหนูนา คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า ท่านเป็นอะไรที่น่าเคารพ นับถือ น่ายกย่อง สรรเสริญ เอามากๆ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะนักการเมือง หรือปุถุชนคนธรรมดาก็ตามที อาจด้วยเหตุเพราะ ความเชื่อแบบไทยๆ ที่ท่านอธิบายไว้ในเฟซบุ๊ก Nuna นั่นแหละว่า... “ดิฉันเชื่อมั่นในการประกอบกรรมดี แม้จะมีอุปสรรคบ้าง แต่เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ย่อมได้บรรลุผลอันพึงประสงค์ พระอริยะท่านไม่ให้ยึดทั้งดี ทั้งชั่ว ท่านว่าทำดีก็ไม่ให้หวังผล เพราะผลนั้นเกิดจากเหตุปัจจัยหลายอย่าง อาจไม่ได้เนื่องจากการกระทำของเราอย่างเดียว เพราะฉะนั้นทำดีแต่ไม่ต้องหวังผล แต่ดิฉันยังเป็นปุถุชน ยังไม่บรรลุอะไรเลย ก็ยังขอหวังผลอยู่บ้าง ทั้งนี้....ผลที่หวังก็ไม่ใช่เพื่อตัวเองเลย” เพราะ “ชีวิตดิฉัน...มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ มีแม่เป็นร่มโพธิ์ มีลมหายใจให้ระลึก” อันนี้นี่แหละ...ที่ต้องจัดอยู่ในประเภท นารี ของจริง-ของแท้ โดยไม่จำเป็นต้อง ขี่ม้าขาว ให้น้ำหลากกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หมดปัญญา...เทวดาต้องรอด

เวลานี้ มีคนบางคนทำผิดกฎหมาย ไม่ให้ค่ารัฐธรรมนูญ บดขยี้กระบวนการยุติธรรมจนป่นปี้ แล้วปรากฏว่าเขาไม่มีความผิดใดๆ ไม่มีหน่วยงานใด ไม่มีกฎหมายมาตราใดจะเอาโทษเขาได้

ว่าด้วยความสำคัญของ 'จังหวะ' และ 'โอกาส'

อาทิตย์นี้...ก็ 22 ธันวา.เข้าไปแล้ว อีกแค่ไม่กี่วันก็ถึงช่วงจังหวะ คริสต์มาส ที่คงมีโอกาสได้ยิน ได้ฟัง บทเพลงอันสุดจะซาบซึ้ง ตรึงใจ ไม่ว่าประเภท จงกระเบน-จงกระเบน (Jingle Bells)

ตั้ง'นายพล'ไปต่อ

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งต่างๆ จำนวน 41 นาย ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา ที่เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี

นักการเมืองไม่ทำชั่ว...ไม่ต้องกลัวรัฐประหาร

นายกรัฐมนตรี 2 คนที่มาจากตระกูลชินวัตรต้องถูกยึดอำนาจจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และ 2557 ทำให้นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นหมายเลข 1 ของตระกูลชินวัตรมีความประหวั่นพรั่นพรึงการทำรัฐประหารของทหารเป็นอย่าง

'หิริ-โอตตัปปะ'คือวาระแห่งชาติ!!!

คงต้องยอมรับอย่างมิอาจปฏิเสธได้เลยว่า...ไอ้สิ่งที่เรียกว่า ความอาย หรือจะเรียกภาษาพระ ภาษาบาลี ประมาณว่า หิริ-โอตตัปปะ ก็คงพอได้ นับวันมันชักเป็นอะไรที่ ขาดแคลน

'เห็นลิ้นไก่' แก้ กม.กลาโหม

ป่วนกันทั้ง "กรมปทุมวัน" หลังคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. มีคำวินิจฉัยกรณีตำรวจยศ พ.ต.อ. ตำแหน่งนักบิน (สบ 5) รายหนึ่ง