แหกกฎ ก.ตร.!

นี่ซิ... "สีกากี" ของแทร่! ขนาดการแต่งตั้ง "ตำรวจ" ทุกระดับ มี พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 มีกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567 กำหนดไว้ชัดเจน

ใช้หลัก ใช้เกณฑ์ ในการแต่งตั้งแบบไหน อย่างไร

ก็ยังมี "พวกฤทธิ์เยอะ" พยายามจะแหกกฎ แหกกติกา หาช่อง หาทาง ในการหลบเลี่ยง เพื่อเอาประโยชน์เข้าตัวเอง มากกว่าคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม  ประโยชน์องค์กร

ยิ่งนับถอยหลังเข้าสู่การแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี ที่ตามไทม์ไลน์จะอยู่ตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน  "นักวิ่ง" ประเภท "ฤทธิ์เยอะ" ดูจะพยายามออกฤทธิ์เดชกัน จนแวดวง "สีกากี" ระส่ำ

เล่าลือกันถึงการแต่งตั้งระดับ "ผู้บัญชาการ" หรือ "ผบช." ขึ้น "ผู้ช่วย ผบ.ตร." ที่ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567 ส่วนที่ 5 วิธีการคัดเลือกหรือแต่งตั้งของผู้มีอำนาจ ข้อ 47 การคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นในแต่ละระดับตำแหน่ง ให้พิจารณาจากผู้มีความรู้ความสามารถจากบัญชีรายชื่อผู้อยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

 (1) ข้าราชการตำรวจที่จะคัดเลือกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และจเรตำรวจแห่งชาติลงมาถึงผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองจเรตำรวจแห่งชาติ ให้พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส 

นั่นหมายความว่า ผบช.ที่อาวุโสตามลำดับว่างของตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ปีนี้มี 7 เก้าอี้ว่าง "ผบช." อาวุโสลำดับ 1-7 ต้องเดินเรียงแถวขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.แบบ 100%

ก็มี "นักวิ่ง" ไม่ยอมจบ ไม่ยอมขึ้น ยังดิ้น ยังใช้พลัง หาช่องโหว่ "ขออยู่ต่อ" สะพัดกันถึงขนาด อ้างตัวเองไม่เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น (แต่เหมาะสมอยู่ตำแหน่งผบช.หลักต่อ...ว่าซั่น)

ไม่รู้ "บังเอิญ" หรือ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ยินเสียงเล่าลือดังกล่าวเหมือนกันหรือเปล่า เพราะ "บิ๊กเอก" โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุดตอนหนึ่ง

"....ในเดือนพฤศจิกายน จะต้องดำเนินการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่อีกสองช่วง โดยช่วงแรกประมาณกลางเดือน จะเป็นการแต่งตั้งระดับ พลตำรวจโท-พลตำรวจเอก ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ยึดอาวุโสร้อยละ 100 สำหรับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้บัญชาการเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และร้อยละ 50 สำหรับรองผู้บัญชาการเป็นผู้บัญชาการ ส่วนช่วงปลายเดือนจะเป็นการแต่งตั้งระดับพลตำรวจตรี โดยใช้หลักอาวุโสร้อยละ 50

สิ่งสำคัญที่ผู้มีอำนาจและผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจในการแต่งตั้งทุกระดับต้องตระหนักมีดังนี้

ประการแรกบริบทและเจตนารมณ์กฎหมายต่างๆ ไม่ว่า บทบัญญัติในกฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 พ.ร.บ.ตำรวจ 2565 กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งตำรวจ 2567 การแต่งตั้งตำรวจ ต้องเป็นไปตามระบบคุณธรรม ให้คำนึงถึงอาวุโส ความรู้และความสามารถ

กำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งชัดเจนแน่นอน มิให้ผู้ใดใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบ ตำรวจต้องไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของบุคคลใด...."

ชัดเจนขนาดนี้ ไม่รู้ "นักวิ่ง" ชอบแหกกฎ จะกล้าท้าทาย ก.ตร.ยุคนี้หรือเปล่า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งานหิน'บิ๊กต่าย'

ทำหน้าที่ "วันตำรวจ" ครั้งแรก ในฐานะ "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" เป็นผู้นำสีกากีอย่างเต็มตัว บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. ส่งสารถึง "ตำรวจ" ทั่วประเทศ

ชิงเก้าอี้ฝุ่นตลบ!

ถูกต้องแล้วอย่าไปฝืน อย่าไปศรีธนญชัย การแต่งตั้ง "ผบ.ตร." คนที่ 15 ปล่อยไปตามล็อก ตามกฎ ตามระเบียบ ตามข้อบังคับ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะได้ไม่เหนื่อย ไม่ต้องมีปัญหาวุ่นวาย

เทวดาข้ามห้วย

หากเป็นไปตามไทม์ไลน์ "กรมปทุมวัน" วันจันทร์ที่ 7 ต.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ

คำพูดเป็นนาย

แม้ตามอำนาจหน้าที่การเสนอรายชื่อแต่งตั้ง "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" หรือ "ผบ.ตร." คนใหม่ ซึ่งถือเป็นรายที่ 15 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ระบุไว้ชัดเจนใน พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ 2565 มาตรา 78 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง

อำลาสมเกียรติ

นับถอยหลังอีกไม่ถึง 10 วัน "ตำรวจ" ที่ครบเกษียณอายุราชการประจำปี 2567 จำนวน 4323 นาย ก็ต้องอำลาชีวิตราชการ

สิ้นเดือนรู้ 'ผบ.ตร.' ใหม่

กางปฏิทิน "กรมปทุมวัน" เคาะวันส่งมอบหน้าที่ "ผู้นำสีกากี" ระหว่าง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล