บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับปรากฏการณ์ “ดิไอคอน” แรงดีไม่มีตกเสียจริงๆ นอกจาก 18 บอสที่เป็นดารานำแล้ว ดูเหมือนเรื่องราวจะลามยิ่งกว่า “ไวรัสมาร์บูร์ก” ที่ระบาดใน “รวันดา” แต่สามารถควบคุมได้ จนทำให้ “องค์การอนามัยโลก (WHO)” ถึงกับปรบมือชื่นชมเสียอีก เพราะเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วเรื่องก็ลามไปถึง พระสงฆ์องคเจ้าอย่าง “พระเมธีวชิโรดม” หรือ ว.วชิรเมธี แห่งไร่เชิญตะวัน ...๐

แต่ดูเหมือนสัปดาห์นี้เรื่องกลับวกมาสู่ “เทวดา” มือตบทรัพย์ทั้งหลาย ซึ่งต้องบอกว่า “วรัตน์พล วรัทย์วรกุล” หรือ “บอสพอล” นั้น เขี้ยวลากดินเห็นๆ และยิ่งกว่าหนังแนวหักเหลี่ยมเฉือนคมอย่างมาก เนื่องจากมีการซุกการอัดเทปเสียงไว้ในเป้ากางเกงนานหลายชั่วโมง และยังไม่นับรวมคลิปภาพตลบหลังบรรดานักรีดไถและนักตบทรัพย์อีกต่างหาก งานนี้เล่นเอาใครต่อใครไม่ว่าจะเป็น “เทวดา” หรือ “ซาตาน” ทั้งหลายก็หนาวๆ ร้อนๆ กันจ้าละหวั่น ...๐

แล้วที่ต้องลุ้นๆ ไปพอๆ กันก็เหมือนกับที่ “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว” รอง ผบช.ก. บอกนั่นแลว่า พวกหิวแสงทั้งหลายในคดีนี้ก็ใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ไม่ต่างจากบรรดา “เทวดา” เหมือนกัน เพราะ “บิ๊กเต่า” ประกาศต่อสาธารณะแล้วว่าจะมีการเช็กบิลบรรดาคนอยากดังอยากโหนจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดีและองค์กรต่างๆ โดยเฉพาะข่าวว่าด้วยการโยกเงินหมื่นแล้วแปลงเป็นเงินคริปโตฯ แล้วโอนไปยังนอกประเทศ ซึ่งก็ต้องยอมรับ เพจดังอย่าง “สายไหมต้องรอด” ของ “เอกภพ เหลืองประเสริฐ” เป็นผู้จุดพลุเรื่องดังกล่าว แม้ล่าสุดเจ้าตัวจะยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจแล้วก็ตามที แต่ก็อย่างที่ “บิ๊กเต่า” บอกนั่นแล “ถ้าจะเข้ามาหาแสง ต้องแม่นข้อกฎหมายด้วย ไม่ใช่เอาแต่มันส์ แล้วทำให้เสียหายต่อองค์กรอื่น” ...๐

แล้วที่ขำไม่ออกเข้าไปอีกสำหรับ “ดิไอคอน” ที่ลามไปถึง “แชร์แครอต” แล้ว นั่นคือการหันมาจับมือหย่าศึก หรือ จูบปากกันอย่างหวานชื่นระหว่าง “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และ “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หลังจากเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่กรณีหวย 30 ล้านและฟ้องกันนัวเนีย แต่สุดท้ายก็เกี้ยเซียะกันแล้ว พร้อมโยงไปว่าไม่ต่างจาก “ทักษิณ ชินวัตร” กับ “เนวิน ชิดชอบ” ที่เป็นคู่ขัดแย้งกันมานาน แต่ท้ายที่สุดก็จับมือกันได้ ...๐

แล้วก็เหมือนเป็นการปล่อยของในการจับมืออีกต่างหาก เพราะมีแพลมว่าจะเปิดโปงธุรกิจเครือข่ายที่มีเจ้าของเป็น สส.พรรคเพื่อไทย และมีหุ้นส่วนเป็นคนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิง ทั้ง นางเอกดังช่องน้อยสี ชื่อย่อ ต. ดีเจ นักแสดง ชื่อย่อ มต. และ ตห. หลอกผู้เสียหายลงทุนหาเครือข่าย จูงใจผู้ร่วมลงทุนไปเที่ยวต่างประเทศในทำนองเดียวกับ “ดิไอคอน” ด้วย โดยต้องรอลุ้นในวันที่ 4 พ.ย. ที่บอกว่าจะพาผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดี ...๐

แต่สิ่งที่สังคมสงสัยกันอย่างมากกับปรากฏการณ์ดิไอคอนนั้น แทบทุกพรรคการเมืองพาเหรดกันออกมาแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คงมีแต่พรรคของ “บอสส้ม” อย่าง พรรคประชาชนของ “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” กลับเงียบเป็นเป่าสาก ถ้าจะมีเสียงออกมาบ้างก็เป็นไปในนามของ “กรรมาธิการ” ในชุดต่างๆ เท่านั้น แต่ในระดับหัวหน้าพรรคหรือแกนนำพรรค หรือแม้แต่อดีตแกนนำพรรคก้าวไกลก็ไม่เคยเอ่ยเคยพูดในเรื่องดังกล่าวแบบเป็นกิจจะลักษณะแต่ประการใดเลย ก็ไม่รู้ว่า “ดิไอคอน” กับ “ส้ม” เขามีอะไรในกอไผ่หรืออย่างไร ...๐

เรียกว่าเหลือเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมงดี ก็จะถึงคราวหมดอายุความในคดีตากใบในวันที่ 25 ตุลาคมนี้แล้ว ซึ่งใครต่อใครก็ฟันธงกันล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะออกมาอีหรอบนี้ เพราะ เรื่องเกิดในยุค “ทักษิณ” แล้วก็มาจบในยุคลูกอย่าง “แพทองธาร” ดูง่ายๆ ล่าสุดเมื่อสื่อมวลชนถามเรื่องดังกล่าวกับ นายกฯ ไอแพด ก็ตอบแบบไม่ต้องคิดว่า “ขอไปก่อนนะคะ” ในขณะที่ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ที่ถูกตั้งคำถามเดียวกันในเรื่องข้อเสนอการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อขยายอายุความของคดีตากใบ ก็โยนเผือกร้อนทันทีว่าให้ไปถาม “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ทั้งที่ในข้อเท็จจริงและไทม์ไลน์นั้นก็บอกได้ว่าทำไม่ทันและทำไม่ได้ เพราะตามหลักแล้วกฎหมายที่จะย้อนหลังต้องเป็นคุณเท่านั้น ไม่ใช่เป็นโทษ และในเวลาที่เหลือไม่ถึง 2 วัน การออกพระราชกำหนดนั้นก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ แม้จะทำได้ก็ตามที ...๐

 แต่ที่ขำไม่ออกมากที่สุดคือกรณี​คณะกรรมการ​สิทธิ​มนุษยชน​แห่งชาติ​ หรือ กสม. เพิ่งตื่นมาออกแถลงการณ์​เรื่อง ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขเยียวยาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงกรณีการสลายการชุมนุมที่ตากใบ พิโธ่! นี่ก็เรียกว่าไม่ต่างจากกรณี “หิวแสง” เหมือนเพจดังในดิไอคอน เลย เพราะหาก กสม.จริงจังและจริงใจจริงก็ควรออกมาแล้วตั้งแต่หลังศาลมีการออกหมายเรียก หมายจับ ไม่ใช่โผล่มาออกตอนที่คดีจะขาดอายุความ จริงไหมจ๊ะ ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

...บันทึกในวันที่สังคมไทยเปิดหูเปิดตาเสพเรื่องราวฉาวโฉ่ ทั้งเรื่องบนโต๊ะใต้โต๊ะ ซอกแซก ไปจนถึงใต้เตียงและบนโซฟา มากกว่าเรื่องราวความเป็นไปทางการเมือง!! มันก็แปลกดีนะ ที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งหายไปจากแสงสีในโลกโซเชียลได้อย่างเนียนๆ เพราะชาวบ้านมัวแต่สนใจเรื่องผู้หญิง 2 คนในแวดวงสีกากีฟ้องร้องกล่าวโทษกัน และความเป็นไปของ "บอสพอล" ที่กำลังเล่นแร่แปรธาตุจาก "ผู้ต้องหา" กลายเป็น "ผู้เสียหาย" แบบไม่เกรงใจใคร

บันทึกหน้า 4

ไร้ปาฏิหาริย์! ครบรอบ 20 ปีคดีตากใบ มรดกบาปจากพ่อสู่ลูก "ในฐานะนายกรัฐมนตรีในวันนี้รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และต้องขอโทษในนามรัฐบาลด้วย ก็จะทำให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก...และก็อยากให้ประชาชนทุกๆ คนไว้ใจว่า

บันทึกหน้า 4

ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเมื่อค่ำวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นเจ้าภาพ หารือประเด็นร้อนของพรรคร่วมฯ

บันทึกหน้า 4

“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ฉลองปี 28 ก้าวเข้าสู่ปีที่ 29 แต่ภารกิจยังมั่นคงเช่นเดิม เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เฝ้าเมือง และยืนหยัดต่อประชาชนอยู่เช่นเดิม

บันทึกหน้า 4

เข็นเข้าสู่สภาจนได้ ทีแรกยึกๆ ยักๆ ทำท่าจะเลื่อนรอบ 3 รายงานนิรโทษกรรม ภายใต้การกำกับของมือกฎหมายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย "ชูศักดิ์ ศิรินิล" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

บันทึกหน้า 4

งานนี้ต้องเรียกว่า “ปรากฏการณ์ดิไอคอน” ได้สร้างผลสะเทือนนอกจากบรรดา “บอส” และดารา นักร้อง นักแสดงและพิธีกรทั้งหลายแล้ว ล่าสุดยังลุกลามไปยังแวดวงการเมืองอีกต่างหาก โดยเฉพาะที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ