เที่ยงคืนพรุ่งนี้ (๒๕ ตุลาคม) คดีตากใบจะหมดอายุความแล้ว
จำเลยทุกคนจะเป็นอิสระ เจ้าหน้าที่รัฐจะไปจับตัวมาดำเนินคดีไม่ได้
และฟ้องในคดีเดิมอีกไม่ได้
แต่ในทางสังคมจะจมอยู่กับคดีตากใบไปจนตาย
มีข้อถกเถียงเรื่องอายุความอยู่เหมือนกัน ว่าทำไมต้องมี
วัตถุประสงค์ของระบบยุติธรรมบางประเทศที่ให้มีอายุความ เพราะเชื่อว่า การพิสูจน์ความจริง นั้น ต้องรีบทำให้เร็วที่สุด
ต้องทำในขณะที่ พยานหลักฐานยังสดและใหม่
เพราะทำให้โอกาสที่ศาลจะตัดสินผิดพลาดคลาดเคลื่อนมีน้อย
กลับกันยิ่งทิ้งเวลาไว้เนิ่นนาน หลักฐานต่างๆ ย่อมสูญหายไปตามกาลเวลา
แต่ในประเทศไทยเริ่มเปลี่ยนแนวคิดเรื่องอายุความแล้วในบางคดี
นั่นคือคดีคอร์รัปชัน
พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยมีสาระสำคัญ ที่น่าสนใจ และควรขยายไปยังคดีที่มีผลกระทบกับสังคมในวงกว้าง
ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. ๒๐๐๓ (United Nations Convention Against Corruption: UNCAC) ท่าให้มีหน้าที่ในการปฏิบัติตามพันธกรณีอนุสัญญาดังกล่าวหลายประการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายภายในของประเทศไทย เพื่ออนุวัติการตามอนุสัญญา ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล
การที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเพื่ออนุวัติการตามพันธกรณีอนุสัญญาดังกล่าว ก่อให้เกิดผลเสียต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในเรื่องความพยายามและความจริงจังในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายภายในเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
และก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต รวมถึงการแก้ไขปัญหาการทุจริตภายในประเทศ
จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ในการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการทุจริตมีกลไกในการจัดการทุจริตและประพฤติมิชอบทั้งในภาครัฐและภาคเอกชนที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
มีประเด็นที่สำคัญคือเรื่องอายุความ
ตามกฎหมายที่แก้ไขใหม่ มาตรา ๗๔/๑ กำหนดให้ในการดำเนินคดีอาญาตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. ถ้าผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาของศาล อายุความจะสะดุดหยุดอยู่ และเมื่อได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำเลยแล้ว ถ้าจำเลยหลบหนีไปในระหว่างต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจะไม่นำเรื่องอายุความมาใช้บังคับ
การแก้ไขนี้มิได้เป็นการขยายอายุความในคดีทุจริตแต่อย่างใด แต่เป็นการยกเว้นมิให้นับอายุความในกรณีที่ผู้กระทำความผิดหลบหนีเท่านั้น
ครับ...แม้ไม่ใช่การขยายอายุความ แต่ผลก็ไม่ต่างกันนัก
หนีเมื่อไหร่อายุความก็หยุดรอตามตัวมาลงโทษ
ไม่อยากนอนคุกก็ต้องหนีให้ได้ตลอดชีวิต
คดีตากใบ มีข้อเสนอให้ออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ขยายอายุความของคดีตากใบ เพื่อนำจำเลยทั้งหมดมารับโทษ
ในคดีอาญาสามารถออกกฎหมายเพื่อเอาผิดย้อนหลังได้จริงหรือ
"นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" อดีต สส.พัทลุง โพสต์ความเห็นไว้ดังนี้ครับ
"...อย่ายัดความโง่ ใส่หัวประชาชน
การออกพระราชกำหนดขยายอายุความ ในความผิดทางอาญา มันทำไม่ได้ อายุความมันขึ้นกับอัตราโทษ แม้อายุความไม่ใช่โทษทางอาญา แต่อายุความที่ยาวขึ้นมันเป็นโทษกับผู้ต้องหาหรือจำเลย จะไม่มีผลย้อนหลัง ศาลฎีกาก็ยืนแนวนี้มาตลอด
วิงวอนรัฐบาลอย่าหลอกประชาชน และวิงวอนประชาชนก็อย่ายอมให้รัฐบาลหลอก รัฐบาลจับผู้ต้องหาไม่ได้แล้วยังมาหลอกประชาชนอีกว่าจะออก พ.ร.ก.ขยายอายุความ เป็นการหลอกหาคะแนนไปเรื่อยๆ
ทั้งคดีตากใบ และ ไอคอนกรุ๊ป ขยายอายุความไม่ได้..."
ใช่ครับ...หลักกฎหมายอาญาไม่มีผลย้อนหลังเป็นโทษ ถือเป็นหลักที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญของประเทศไทยมายาวนาน
เคยถูกนำมาปรับกับการพิจารณาวินิจฉัยในศาลยุติธรรม ดังที่ปรากฏในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑/๒๔๘๙ ที่สรุปได้ว่า
"...คดีเป็นปัญหากฎหมายในเบื้องต้นที่จะต้องวินิจฉัยเกี่ยวด้วยการบังคับใช้บทพระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม ศาลนี้เห็นว่าพระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม พุทธศักราช ๒๔๘๘ เฉพาะที่บัญญัติย้อนหลังให้การกระทำก่อนวันใช้พระราชบัญญัติเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติด้วยนั้น ขัดกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๔ และเป็นโมฆะ ตามมาตรา ๖๑ (รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยาม พุทธศักราช ๒๔๗๕ ประกาศและบังคับใช้เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๔๗๕ ยกเลิกเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๔๘๙)
เมื่อบทบัญญัติที่โจทก์ฟ้องขอให้เอาผิดแก่จำเลย ศาลนี้ได้วินิจฉัยแล้วว่าเป็นโมฆะ อันจะลงโทษจำเลยไม่ได้ ก็ไม่มีประโยชน์อันใดที่ศาลจะฟ้องคำพยานหลักฐานโจทก์ในเรื่องนี้ต่อไปอีก จึงพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์เสีย..."
ศาลรัฐธรรมนูญ ก็เคยมีคำวินิจฉัยคุ้มครองสิทธิของประชาชนในเรื่องดังกล่าวมาแล้ว ความปรากฏในคำวินิจฉัยที่ ๓๐/๒๕๖๓
สรุปได้ว่า
"...การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๕/๒๕๕๗ เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗ กำหนดให้บุคคลมารายงานตัวในวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๐๐ นาฬิกา โดยปรากฏชื่อจำเลยในคดีนี้ คำสั่งดังกล่าวไม่ได้กำหนดให้การไม่มารายงานตัวต้องรับโทษทางอาญา
แต่ต่อมาในวันเดียวกันนั้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๙/๒๕๕๗ เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวตาม คำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ลงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๗ กำหนดให้บุคคลที่มีรายชื่อตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ไม่มารายงานตัวภายในวันเวลาที่กำหนด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๒ ปี หรือปรับไม่เกิน ๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นการออกคำสั่งเรียกให้มารายงานตัวก่อน แล้วออกประกาศกำหนดโทษของการกระทำดังกล่าวลงในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้ทราบทั่วกันในภายหลัง (วันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗) จึงเป็นการกำหนดโทษทางอาญาให้มีผลย้อนหลัง แก่บุคคลผู้ไม่มารายงานตัวตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งเกิดขึ้นก่อน ไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรมที่ว่า 'ไม่มีความผิด ไม่มีโทษ โดยไม่มีกฎหมาย' จึงขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๙ วรรคหนึ่ง”
เมื่อพิจารณา ข้อเท็จจริงจากคำวินิจฉัยพบว่า หลัก 'กฎหมายอาญาไม่มีผลย้อนหลังเป็นโทษ' นั้น บุคคลจะมีความผิดต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่กระทำนั้นบัญญัติว่าเป็นความผิด และกำหนดโทษของความผิดไว้
ดังนั้น การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ ๕/๒๕๕๗ ออกคำสั่งเรียกให้รายงานตัวก่อนและออกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๒๙/๒๕๕๗ กำหนดโทษของการกระทำดังกล่าวในภายหลัง จึงเป็นคำสั่งที่มีโทษอาญาย้อนหลังไปลงโทษการกระทำที่เกิดขึ้นก่อน จึงเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๙ วรรคหนึ่ง และขัดต่อหลักนิติธรรม..."
ฉะนั้น การออกกฎหมายมาบังคับใช้ในภายหลังเพื่อย้อนเอาผิด คงถึงขั้นต้องไปรื้อรัฐธรรมนูญเสียก่อน
คดีตากใบไปไกลสุดได้แค่นี้
ในอนาคต คดีที่กระทบกับสังคมสูง หากจะเอาผิดผู้ต้องหาหรือจำเลยที่หนีเพื่อให้หมดอายุความ แนวทางในกฎหมาย ป.ป.ช.มีความเป็นไปได้มากที่สุด
หนีเมื่อไหร่ หยุดนับอายุความ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ด.ญ.แพทองโพย'
ชอบครับ.... คำขวัญวันเด็กจากนายกรัฐมนตรีปีนี้ "...ทุกโอกาสคือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง..."
ผนงรจตกม.
รัฐบาลนี้แปลกครับ... บอกว่าข้างหน้ามีเหว อย่าเดินไป
จะเห็นปรากฏการณ์ใหม่
มวยถูกคู่จริงๆ "ทักษิณ-จตุพร" แค้นมันลึกจนปลายตีนไม่น่าจะหยั่งถึงแล้ว วิถีของทั้ง ๒ คน น่าจะบรรจบได้ยาก แต่จะเกิดปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นมาแทน
'ทักษิณ' ภาคสุดท้าย
เป็นพื้นฐานของคนจริงๆ ครับ ความฉิบหายวายป่วงของรัฐบาลระบอบทักษิณช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ใชเรื่องคนอื่นทำ หรือเกิดจากการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด
โกงซ้อนโกง
ต้องยกนิ้วให้ครับ อย่าเข้าใจผิด...นิ้วโป้ง ครับ ฉายารัฐบาลถ้าไม่มีฉายา “พีระพัง” ร่วมด้วย บอกตรงๆ ว่า จืดไปเลย เพราะรู้อยู่แล้วว่า ฉายารัฐบาล และรัฐมนตรี จะออกมาแนวนี้
"ทักษิณ" ยังต้องการอำนาจ
ยังคาใจกันเยอะครับ... ตั้งแต่ "ทักษิณ ชินวัตร" กลับมาไทยในรอบ ๑๗ ปี จากนักโทษที่ไม่ยอมติดคุก เพราะป่วยวิกฤตห่างหมอไม่ได้ มีความเสี่ยงเสียชีวิตสูง