จากกรณีที่มีการออกมาแชร์ภาพกองขยะบริเวณรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 ที่อยู่ในความดูแลของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นั้น จากการตรวจสอบของ บขส.และการรถไฟฯ พบว่า ปัญหาขยะสะสมเป็นจำนวนมากนั้น เบื้องต้นคาดว่ารถขนส่งสาธารณะได้เข้าไปจอดในบริเวณดังกล่าว เนื่องจาก เป็นช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง อาจจะมีผู้ใช้บริการรถขนส่งสาธารณะใช้เป็นพื้นที่สำหรับทิ้งขยะ ประกอบกับในช่วงนั้นมีผู้เข้าชมคณะหมอลำที่จัดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียงโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงทำให้เกิดการทิ้งขยะ และเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น
โดยเรื่องนี้ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น และได้สั่งการให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะสะสมในพื้นที่บริเวณรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 มาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงสถานที่ให้มีความสะอาดเรียบร้อย มีทัศนียภาพที่สวยงาม และพร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน
โดยได้กำชับให้ บขส.และการรถไฟฯ เข้มงวดในการเข้าพื้นที่ด้านหลังสถานีขนส่งหมอชิต 2 เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก โดยการออกคำสั่งให้ผู้ประกอบการรถร่วมบริการ บขส. ห้ามใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่จอดรถ ซึ่งหากฝ่าฝืน มอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) พิจารณาบทลงโทษปรับ และสั่งพักใบอนุญาตประกอบกิจการฯ รวมถึงยกเลิกสัมปทานการเดินรถด้วย
ขณะที่ วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า การรถไฟฯ เร่งบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการจัดระเบียบ แก้ไขปัญหาขยะบริเวณรอบสถานีขนส่งหมอชิต 2 ตามนโยบายของ รมว. โดยเบื้องต้น การรถไฟฯ จัดการทำความสะอาดและเก็บขยะบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา
สำหรับการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนนั้น การรถไฟฯ ดำเนินการตีเส้นขาวแดง พร้อมติดตั้งป้ายห้ามจอดรถ ป้ายห้ามทิ้งขยะตลอดเส้นทาง ตลอดจนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล กรมการขนส่งทางบก และบริษัท ขนส่ง จำกัด ให้มาช่วยจัดระเบียบ เพิ่มความเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด หากพบรถยนต์ลักลอบจอดในพื้นที่ห้ามจอด ให้ดำเนินการล็อกล้อทันที และมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ส่วนผู้ลักลอบทิ้งขยะในพื้นที่ จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน2,000 บาท ทั้งนี้ หลังจากจัดระเบียบจราจรเรียบร้อยแล้ว จะดำเนินการปรับปรุงผิวจราจรให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568
การรถไฟฯ ตระหนักถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของพี่น้องประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาการรถไฟฯ ได้ส่งมอบถนนกำแพงเพชรช่วง 1-4 ให้กับกรุงเทพมหานครดูแลไปแล้ว ตั้งแต่ปี 2542 สำหรับถนนกำแพงเพชร 5 จากสถานีสามเสนถึงด้านหลังอาคารกรมทางหลวง เตรียมส่งมอบพื้นที่เพื่อใช้สำหรับก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ส่วนถนนกำแพงเพชร 6 ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงรอบสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต 2) อยู่ระหว่างเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งมอบให้กับกรุงเทพมหานครเช่นกัน
ขณะที่ถนนกำแพงเพชร 7 ช่วงมักกะสันถึงสถานีหัวหมาก การรถไฟฯ ได้ยื่นเอกสารส่งมอบให้กรุงเทพมหานครไปแล้ว และอยู่ระหว่างประชุมหารือในคณะกรรมการรับมอบถนนกรุงเทพมหานคร ซึ่งประกอบด้วย สำนักการโยธา สำนักการจราจร สำนักการระบายน้ำ สำนักสิ่งแวดล้อม และสำนักงานเขตที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อตรวจรับมอบถนนจากการรถไฟฯ ให้กรุงเทพมหานครดูแลต่อไป.
กัลยา ยืนยง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝุ่นคลุ้ง ควันโขมง
ฤดูหนาว ฤดูฝุ่นเวียนมาอีกครั้ง โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่มักจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ โดยมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่นิ่ง ลมอ่อน และอุณหภูมิลดต่ำลง
เศรษฐกิจปี68เติบโตไม่ง่าย ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง
สำนักวิจัยหลากหลายสำนัก ฟันธงไปในทิศทางเดียวกันว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 นี้ยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน และการเติบโตที่เป็นไปได้มากที่สุดก็อยู่ระดับ 2.7-2.9% ซึ่งน้อยกว่าที่รัฐบาลมีการวางแผนเอาไว้ว่าจะผลักดันจีดีพีไทยปีนี้โตถึง 3%
ปี68สินเชื่อระบบแบงก์ไทยหืดจับ
ปี 2568 ยังเป็นอีกปีที่ต้องจับตากับทิศทางของเศรษฐกิจไทย เพราะยังมีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งบวกและลบ ที่จะเข้ามามีผลกับภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสถานการณ์กดดันจากปัญหาหนี้ครัวเรือน
แผนดัน ‘เกษตรครบวงจร’
อุตสาหกรรมเกษตร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย และที่ผ่านมาเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนไปได้ด้วยสินค้าเกษตร แต่ก็มีบางช่วงที่ติดขัดและไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ จากปัจจัยกระทบต่างๆ
เคาต์ดาวน์ปลอดภัยส่งท้ายปี
เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความหวัง โดยในปีนี้สถานที่จัดงาน Countdown ทั่วประเทศไทยหลายหน่วยงานได้เตรียมกิจกรรมไว้ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและสัมผัสความงดงาม
แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน
การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ