ปากกล้า...ขาสั่น

เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงไม่กี่เดือน หลายคนมองว่าถ้าจะไปไม่ไหว เพราะนายกรัฐมนตรีของเราทำสิ่งที่ผิดพลาดหลายครั้ง มีทั้งการทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม การทำสิ่งที่ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ และบางเรื่องก็เสี่ยงว่าจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย อันที่จริงแล้ว ถ้าหากนายใหญ่ คุณหนู และคนของพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าเสียงของประชาชนคือเสียงสวรรค์ พวกเขาก็น่าจะได้ยินเสียงของประชาชนที่บอกชัดเจนว่าคุณหนูไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นความรู้ ทักษะ ความสามารถ ประสบการณ์ บุคลิกภาพ และภาวะผู้นำ แต่ดูเหมือนว่านายใหญ่ก็อยากให้ลูกสาวสุดที่รักได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนายกรัฐมนตรีหญิง ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ และตัวคุณหนูเองก็ไม่ได้ประเมินประมาณตนเลยว่าตัวเองไม่เหมาะสม และ

เชื่อว่าด้วยบารมีพ่อ ถ้าหากเธอต้องการจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย พ่อเธอต้องทำให้เธอได้เป็น และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

พ่ออยากให้ลูกเป็น ลูกสาวอยากเป็น ข้าทาสบริวารมีหรือจะกล้าขัดใจ ส่วนพรรคร่วมก็ท่องคาถาหลักตั้งแต่เข้าร่วมรัฐบาล ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจะเอายังไง ก็ให้เป็นไปตามนั้น ไม่ทัก ไม่ท้วง ไม่คัด ไม่ค้าน ไม่หือ แสดงตนเป็นคนมีมารยาทแบบได้เหรียญทองไปตามๆ กัน เราไม่เชื่อหรอกนะว่านักการเมืองที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ จะมองไม่ออกว่าคุณหนูไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้นำฝ่ายบริหารของประเทศ แต่พวกเขาก็ยังยอมให้เป็นตามคาถาที่พวกเขาท่องไว้ นั่นคือ “การรักษามารยาทของการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล” พฤติกรรมของพวกเขาทำให้ FC ผู้ภักดีทั้งหลายผิดหวัง ท้อแท้ และสิ้นหวัง มองไม่เห็นว่าอนาคตของประเทศไทยจะดีขึ้นได้อย่างไร เพราะว่าเวลานี้ก็มีลูกน้องของพ่อจำนวนหนึ่ง ทำหน้าที่เป็นนายแบก นางแบก ทั้งอวย ทั้งช่วยแก้ต่างอย่างไม่มีความละอาย คนที่เขาดูอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่านายแบก นางแบกพวกนี้สอพลอตอแหล ภาพของการพินอบพิเทาเหมือนการเป็นขี้ข้าของบางคนนั้น ดูแล้วน่าสมเพชเวทนายิ่งนัก

อันที่จริง ในพรรคเพื่อไทยก็มีคนเก่ง มีความสามารถและมีประสบการณ์ในการบริหารบ้านเมืองพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ในเมื่อพรรคนี้มีลักษณะเป็นพรรคนายทุนที่ผู้คนต่างก็รู้กันอยู่ว่าใครเป็นเจ้าของ ที่เคยเปรียบเทียบพรรคของเขาว่าเป็นคอกที่เลี้ยงหมาไว้ คำพูดเช่นนี้แสดงให้เห็นความในใจว่าเจ้าของพรรคมองคนในพรรคอย่างไร ดังนั้นจึงให้ลูกสาวมาเป็นหัวหน้าพรรค กระโดดข้ามหัวคนเก่งที่อยู่กับพรรคมานาน ทำงานให้พรรคในหลายตำแหน่ง และคนพวกนั้น ก็ต้องยอมรับสภาพ เมื่อเป็นหัวหน้าพรรคก็ได้เป็น Candidate นายกรัฐมนตรีที่ค้านสายตาประชาชนว่าคนที่มีคุณสมบัติอย่างลูกสาว จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศเชียวหรือ และแล้วสิ่งที่หลายคนวิตกกังวลว่าจะเกิดขึ้นเพราะบารมีของพ่อ ก็เกิดขึ้นจริง และสิ่งที่คนเชื่อว่าคุณหนูไม่เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนั้น ก็มีความจริงเชิงประจักษ์ให้เห็นรายวัน

เธอเป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำผิดทำพลาดมากที่สุด ถูกล้อเลียนเป็นเรื่องตลกขบขันมากที่สุด ความผิดพลาดของเธอหลายๆ เรื่องแสดงให้เห็นว่าเธอไม่มีความรู้เรื่องที่ควรรู้อยู่หลายเรื่อง เธอไม่มีทั้ง รู้ลึก รู้รอบ รู้ไกล ที่เป็นคุณสมบัติของคนเป็นผู้นำ แม้มีโพยให้อ่านจาก iPad เธอก็อ่านผิด เรื่องที่ควรทำ เธอไม่ได้ทำหลายเรื่อง เรื่องที่ไม่ควรทำ แต่เธอก็ทำอยู่บ่อยๆ แม้จะมีพรายกระซิบทำหน้าที่เป็น Wallpaper บอกบทให้เธอ แต่เธอก็ยังแสดงให้เห็นว่าสติปัญญาเธอเป็นเช่นไร หลายคนมองว่าการแสดงออกหลายๆ เรื่องของเธอนั้น ทำให้เธอแย่งมงกุฎจากหัวของอาที่มีฉายาอย่างที่รู้ๆ กันอยู่ ลองเขียนคำที่เป็นฉายาของเธอเพื่อค้นข้อมูลใน Google ชื่อของเธอ รูปของเธอก็จะปรากฏขึ้นมาทันที แต่บัดนี้เธอผู้ซึ่งครองมงกุฎมานานหลายปี สามารถพูดได้ชัดๆ ว่า “แย่กว่ากูอีก” และดูเหมือนว่าสถานการณ์เวลานี้ เธอแย่กว่าอาเธอจริงๆ ทั้งสติปัญญาและบุคลิก

เธอมีอดีตที่มีปัญหาด้านกฎหมายและด้านจริยธรรมหลายๆ เรื่อง จนทำให้มีคนร้องให้ถอดถอนเธอออกจากตำแหน่งมากกว่า 10 เรื่อง นายแบกบางคนก็ออกมาบอกว่าคนที่ร้องมีอคติ จ้องจับผิด เอาเรื่องหยุมหยิมมาร้อง ตัวคุณหนูเองก็ตอบโต้ว่าคนที่เอาคำพูดและการกระทำของเธอมาตำหนิหรือมาร้องเรียนนั้น เป็นคนไม่ติดตามข่าว เป็นคนมีอคติ

นอกเหนือจากคำร้องที่เกี่ยวกับตัวคุณหนูเองแล้ว บัดนี้มีคนยื่นคำร้องเอาผิดนายใหญ่และพรรคเพื่อไทย มีมากถึง 6 ประเด็น ทั้งเรื่อง

1.การเป็นนักโทษเทวดาชั้น 14 ของนายใหญ่

2.การสมคบคิดกับผู้นำต่างประเทศในการแบ่งปันผลประโยชน์บริเวณเกาะกูดซึ่งเป็นพื้นที่ของประเทศไทยมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แต่กลับมาอ้างว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน

3.ร่วมมือกับพรรคประชาชนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของนักการเมือง เป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อประเทศชาติหรือประชาชน

4.เรื่องครอบงำ ชี้นำการทำงานของพรรคเพื่อไทยในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีที่มีการหารือกันที่บ้านพักของนายใหญ่ ไม่ใช่ที่ทำการของพรรคเพื่อไทย

5.แต่งตั้งรัฐมนตรีที่มาจากพรรคพลังประชารัฐที่ไม่ได้นำเสนอโดยคณะกรรมการบริหารพรรค

6.ชี้นำนโยบายของพรรคเพื่อไทย โดยดูได้จากเนื้อหาของการแสดงวิสัยทัศน์ประเทศไทยของนายใหญ่ กับการแถลงนโยบายของรัฐบาลในสภา

หลังจากมีการยื่นคำร้องนี้ คนของพรรคเพื่อไทยบางคนก็ออกมาพูดว่าเลอะเทอะ ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง แต่นักกฎหมายและนักการเมืองหลายคนมองว่าการพูดแบบนั้นเป็นอาการของคนปากกล้าขาสั่น เพราะทั้ง 6 ข้อนั้นมีมูลน่าจะเอาผิดผู้ถูกร้องได้ทั้ง 6 ข้อ ถ้าหากจะดูเบาอยู่บ้างก็น่าจะเป็นข้อที่ 5 เท่านั้น ดังนั้นเวลานี้นายใหญ่จึงเก็บเนื้อเก็บตัว สงบปากสงบคำ เพราะถ้าหากพูดมากไป ทำอะไรมากไป อาจจะเผลอทำให้คำร้องทั้งเรื่องของคุณหนู เรื่องของนายใหญ่ เรื่องของพรรคเพื่อไทยมีน้ำหนักที่จะเอาผิดผู้ถูกร้องได้

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว คุณพ่อและคุณหนูคิดอ่านยังไงคะ จะอยู่ต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ ใครจะด่าจะว่ายังไง ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ต่างคนต่างอยู่ เมื่อไม่ชอบก็ไม่ต้องติดตาม จะเอาแบบนั้น ไม่ได้หรอกนะ นี่ไม่ใช่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ถ้าหากไม่ชอบกันก็เลิกคบกันไป การไม่มีใครสักคนเป็นเพื่อน เป็นนาย เป็นลูกน้อง เป็นแฟน มันไม่ตายหรอก แต่ถ้าเป็นเรื่องบ้านเมืองจะมาพูดว่าต่างคนต่างอยู่ ไม่ชอบก็ไม่ต้องติดตามไม่ได้ เพราะการกระทำของคุณที่เป็นบทบาททางการบริหารประเทศนั้น มันมีผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และความเจริญก้าวหน้าของประเทศ จะดันทุรังถูลู่ถูกังไปแบบนี้ไม่ได้นะ ที่ผ่านมาแสดงถึงความเป็นคนที่ไม่คู่ควรกับตำแหน่งหลายเรื่องแล้ว แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ไม่รู้ว่าไม่มีใครเตือนใครติว หรือว่าเตือนแล้วไม่ฟัง หรือไม่ยอมให้ติว หรือว่าติวแล้ว แต่เธอไม่มีความสามารถที่จะเรียนรู้ จึงได้ทำผิดซ้ำซากอย่างต่อเนื่อง พอมีคนร้อง คนในพรรคก็ต้องออกมาพูดตำหนิคนร้องเหล่านั้นว่าเลอะเทอะ หยุมหยิม อคติ เป็นการพูดจาแบบปากกล้าขาสั่น มันชัดมากเลยนะนายแบก นางแบก พรายกระซิบทั้งหลาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์รวมจิตใจในยาม 'วิกฤต'

มันน่าจะใกล้ถึง จุดระเบิด เต็มที!!!...สำหรับความเป็นไปของโลกทุกวันนี้ ไม่ว่าจะดูจากแนวรบยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง หรือแม้แต่ทะเลจีนใต้ก็ตามที แต่สำหรับ บ้านเรา

'การเมือง' แก้ด้วย 'การเมือง'

สง่างาม...พิธีกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ สวนสนามเนื่องในวันตำรวจ 2567 ณ บริเวณลานศรียานนท์ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปีแรกที่ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

มองเห็นความผิด...โดยไม่คิดจะจ้อง

ในเวลานี้ สิ่งหนึ่งที่ผู้คนทั้งหลายมองเห็นเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธารก็คือ เธอทำผิดทำพลาดหลายครั้งหลายครา และมีผู้คนทำเป็น meme

คำถาม-คำตอบสำหรับ 'คนเดือนตุลา.'

6 ตุลา. 2519 นั้น...ผ่านมาแล้วตั้ง 48 ปี ยิ่ง 14 ตุลา. 2516 ด้วยแล้ว ยิ่งปาเข้าไปถึง 51 ปี ด้วยเหตุนี้...ถ้าใคร??? ที่ยังสามารถ ดำรง รักษา ความโกรธ ความเกลียด

ปรับโหมดแต่งตั้ง ตร.

พอเสร็จสิ้นการแต่งตั้ง "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" หรือ "ผบ.ตร." คนใหม่ ตามที่วงประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ตีตราประทับรับรอง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์