ประเด็น "ดิไอคอนกรุ๊ป" ที่กำลังร้อนฉ่าอยู่ขณะนี้ ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก สูญเสียเงินหลายร้อยล้านบาท แล้วเกิดการสงสัยว่า “เป็นการขายตรงหรือฉ้อโกง” กันแน่
ล่าสุด “นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ขายตรงหรือฉ้อโกง?” เพื่อไขความกระจ่างว่า ...เพื่อนฝูงในแวดวงกฎหมายผู้ไม่ประสงค์เปิดเผยตน เห็นว่าผมแสดงความเห็นเรื่องธุรกิจขายตรงที่เป็นข่าวโด่งดังอยู่ในขณะนี้อยู่บ้าง
ท่านก็ส่งคำอธิบายตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกามาให้ดู เพื่อให้ผมได้เขียนเป็นภาษาง่ายๆ ให้ความรู้แก่ประชาชน ว่าการขายสินค้าโดยให้สมัครเป็นสมาชิก และ ให้สมาชิกซื้อสินค้าจะเป็นการฉ้อโกงหรือไม่
หลักคือ ให้ดูที่ “รายได้ที่แท้จริง“ ของผู้ประกอบการว่ามาจากอะไร โดยมีหลัก 3 ประการ ดังนี้
1.ถ้ารายได้ส่วนใหญ่มาจากการสมัครเป็นสมาชิก และให้หาสมาชิกไปเรื่อยๆ รายได้ส่วนใหญ่ไม่ได้มาจากการขายสินค้า อย่างนี้เป็นลักษณะของแชร์ลูกโซ่อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน
2.รายได้ส่วนใหญ่มาจากการสมัครสมาชิกและบังคับให้สมาชิกซื้อสินค้าจำนวนมากๆ แต่จริงๆ แล้วไม่สามารถขายสินค้านั้นได้ รายได้ที่เกิดเรียกว่า “รายได้หรือกำไรเทียม” อันเกิดจากการหลอกลวง อย่างนี้ก็มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ ผิดกฎหมาย
3.รายได้เกิดจากการขายสินค้าทั่วไปโดยไม่ได้มาจากการสมัครสมาชิก หรือการบังคับซื้อสินค้า อย่างนี้เป็นธุรกิจทั่วๆ ไปไม่ผิดกฎหมาย
ธุรกิจที่เป็นข่าวจะเป็นธุรกิจแบบไหนจึงต้องดูจาก “รายได้” ของบริษัทว่าเกิดจากอะไร เรื่องนี้มีแนวคำพิพากษาของศาลฎีกาอยู่หลายฎีกา เช่น ฎีกาที่ 2901/2547, 1172/2566 และ 326/2566 ผู้ที่สนใจสามารถไปอ่านรายละเอียดในคำพิพากษาศาลฎีกาเหล่านั้นได้
“ผมก็ไม่รู้ว่ากรณีที่เป็นข่าวโด่งดังในขณะนี้ เป็นการทำธุรกิจแบบไหน เพราะไม่ได้ติดตาม แต่หวังว่าผู้ที่สนใจและติดตามจะได้ประโยชน์บ้างตามสมควร จึงนำมาเขียนให้อ่านกัน” อดีตมือกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
หวังว่าหลักการเหล่านี้ จะทำให้สังคมตาสว่างว่า “ขายตรงหรือฉ้อโกง” ต่างกันอย่างไร.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อายุไม่ถึงไปนิดเดียว
ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.ทั่วประเทศ หลายสนามสู้กันดุเดือด มีการเมืองระดับชาติเข้าไปผสมโรง
“ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
เมื่อเร็วๆนี้ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (มท.1) ถือโอกาสพานายกฯอิ๊งค์“ “แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชมนิทรรศการและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่ทำเนียบรัฐบาล
หลอกแล้ว หลอกอีก หลอนต่อ
ควันหลงเวที “ทักษิณ ชินวัตร” เทวดาชั้น14 เดินทางไปจังหวัดอุดรธานี ที่บอกว่าไปช่วย “ศราวุธ เพชรพนมพร”ผู้สมัครนายกอบจ.อุดรฯ ของพรรค หาเสียงดูเหมือนเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง
“ต๋อม เวอร์ชันดุ”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีของเหล่าผู้ช่วยหาเสียง ดุเดือด แบบที่ไม่มีใครยอมใคร ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน และเมื่อวันที่ 16-17 พ.ย.ที่ผ่านมา พรรคประชาชน นำโดย “ชัยธวัช ตุลาธน” ผู้ช่วยหาเสียง ได้เดินหน้าจัดเต็มขึ้นเวทีปราศรัยกันอย่างดุเดือด
บันทึกหน้า 4
สมรภูมิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 24 พ.ย. ไม่เพียงแค่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนในสนามท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการหยั่งกระแสของทั้งสองฝ่ายในเวทีใหญ่ทางการเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะทัพแดงนั้นแพ้ไม่ได้
โชว์ลีลารำวง
เมื่อสวมหมวกหลายใบ ภารกิจของ “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็จะเยอะหน่อย ไม่ว่าจะในฐานะสส. ที่ขาดไม่ได้ต้องร่วมทุกกิจกรรมในพื้นที่ ทั้งงานกฐิน