ปรับโหมดแต่งตั้ง ตร.

ปีนี้ "สีกากี" ระดับ "นายพล" มีเก้าอี้ว่าง 140 ตำแหน่ง แบ่งเป็น รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ 4 เก้าอี้ ผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 เก้าอี้, ผู้บัญชาการ (ผบช.) 14 เก้าอี้, รองผู้บัญชาการ (รอง ผบช.) 41 เก้าอี้ และผู้บังคับการ (ผบก.) 74 เก้าอี้ รวมโยกระนาบสลับกันไปมาแต่ละตำแหน่งก็น่าจะปาเข้าไป 200 เก้าอี้ ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2567 ให้พิจารณาจากผู้มีความรู้ความสามารถจากบัญชีรายชื่อผู้อยู่ในเกณฑ์ที่สมควรได้รับการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ระดับ รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ลงมาถึง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส (100%)

ส่วนระดับ ผบช.ลงมาถึง ผบก.พิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโสจำนวนไม่น้อยกว่า 50% ส่องสปอตไลต์ไปที่เก้าอี้ รอง ผบ.ตร.และจเรตำรวจแห่งชาติ ว่าง 4 เก้าอี้ เลื่อนตามอาวุโสจะมี "พล.ต.อ." ป้ายแดง ประกอบด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ไล่ตามลำดับมายังไม่ถึง พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่อยู่ลำดับ 5 เว้นจะมี "รอง ผบ.ตร." โบกมือออกจากรั้ว "ปทุมวัน" ไปเติบโตที่อื่น เหมือนที่มีกระแสลือก่อนหน้า อันนั้นค่อยถึงคิว "บิ๊กราญ" นรต.50 ๐

ย้อนกลับไปเช็กบัญชีแต่งตั้ง "นายพล" ระดับ รอง ผบช.ขึ้น ผบช. วาระปี 2566 ยุค บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร.ส่งโผเข้าวงประชุม ก.ตร. ซึ่งเป็นชุดเดียวกับในปีนี้ ดูเหมือน ก.ตร.จะยึดหลักอาวุโสเป็นสำคัญ  ตามด้วยความรู้ ความสามารถ แม้จะแบ่ง 50% ให้อาวุโสขยับติดยศ พล.ต.ท.นั่งเก้าอี้ ผบช.แล้ว กลุ่มอาวุโสรองลงมาจากเกณฑ์ 50% ก็ได้ขยับขึ้นหลายตำแหน่ง หลายเก้าอี้ ทำให้ปีนี้ พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม  รอง ผบช.สกพ. อาวุโสลำดับ 8, พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ศ. อาวุโสลำดับ 9, พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 อาวุโสลำดับ 10, พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบช.ก. อาวุโสลำดับ 11, พล.ต.ต.นิตินัย หลังยาหน่าย รอง ผบช.ภ.9 อาวุโสลำดับ 12 ก็มีลุ้น มีภาษี เพราะอย่างน้อยก็ได้คะแนนอาวุโสในใจ ก.ตร.ไปแล้วบางส่วน ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความรู้ ความสามารถ หากเป็นที่ประจักษ์ รับรองได้นั่งเก้าอี้ ผบช. ติดยศ พล.ต.ท.กันทั่วหน้าแน่นอน ๐

ศุกร์สุดสัปดาห์ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 8/2567 เป็นการประชุมร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพ ที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ 2 คนคือ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. และ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. เรื่องสำคัญที่พิจารณาคือ แนวทางแก้ระเบียบกระทรวงกลาโหมเพื่อคุ้มครอง "ทหารเกณฑ์" เนื่องจากยังมีข่าวใหญ่เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงต่อเนื่อง ความเอาจริงเอาจังของ “รมต.อ้วน” คือการให้พิจารณาขอบข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ซ้อมทรมาน โดยจะพ่วงกับ กม.อาญาปกติ  และเอาผิดถึงขั้นผู้มีส่วนรู้เห็นแต่ไม่แจ้ง ตั้งโจทย์ไว้ว่าผู้ใดเห็นต้องห้ามปรามยับยั้ง พร้อมแจ้งผู้บังคับบัญชาให้รับทราบด้วย โดยจะมีการเรียกประชุม ผบ.เหล่าทัพเพื่อหารือในการแก้ไขระเบียบเร็วๆ นี้เป็นการเฉพาะ เพื่อให้ทันกับช่วงเวลาที่กองทัพกำลังเริ่มประชาสัมพันธ์ทหารสมัครใจผ่านทางออนไลน์ จะได้ลดเงื่อนไข ความกังวล ที่จะมีต่อทั้งผู้สมัครใจและครอบครัว ๐

อีกเรื่องที่มีการหารือคือ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก  และมีแนวโน้มเกิดขึ้นได้อีกหากมีฝนตกปริมาณมาก ประเด็นปัญหาเกี่ยวโยงกับสภาพพื้นที่ และการดำเนินการแก้ไขที่ต้องใช้ความร่วมมือระหว่างสองชาติคือ ไทยกับเมียนมา โดยเฉพาะการขุดลอกคูคลองให้กว้างและลึกขึ้น การขยับพื้นที่สิ่งปลูกสร้างของทั่งสองฝั่งแม่น้ำออกไป ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นอ่อนไหวอย่างเรื่องเขตแดนอยู่พอสมควร แต่ถ้าหากไม่ทำอะไรเลย ปัญหาก็จะหมักหมม สะสม ทำให้สถานการณ์หนักขึ้นทุกปี ในเบื้องต้น พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด รับไปประสานกับทางการเมียนมาในเวทีการประชุม HLC ที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ โต๊ะพูดคุยแบบ "ทหาร-ทหาร" เป็นช่องทางที่ยังใช้ได้กับเพื่อนบ้านฝั่งตะวันตก ๐

ประชุมสภากลาโหมจบ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผบ.ทอ. นำรายละเอียดโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ทดแทนฝูงใหม่เข้าชี้แจง รมว.กลาโหม ว่าได้ดำเนินการไปถึงไหน มีเหตุผลและขั้นตอนอย่างไร โดยเฉพาะการตั้งคณะกรรมการพิจารณาถึง 3 ชุด เพื่อเจรจาให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด ก่อนจะเคาะแบบเป็น Gripen E/F ของสวีเดน โดยงบประมาณได้ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภามาแล้ว ตอนนี้เป็นการเก็บรายละเอียดในเรื่อง Offset Policy ตามเอกสารที่เสนอมา พร้อมแจกแจงเหตุผลไม่เลือก F-16 ที่บริษัท ล็อกฮีด มาร์ติน เสนอมา เนื่องจากข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณ และการเปรียบเทียบข้อเสนอของทั้ง 2 ค่ายอย่างละเอียดแล้วพบว่า ค่ายสวีเดนให้อิสระในเรื่องการใช้เทคโนโลยีและการต่อยอดเรื่ององค์ความรู้ต่างๆ ได้ดีกว่า โดยในวันที่ 16 ต.ค.นี้ “โรเบิร์ต โกเดค" เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย มีกำหนดเข้าพบแสดงความยินดีกับ “ภูมิธรรม” ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม ข้อมูลเหล่านี้ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องรับทราบไว้เพื่อเป็นแนวทางก่อนเหมือนกัน ๐

ขอแสดงความเสียใจกับญาติของ พลทหาร อนุวัฒน์ เหมรา (สังกัดกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธิน ปฏิบัติราชการสนาม หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ) ที่เสียชีวิตหลังจากรักษาอาการบาดเจ็บ จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณบ้านพักนายอำเภอตากใบ ม.3 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2567 โดยเหตุการณ์วันนั้นมีเจ้าหน้าที่ทหารเรือจากหน่วยดังกล่าวได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด 2 ราย ล่าสุด พลฯ อนุวัฒน์ เหมรา อายุ 22 ปี ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2567 และพลฯ กันตยศ บินหรีม อายุ 22 ปี กำลังรักษาตัวที่ รพ.สงขลานครินทร์ โดยมีพิธีฝังศพทางศาสนา พลฯ อนุวัฒน์ เหมรา  ในวันที่ 12 ต.ค. 2567 ที่มัสยิดตะโละใส ม.4 ต.ปากน้ำ  อ.ละงู จ.สตูล.