เลิกถอดบทเรียน

รู้สึกช็อกครับ!

ผู้คนคงสะเทือนใจกันทั้งประเทศ จากเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน หน้าเซียร์รังสิต ถนนวิภาวดีฯ หน้าอนุสรณ์สถาน

ครูและเด็กนักเรียนเสียชีวิต ๒๓ ราย

เห็นข่าวนายกฯ แพทองธารน้ำตาคลอ ก็เข้าใจได้ครับ ในฐานะคนเป็นแม่ย่อมสามารถรับรู้ความเศร้าโศกสูญเสียได้ลึกซึ้งกว่าใครๆ

เพราะเด็กๆ ที่เสียชีวิตหลายคนเพิ่งจะอยู่ชั้นอนุบาล

ฉะนั้นในฐานะผู้นำประเทศและในฐานะแม่ นายกฯ แพทองธารต้องจบกรณีเช่นนี้ให้ได้

ครั้งนี้อย่าให้ได้ยินคำว่า "ถอดบทเรียน" อีกเด็ดขาด      ใครพูดต้องตบปาก

เพราะเรามีบทเรียนมาเยอะแล้ว

ซ้ำซากเกินไป

มันถึงเวลาต้องปฏิบัติ

กรณีนี้สะท้อนครับว่า ประเทศไทยยังมีความล้าหลังเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างมาก

ที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มีผู้คนเสียชีวิตครั้งละจำนวนมาก มามากเกินไปแล้ว จนเลยเวลาที่จะมาพูดถึงสาเหตุว่าสืบเนื่องมาจากอะไร

ครั้งนี้ก็เช่นกัน

เริ่มจากยางล้อหน้ารถโดยสารแตก ส่งผลให้ ๒๓ ชีวิต ต้องจากไป

เป็นเหตุที่ยากจะยอมรับได้

คู่มือปฏิบัติมีอยู่แล้ว เคยทำตามกันบ้างหรือเปล่า

การเอาชีวิตรอดจากเหตุไฟไหม้ รถมีคู่มือปฏิบัติและกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้ว ว่าต้องทำอย่างไร รถโดยสารต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลืออะไรบ้าง            

ปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุรถโดยสาร เกิดจากอะไรได้บ้าง มีการจำแนกละเอียดยิบ

โดยเฉพาะกรณีสภาพรถโดยสารที่เก่า ชำรุดทรุดโทรม

ดอกยางโล้นเลี่ยน

ติดที่นั่งเสริม

ไม่มีเข็มขัดนิรภัย

ดัดแปลงสภาพรถโดยสาร

รถผี รถผิดกฎหมาย

ทำไมรถพวกนี้ถึงยังวิ่งกันเกลื่อนถนนประเทศไทย

นายกฯ แพทองธาร ต้องสร้างบรรทัดฐานด้านความปลอดภัยบนท้องถนนขึ้นมาให้ได้ เพื่อไม่ให้ลูกของใครอีกหลายคนต้องมาสังเวยกับความชุ่ย ของคนบางคนบางกลุ่มที่ไม่เคารพกฎเกณฑ์ พวกไม่สนใจความปลอดภัยของผู้อื่น

กฎหมายมันมีอยู่แล้ว กำหนดไว้แล้วว่า ก่อนที่จะนำรถโดยสารสาธารณะออกมาให้บริการนั้น ต้องตรวจสอบอะไรบ้าง

ถ้าทำตามคู่มือ มันยากที่จะเกิดการสูญเสีย

แต่ลองไปถามหาคู่มือสิครับ หันซ้ายหันขวาไม่เคยเห็น ไม่เคยรับรู้กันแทบทั้งนั้น

เรามีบทเรียนเยอะมาก พอๆ กับการที่ผู้มีอำนาจในสภาฯ เดินทางไปดูงานต่างประเทศ ได้งานมาเป็นรูปเล่มเหมือนกัน แต่แทบไม่เคยหยิบมาใช้ประโยชน์

กรณีรถโดยสารคันเกิดเหตุยางแตก จะต้องมีการตรวจสอบให้ชัดเจน หากแตกเพราะสภาพทรุดโทรม จะต้องลงโทษคนขับ และบริษัทเจ้าของรถให้หนัก

สร้างบรรทัดฐานขึ้นมาให้เห็นว่าหากไม่ปฏิบัติตามคู่มือแล้วเกิดความเสียหายและสูญเสียนั้น คนขับรถ บริษัทเจ้าของรถ ไม่ได้ไปต่อ

ทำเรื่องแบบนี้กันได้มั้ยครับ

ที่จริงไม่มีเวลาคิดด้วยซ้ำ นอกจากต้องลงมือทำทันที

ในโซเชียลเขาสรุปให้เห็นภาพกันเป็นฉากๆ ให้เห็นว่ามันไม่ควรเกิดเหตุสูญเสียมากมายถึงขนาดนี้ขึ้น หากทำตามกฎหมาย

สรุปข้อมูล ณ เวลานี้ รถทัวร์คันที่เกิดเหตุเป็นรถ isuzu ดัดแปลง

ตัวรถมีประตูเข้าออกทั้งหมดสี่ประตู ตอนที่เกิดเหตุประตูด้านหน้ารถเปิดได้ ทำให้ครูและนักเรียนบางส่วนหลบหนีออกมาได้ทัน

แต่จุดที่เป็นปัญหาคือทางออกฉุกเฉินด้านหลังรถซึ่งตรงนี้ปิด ไม่สามารถเปิดได้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตตรงจุดนี้เป็นจำนวนมาก

มีพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่าขับรถมาคู่กัน พอเกิดเหตุ เขารีบจอดรถ โบกรถเมล์ที่ผ่านมาให้หยุด เอาถังดับเพลิงจากรถเมล์ไปช่วยดับเพลิง

แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จนไฟคลอกพลเมืองดี เขาเลยต้องหนีออกมา

เมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้วมันเห็นข้อบกพร่องจากการละเลยมากมาย

ก็เหมือนกัน

อีกหน่อยมีเหตุเรือล่ม เพราะบรรทุกน้ำหนักเกิน

รถชนคนเดินข้ามทางม้าลายเสียชีวิต

อย่าถามหาบทเรียนนะครับ

ถึงเวลาต้องลงโทษ เพราะไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

เรายังขาดอย่างมากครับกับการวางระบบให้ทันสมัยขึ้น และการปฏิบัติตามคู่มือ

ภาคเหนือภาคอีสาน เพิ่งจะผ่านน้ำท่วมหนักสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินไปจำนวนมาก มันก็ปัญหาเดิมๆ คือเกิดเหตุแล้วเอาตัวรอดไม่ทัน                 

เพราะระบบเตือนภัยที่ไร้ประสิทธิภาพ เข้าไม่ถึงประชาชน

ทุกวันนี้หากจะมีน้ำท่วมใหญ่ มิดหลังคาบ้าน ยังไม่รู้เลยครับว่าใครจะเตือน

เตือนในช่องทางไหน

มันวนแบบนี้มากี่สิบปีแล้ว ก็ยังคงวนกันต่อไป

วานนี้ (๑ ตุลาคม) เห็นเพจไทยคู่ฟ้า ของทำเนียบรัฐบาลโพสต์เตือนว่า

ด่วน!!! ประกาศเตือนภัย ระดับ ๓

ใน ๓ อำเภอ จ.เชียงราย

เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน

เตรียมพร้อมอพยพ

ตกลงจะให้ใครเตือน

ใครเป็นเจ้าภาพหลัก ที่ประชาชนรู้ว่าถ้าเป็นเรื่องภัยพิบัติ ฝนตก น้ำท่วม ดินถล่ม แผ่นดินไหว ให้ฟังเฉพาะหน่วยงานนั้นหน่วยงานเดียวเท่านั้น

มันจะได้โฟกัสกันถูก

ไม่ใช่เตือนแบบช่วยๆ กัน บางเวลาไม่อยากเตือนก็ไม่เตือน แบบนี้มันไม่ใช่

ไม่มีวัวให้หายแล้วครับ ฉะนั้นอย่าคิดแก้ปัญหาด้วยการล้อมคอก

ประเทศไทยยังต้องสร้างอะไรอีกมากครับ และหนึ่งในนั้นคือพลเมืองที่มีคุณภาพ

รู้จักรับผิดชอบตามกฎหมาย และส่วนรวม

ไม่เช่นนั้นจะมีชีวิตผู้อื่นเป็นเดิมพันอยู่ร่ำไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไม่แก้ รธน.จะตายมั้ย

อยากรู้จริงๆ ถ้าพักการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้สัก ๑๐ ปี หมายถึงนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงปี ๒๕๗๗ หากนักการเมืองไม่พูดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเลย ประเทศไทยจะฉิบหายหรือเปล่า

ปิดสวิตช์ '๓ ท.'

เรื่องโพลฟังหูไว้หู เพราะมันคือการสำรวจความคิดเห็น ยังไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง

อย่าใช้ปากคิดแทนสมอง

จบข่าวครับ... เป็นอันว่าไม่มีพรรคการเมืองไหนเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เลวลง อย่างน้อยก็ช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่ระยะยาวรัฐธรรมนูญที่ขวางทางนักการเมืองแบบนี้เขาไม่เอาไว้หรอกครับ

บ้านพิษส่องหล้า

นานๆ ทีถึงจะได้เปิดใช้ บ้านพิษณุโลกครับ วานนี้ (๒๖ กันยายน) "มาดามแพ" นำทีมที่ปรึกษา ๕ อรหันต์ทองคำ เปิดบ้านพิษณุโลก ประชุมเรื่องการบ้านการเมือง

'พรรคส้ม' พี่เก๋าหรอ

หันหัวเรือกลับเรียบร้อย... พรรคเพื่อไทยใส่เกียร์ถอย ไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เลวลงใน ๖ ประเด็นแล้ว

ไม่ใช่จุดยืน เป็นวิถีชีวิต

ไม่ง่ายเสียแล้วครับ... พรรคภูมิใจไทยประกาศจุดยืนสวนทางกับพรรคเพื่อไทยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นั่นหมายความว่าโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะบรรลุเป้าหมายต้องออกแรงเพิ่มอีกหลายเท่า