หลังแบงก์ชาติสหรัฐอเมริกา ลดดอกเบี้ย 0.5 ส่งผลให้ค่าเงินบาท กำลังแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และหลายสกุลเงิน เช่น เงินยูโร และเงินเยน เป็นต้น
ในเมืองไทยเรื่องดังกล่าวมาเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เมื่อ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯ ให้ความเห็นว่า “เงินบาทแข็งดีต่อการส่งออก”ก่อนขอไปตั้งหลักและกลับชี้แจงใหม่ว่า ผู้ทีได้ประโยชน์คือผู้นำเข้าสินค้า หรือคืนเงินตรา จากต่างประเทศ
ทีมงานคันปากฯ ใช้ข้อมูลของเพจ“ลงทุนแมน ”สรุปแล้ว “เงินบาทแข็งค่าขึ้น” ใครจะได้ประโยชน์ และใครเสียประโยชน์
ผู้ได้ประโยช์คือ ผู้นำเข้าสินค้าและบริการเพราะสินค้าและบริการที่นำเข้า มีราคาถูกลงเมื่อคิดเป็นเงินบาท ทำให้ผู้นำเข้าสามารถซื้อสินค้าได้ในปริมาณมากขึ้น (ด้วยเงินบาทเท่าเดิม) ,นักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เดินทางไปต่างประเทศการเดินทางไปต่างประเทศ จะถูกลง, ผู้มีหนี้สินในสกุลเงินตราต่างประเทศหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ,นักลงทุน ที่กำลังจะลงทุนในต่างประเทศ การลงทุนหรือซื้อทรัพย์สินในต่างประเทศ จะมีต้นทุนต่ำลง
ส่วนผู้ที่เสียประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า ผู้ส่งออกสินค้าและบริการ สินค้าและบริการส่งออก จะมีราคาแพงขึ้นในสายตาของผู้ซื้อในต่างประเทศ ทำให้อาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และยอดขายลดลง ,ผู้ประกอบธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจลดลง เพราะค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาประเทศไทยสูงขึ้น ,ผู้รับเงินจาก/ต่างประเทศ รายได้ที่เป็นเงินตราต่างประเทศจะลดลง
เมื่อเงินบาทแข็งค่า จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ทั้งในด้านบวกและลบ ในระยะสั้น อาจช่วยลดอัตราเงินเฟ้อ แต่ในระยะยาว อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออก และการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ส่วนตลาดหุ้นถ้าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อไป อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติ สนใจลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เพราะจะได้ผลตอบแทนเรื่องของค่าเงินด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้น
สรุปแล้ว เงินบาทแข็งค่า มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และมุมมองของแต่ละบุคคล และธุรกิจ
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อายุไม่ถึงไปนิดเดียว
ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือนายก อบจ.ทั่วประเทศ หลายสนามสู้กันดุเดือด มีการเมืองระดับชาติเข้าไปผสมโรง
“ผ้าไทยใส่ให้สนุก”
เมื่อเร็วๆนี้ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย (มท.1) ถือโอกาสพานายกฯอิ๊งค์“ “แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชมนิทรรศการและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ที่ทำเนียบรัฐบาล
หลอกแล้ว หลอกอีก หลอนต่อ
ควันหลงเวที “ทักษิณ ชินวัตร” เทวดาชั้น14 เดินทางไปจังหวัดอุดรธานี ที่บอกว่าไปช่วย “ศราวุธ เพชรพนมพร”ผู้สมัครนายกอบจ.อุดรฯ ของพรรค หาเสียงดูเหมือนเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง
“ต๋อม เวอร์ชันดุ”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีของเหล่าผู้ช่วยหาเสียง ดุเดือด แบบที่ไม่มีใครยอมใคร ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน และเมื่อวันที่ 16-17 พ.ย.ที่ผ่านมา พรรคประชาชน นำโดย “ชัยธวัช ตุลาธน” ผู้ช่วยหาเสียง ได้เดินหน้าจัดเต็มขึ้นเวทีปราศรัยกันอย่างดุเดือด
บันทึกหน้า 4
สมรภูมิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ในวันที่ 24 พ.ย. ไม่เพียงแค่ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนในสนามท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการหยั่งกระแสของทั้งสองฝ่ายในเวทีใหญ่ทางการเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะทัพแดงนั้นแพ้ไม่ได้
โชว์ลีลารำวง
เมื่อสวมหมวกหลายใบ ภารกิจของ “สส.มุ่ง” อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ก็จะเยอะหน่อย ไม่ว่าจะในฐานะสส. ที่ขาดไม่ได้ต้องร่วมทุกกิจกรรมในพื้นที่ ทั้งงานกฐิน