ผู้จัดการดูแลเรื่องน้ำ

เมื่อวานนี้(24ก.ย.)ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ขอไม่ให้นักข่าวถามเรื่องแก้รัฐธรรมนูญในลักษณะยุแยงให้พรรคร่วมรัฐบาลผิดใจกัน ทีแรก “นายกอิ๊งค์” ก็อุตส่าห์ตอบเลี่ยงแล้วโยงไปประเด็นน้ำท่วมแทนแล้ว แต่ไม่วายกระจอกข่าวทำเนียบฯก็ยังดึงเข้าเรื่องเดิม

แต่เอาเถอะกรณีรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วม นายกฯก็พูดเข้าหูดี ว่ารัฐบาลของโฟกัสเรื่องน้ำท่วม ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญให้ว่ากันไปในสภาฯ ไม่ใช่ว่ารัฐธรรมนูญไม่เกี่ยวกับประชาชน แต่ตอนนี้ประเด็นที่ทำให้ประชาชนภาคเหนือ ภาคอีสานเดือดร้อนที่สุด ทุกข์ใจมาก คือน้ำท่วม

รัฐบาลก็มีหลายแนวทางเยียวยาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม แต่สิ่งหนึ่งที่ยังดูแอคชั่นน้อยไปหน่อย คือระบบเตือนภัยน้ำท่วม

เรื่องนี้ “ดร.เอ้”สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เสนอแนวทาง ให้รัฐตั้ง “ผู้จัดการดูแลเรื่องน้ำแบบเบ็ดเสร็จ” เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้านอุทกภัย

โดย พี่เอ้-สุชัชวีร์ บอกว่า เรื่องการเตือนภัยและเรื่องของการอพยพผู้คน เราน่าจะทําได้ดีกว่านี้ เห็นความทุ่มเทของหน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ที่ทํางานกันอย่างเต็มฝีมือแล้วก็ตาม ที่จริงแล้วหน่วยงานที่เกี่ยวกับน้ำมีอยู่มาก มีมากอย่างกระจัดกระจาย

มีหน่วยงานภายใต้สังกัด 5 กระทรวงดีๆ อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ที่ดูแลดาวเทียม สามารถพยากรณ์ได้ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ

อยากที่จะเรียน “ท่านนายกรัฐมนตรี” อันที่จริงแล้วเรื่องน้ำ ควรจะมี “ผู้จัดการแบบเบ็ดเสร็จ” หนึ่งคน อาจจะเป็นรองนายกรัฐมนตรีท่านหนึ่งท่านใดก็ได้ ที่ดูเรื่องนี้เต็มเวลา จะสามารถบูรณาการถอดบทเรียน และนํามาสู่การบังคับบัญชาแบบ เรียกว่า “Single command” ไม่เช่นนั้นแล้วเวลามีปัญหา ปัญหาแก้ไม่ทัน และจะหนักกว่าเดิมอีกด้วย

แต่ถ้ามี “ผู้จัดการดูแลเรื่องน้ำ” สักคนหนึ่ง ตนเชื่อว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และจะมีการบูรณาการเกิดขึ้นไม่มากก็น้อย เพราะ “อย่าลืม” โลกร้อนไม่มีวันน้อยลง ฝนตกไม่มีวันน้อยลง เรื่องวิกฤติน้ำท่วมมันจะมีแต่ทวีคูณมากขึ้น

ถ้าเกิดเราไม่ทำอะไร สุดท้ายแล้วอย่าว่าแค่ กรุงเทพเลย  ประเทศไทยเองโอกาสจมน้ำก็มีสูง.

มินนี่ เม้าธ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แจกสิทธิ์ 10 คนแรก

ต้องฝ่ากระแสร้อนแรงมาตั้งแต่ปลายปี 2567 สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทั้งกระแสพรรคแตก สส.ทยอยย้ายซบพรรคอื่น กระแสข่าวหัวหน้าพรรคถูกเขี่ยพ้นเก้าอี้รัฐมนตรี

ออร่าจับมาก

ในบรรดาเสนาบดีหน้าใหม่ หรือทายาททางการเมืองที่โดดเด่น นาทีนี้หลายคนยกให้ รมต.ดีดา-ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลูกสาวในไส้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย

“ไม่ต้องรอมติพรรค”

“ คนท้องถิ่น...คนศรีสะเกษ... “คนบ้านเดียวกัน” ถือสโลแกนหาเสียงของ “นายกฯส้มเกลี้ยง” วิชิต ไตรสรณกุล ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ ในนามกลุ่ม “คนท้องถิ่น” และยังเป็นคุณพ่อของ “เลขาฯกวาง” ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ทันเกมทักษิณ

โบราณว่า “ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน” จริงที่สุด ดูการเมืองเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน

“เดี๋ยวก็หายไปแล้ว”

ช่วงนี้คนกรุงเทพฯ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ อากาศตอนเช้าอุณหภูมิประมาณ 20 องศา ถือว่าเป็นอากาศเย็นสบายๆ

หัวหน้าแก๊งเด็ก

พร้อมลุยงานกันต่อในปี 2568 สำหรับทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ต้อนรับปีใหม่ด้วยการตีปี๊บข่าวสารด้านต่างๆของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม โดยเฉพาะ “รองฯโบ๊ต” อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากค่ายกล้าธรรม (กธ.) ที่ล่าสุดรีบแจ้งข่าวสารถึงเกษตรกรไทย