ไม่ได้เจอหน้าค่าตากันมานาน..
แต่ก็ได้รับรู้ข่าวคราวอยู่บ้างตามโซเชียล-เฟซบุ๊ก อย่างเช่นหลายวันก่อน คุณสืบ-บุญส่ง นาคภู่ ผู้กำกับ-นักแสดงฝีไม้ลายมือดีคนหนึ่งในวงการ
ก็ได้นั่งรำพึง-รำพันผ่านข้อความลงในเฟซบุ๊ก คล้ายเป็นการระบายความในใจ ซึ่งผมอ่านแล้วก็นึกอยากจะจับเข่าคุยด้วย
วันนี้จึงเลยใคร่ขออนุญาตท่านผู้อ่าน มาลองอ่านบทสนทนาระหว่างผมกับคุณสืบแบบไม่เห็นหน้าเห็นตากันเพลินๆ..
พลางแกล้มข่าวรัฐบาลเพื่อไทยจะรื้อ-แก้รัฐธรรมนูญสุดซอยภาค 2 ไปพร้อมกัน!
ผู้กำกับเริ่มต้น.. “หนัง.. ชะตากรรมเดียวกันทั้งโลก ไม่ดีจริง อยู่ยาก และต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ”..
ผม-“จริงด้วย นอกจากพัฒนาตัวเองแล้ว ยังต้องมีองค์ประกอบอื่นๆ อีกหลายอย่างถึงจะอยู่ได้”
“หนังไทย..วนอยู่ในอ่าง กฎหมายไทยล้าสมัย ไม่เข้าใจพลังของหนัง ทำให้หนังไทยไปไม่สุด สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ แรงๆ ไม่ได้ ต้องทำเกี่ยวกับเรื่องแนวรักใคร่ ชมนกชมไม้ไป”
ผม-“อันนี้แล้วแต่มุมมอง ที่หนังไทยวนอยู่ในอ่าง ไม่ได้เกี่ยวกับกฎหมายไทยล้าสมัย หรือไม่เข้าใจพลังหนัง หากแต่ที่คนทำหนังไปไม่สุด สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ แรงๆ ไม่ได้..
นั่นเพราะ หนึ่ง คนทำหนังต้องเอาเงินนายทุนมาทำ เขาจึงต้องหวังกำไร จะปล่อยให้ผู้กำกับทำหนังสนองตัณหาตัวเองคงไม่ได้
สอง คนเขียนบทมือไม่ถึง พล็อตเรื่องก็คิดกันไม่เป็น จึงวนเวียนอยู่กับหนังรักๆ ใคร่ๆ ผีๆ ไม่ได้เกี่ยวกับกฎหมายอะไรเลย..
ลองควักเงินตัวเองทำหนังสร้างสรรค์ใหม่ๆ แรงๆ ดูสิ ใครจะมาห้าม อย่างดีก็แค่ติดเรต 20+ ส่วน ‘ห้ามฉายในราชอาณาจักร’ นั้น ต้องแรงแบบสุดโต่งแล้ว”
“วงการหนังไทย..ต่างคนต่างอยู่ ตัวใครตัวมัน รวมตัวกันไม่ติด พวกใครพวกมัน ไม่รักกันจริง ไม่ช่วยกันจริงๆ”
ผม- “นี่จะมานั่งบ่นทำไม ในเมื่อวงการมันเป็นอย่างนี้ แต่เอ๊ะ เมื่อก่อนเขาก็รวมตัว สมัครสามัคคีกันดีนี่ เพิ่งมายุคสมัยนี้มั้งที่อยู่กันแบบตัวใครตัวมันน่ะ”
“คนดูไทย..89% ยังด้อยคุณภาพ ดูหนังแค่ความบันเทิงฉาบฉวย และชอบเอาหนังไปเปรียบเทียบหนังฝรั่ง โดยไม่เข้าใจเหตุปัจจัยเรื่องทุน อิสรภาพ และการส่งเสริม
11% เป็นคนดูหนังที่มีคุณภาพ แต่ก็ช่วยอะไรภาพรวมหนังไม่ได้”
ผม- “จะไม่ดูแคลนคน (ไทย) ดูหนังไปหน่อยหรือ และที่เขาเอาหนังไทยไปเปรียบหนังฝรั่งก็เพราะคนไทยไปคิดทำหนังแข่งกับฝรั่งไง คนดูน่ะเขาเข้าใจเหตุปัจจัย..
แต่เขาไม่เข้าใจ ทำไมพวกคุณไม่คิดพล็อตหนังให้เหนือกว่าฝรั่ง แต่ดันไปคิดทำซีจีแข่งฝรั่ง หนังมันก็เลยห่วยกว่าสิ อีกอย่างบทหนังมันไปไม่สุด”
“คนทำหนัง..มีหลายรุ่น รุ่นเก่า ยังนิยมแบบเดิมๆ หยุดพัฒนา รุ่นกลาง ส่วนใหญ่เป็นหมาล่าเนื้อ ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีวิตและเอาตัวรอด..
รุ่นใหม่ ไร้ราก ขาดโอกาส แต่มีความคิดสร้างสรรค์” ..ผม- “อืมม นี่เห็นด้วยเลย”
“โรงหนัง..ยังอ้างเรื่องทำธุรกิจ และไม่สนใจอะไรทั้งนั้น สนใจแค่กำไรอย่างเดียว” .. ผม- “ไปตำหนิเขาไม่ได้ เขาไม่ได้อ้าง เขาทำโรงหนังแบบธุรกิจจริงๆ ก็ต้องสนใจกำไรเป็นธรรมดา..
พวกคุณทำหนังดี-มีคุณภาพ ถูกใจตลาด คนดูชอบ เขาก็พร้อมจะเปิดโรงให้ไม่อั้น แต่ถ้าหนังมันห่วย คนไม่ดู เขาก็คงไม่บ้าเปิดโรงฉายให้เปลืองน้ำ-เปลืองไฟแน่”
“รัฐไทย..อนุรักษนิยม ล้าหลัง ไม่เข้าใจพลังของหนัง ไร้วิสัยทัศน์ ดูหนังไม่แตก ทำอะไรที่ดีกว่าเดิมไม่ได้ เพราะระบบการบริหารจัดการเป็นแบบแนวดิ่ง อำนาจนิยม”
ผม- “ทำหนังคนไม่ดู มันเกี่ยวอะไรกับอนุรักษนิยม ล้าหลังเล่า คนที่ไม่เข้าใจพลังของหนัง ไร้วิสัยทัศน์น่ะ มันคือคนที่ทำหนัง ลองทำอะไรที่ดีกว่าเดิมสิ ขี้คร้านที่คนจะแห่ดู”
“สตรีมมิง..มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ถือไพ่เหนือกว่าคนอื่น มี platform ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นตลอด แข่งขันกันสูง แต่ข้อเสียคือ มีแต่ของเหมือนๆ กันไปหมด ไม่มีความหลากหลายทางศิลปะ”
ผม- “นั่นมันธุรกิจของเขา ถ้ามีแต่ของเหมือนๆ กันสักวันมันก็เจ๊งเองแหละไม่ต้องไปห่วงเขาหรอก”
คุณบุญส่งทิ้งท้าย.. “ช่วยด้วย มีอะไรที่มากกว่า น้อยกว่า หรือผิดแผกจากนี้ไหม?” ผม- “ไม่มีอะไรมากหรือน้อยกว่า แต่ถ้าให้ช่วย ก็จะช่วยบอกว่า.. ช่วยตัวเองก็แล้วกัน”
จบ..บทสนทนาฉันมิตรครับ!.
สันต์ สะตอแมน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เผ่นได้เผ่นก่อน?
ใกล้จะ 70 แล้ว แต่ “พี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” ใบหน้ายังเต่งตึงใสไม่ต่างไปจากวัย 40-50 ปี ส่วนจะยังมีกำลัง-เรี่ยวแรง ร้อง-เต้นหน้าเวทีเหมือนสมัยรุ่นๆ หรือไม่?
นิราศเมืองสงขลา
นั่งเครื่องมาดูให้เห็นกับตา.. ก็..เมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา นั่นสิครับ หลังจากที่คนในและต่างพื้นที่ต่างอึดอัดคับข้องใจกับแผงขายสินค้า หลังคา กันสาดที่รกพะรุงพะรัง..
“ผีโม่แป้ง”..เป็นคำตอบ
Let It Be Take..ช่าง (แม่ง) มันเถอะ! เมื่อมันจะเอา และต้องเอาให้ได้ ก็เห็นจะไม่ใช่แค่ “ประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย” เป็นแน่..
ยกเลิก..“แบนหนัง”?
คุณนุชี่-อนุชา บุญยวรรธนะ.. อดีต.. “นายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย” ที่นั่งอยู่ในตำแหน่งถึง 2 สมัย (4 ปี) ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวไนน์เอ็นเตอร์เทนเมื่อหลายวันก่อนนู้น
ไม่ได้หนักหัวใคร!
นึกว่าจะเป็นแต่นายทักษิณ ชินวัตร-สทร... นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน ก็อีกคนที่ควรจะได้ตำแหน่ง “เสือกทุกเรื่อง” ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในเวลานี้!
ชีวิตอย่าได้มีสุข?
วันนี้-15 พฤศจิกายน..เพ็ญเดือนสิบสองน้ำนองเต็มตลิ่ง ถ้าเป็นแต่ก่อนก็จะได้ยิน.. “ลอย ลอยกระทง ลอยกระทงกันแล้ว ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง” ดังกระหึ่มล่วงหน้าเป็นสัปดาห์ๆ เพื่อเกริ่นให้รู้ว่า “เทศกาลลอยกระทง” กำลังจะมาถึง!