
ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net วันศุกร์นี้ได้ฤกษ์นับหนึ่ง โละ "จริยธรรมสุดซอย" เพื่อไทยยื่นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเป็นรายมาตรา จัดหนัก 6 ประเด็น ตามประสาพวกสันหลังหวะ หลัง "เศรษฐา ทวีสิน" โดนศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาพ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ กรณีแต่งตั้ง "ทนายถุงขนม" เป็นรัฐมนตรี เพราะฉะนั้น "พ่อแม้ว" ยอมไม่ได้ที่จะให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำรอยกับ "ลูกอิ๊งค์" แค่อยู่ในตำแหน่งเดือนกว่า ยังโดนร้องสารพัดเรื่อง งานนี้ไม่ต้องกั๊ก รื้อ รธน. ด้วยผลประโยชน์ตัวเองล้วนๆ โดยเฉพาะเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรี มาตรา 160 (4) ที่ระบุว่า มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ กลับแก้ไขเป็น “ไม่มีพฤติกรรมหรือการกระทำที่ประจักษ์ว่า ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต”
ที่สำคัญหมวดศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 211 ที่ระบุไว้ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ถือเสียงข้างมาก กลับแก้ไขให้ใช้เสียง 2 ใน 3 ของตุลาการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ รวมทั้งยังแก้ไขเรื่องคำวินิจฉัยผูกพันเฉพาะประเด็นหลักโดยตรงของเรื่องที่วินิจฉัยเท่านั้น จากเดิมมีผลผูกพันกับทุกองค์กร รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ประเด็นนี้ตอกย้ำชัด ต่อไปการจะสอย สส. สว. รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี ที่ทำผิด รธน. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญซึ่งมีอยู่ 9 คน ต้องมีมติอย่างน้อย 6 เสียง ถึงจะฟันได้ สงสัยเพื่อแม้วคงมั่นใจว่ามีตุนไว้ 4 เสียง หากเทียบจากเคสเศรษฐา เลยลำพองใจว่ารอดแน่
๐ มือกฎหมายรัฐบาลป้ายแดง ประเดิมงานใหญ่ตอบแทนคุณ "นายใหญ่" ทันที ก่อนหน้านี้มีชื่อ "ชูศักดิ์ ศิรินิล" ติดโผ ครม.ตลอด คราวนี้ได้นั่งรัฐมนตรีสมใจซะที เสียบแทน "ทนายตระกูลชินวัตร" ที่ไม่ผ่านมาตรฐานจริยธรรม "หลักคิดของเรา การที่จะเอาคนออกจากตำแหน่งควรจะต้องใช้เสียงพอสมควร เพราะถึงขั้นเอาคนออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และ สส. จึงควรเป็นเรื่องที่มีพยานหลักฐานพอสมควร ผมคิดว่าถือเป็นการสร้างความชอบธรรม ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องยุบพรรค" เจ้าตัวอ้างว่าการแก้มติศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องใช้ถึง 6 เสียง ในการถอดถอน เพื่อต้องการให้เกิดความยุติธรรมในระบบ พร้อมปฏิเสธพัลวันไม่ได้ทำเพื่อ "นายหญิงน้อย" ดูเส้นทางอุ้มนักการเมืองสีเทาน่าจะฉลุย ในเมื่อ 6 ประเด็นที่แก้ ก็เป็นเรื่องตำใจสร้างบาดแผลให้กับทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคประชาชน ซึ่งโดนยุบพรรคมา 2 รอบ งานนี้รัฐบาลกับฝ่ายค้านจูบปากกันชื่นมื่น ขณะที่สภาสูงอีก 200 เสียง ส่วนใหญ่ก็ สว.น้ำเงินทั้งนั้น ถ้านับหัว สส.ที่ถูกศาลเช็กบิล ภูมิใจไทยน่าจะโดนมากกว่าใครเพื่อน ถึงแม้ในวาระ 3 ต้องใช้เสียงโหวต 2 ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภา 700 คน หรือ 467 เสียง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปในยุคนี้
๐ ช่วงนี้ "เด็จพี่" ชยันโชว์ผลงานเอาใจนาย ตามจองเวร "ลุงป้อม" ในเมื่อหัวหน้าพลังประชารัฐ มีนักร้องคู่กาย "เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" เอาไว้ฟาดฟัน "นายกฯ อิ๊งค์" ก็ไม่แปลกที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมี "พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์" หันมาจับไมค์แทนเล่นละคร ล่าสุดเพิ่งร้องเรื่องลุงป้อมโดดประชุมสภา ใช่ว่า "ลุงป้อม" จะสน บินไปช่วยน้ำท่วมที่หนองคาย หอบถุงยังชีพ 3,000 ชุด แจกจ่ายผู้ประสบอุทกภัย หนำซ้ำประกาศจะกลับมาเป็นรัฐบาลครั้งหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชน การันตีด้วยผลงานตอนเป็นรองนายกฯ 9 ปี ไม่มีท่วม สัปดาห์หน้าต้องรอดูว่าลุงป้อมจะยอมเข้าประชุมสภามั้ย ในเมื่อ "ประธานวันนอร์" ส่งสัญญาณแล้ว ต้องพิจารณาตามข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งระบุไว้ว่า ขาดโดยไม่ลา หรือลาโดยไม่มีเหตุผลพอ ต้องเสนอให้พ้นจากสมาชิกภาพได้ พร้อมยกตัวอย่าง บางคนป่วยไม่สามารถมาประชุมได้ตลอดระยะเวลาสมัยประชุมนั้นก็มี เพราะต้องนอนอยู่โรงพยาบาล แต่บางคนนั่งรถเข็นเวลามีโหวตเรื่องสำคัญยังมาเลย... ว่ากันตรงๆ ลุงป้อมลุกให้เด็กๆ เข้าทำหน้าที่สภาแทน เรื่องก็จบแล้วล่ะ.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
บันทึกจันทร์สุดท้ายของปี 2568 อีกไม่กี่เพลาก็จะขึ้นศักราชใหม่ 2569 ...ประเทศไทยจะก้าวไปทางไหน?!?.. ก็ขอบันทึกสะกิดเตือน @ บรรทัดนี้เลยว่า ใจเย็นๆ ค่อยๆ พินิจพิจารณา ประมวลข้อมูล ทบทวน ไตร่ตรองให้ละเอียดรอบคอบแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่า เลือกตั้งใหม่ในเร็วๆ นี้ เราอยากได้ใครมาเป็น "ผู้นำ" พาชาติบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่เหมาะที่ควร!!
บันทึกหน้า 4
จาก "หนู" หนึ่งเดียว กลายเป็นสอง ก่อนหน้านี้ถามกันทุกวันถึง 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของภูมิใจไทย ในงานแถลงนโยบาย "พูดแล้วทำพลัส" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ชัดเจนว่า "อนุทิน ชาญวีรกูล" ฉายเดี่ยว โฆษกพรรคย้ำแล้วย้ำอีก
บันทึกหน้า 4
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงคุกรุ่นอยู่ต่อเนื่องอย่างไม่มีที่ท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ แม้วันที่ 24 ธ.ค.2568 จะเป็นวันแรกในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ในวาระพิเศษ
บันทึกหน้า 4
การสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา ไทยยังเหนือกว่าทุกด้าน สมรภูมิตามแนวชายแดน ทหารกล้าของเราบุกยึดพื้นที่คืนกลับมาเกือบเบ็ดเสร็จ ในเวทีสากล นานาชาติก็เข้าใจสถานการณ์ดี
บันทึกหน้า 4
บรรยากาศการเมืองไทยเวลานี้ ถ้าใครยังคิดว่าเป็นช่วงพักหายใจ บอกเลยคิดผิด เพราะสนามจริงของการเลือกตั้งปี 2569 เปิดเกมกันแล้วแบบไม่ต้องรอเสียงนกหวีด ใครมีของก็เริ่มโชว์ ใครยังตั้งหลักไม่ทันก็เริ่มเห็นทรงชัดขึ้นทุกวัน พรรคใหญ่ พรรคเล็ก ต่างขยับกันคึก แต่พรรคที่ถูกสปอตไลต์ส่องแรงสุด นาทีนี้หนีไม่พ้น “เพื่อไทย”
บันทึกหน้า 4
บันทึกในวันที่การเมืองเรื่องศึกเลือกตั้งใหญ่ 8 ก.พ.2569 คึกคักๆ ไม่มีการกั๊กกันอีกต่อไป ...0

