ครอบครัวธาตุน้ำ

ขอส่งกำลังใจไปยังผู้ประสบภัยชาว จ.เชียงราย, หนองคาย, อุบลราชธานี, มุกดาหาร และขอขอบคุณจิตอาสาประชาชนคนทั่วไป ทหาร และหน่วยงานภาครัฐ ที่จริงใจช่วยเหลือ

เหตุอุทกภัยเที่ยวนี้ ตอบคำถามด้อมส้มได้อย่างชัดเจนว่า มีทหารไว้ทำไม? ส่วนระดับบิ๊กทหารที่ชอบมีข่าว (คาว) ซิกแซ็ก Have เงินหลวง ก็ต้องจัดการให้สิ้นซาก เพื่อบำรุงกองทัพ บำรุงกำลังพลในทางที่ถูกที่ควร

ขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นการตอกย้ำถึงหน้าที่ของ สส. ที่จะต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขในทุกมิติ ในยามที่เจอเหตุไม่คาดฝัน ก็ต้องเห็นอกเห็นใจ มีน้ำใจ เพราะ สส.คือ “ผู้แทนราษฎร”

การลงพื้นที่เฉพาะวาระรับฟังปัญหา หรือลงพื้นที่เฉพาะไปหาเสียง เหมือนที่ “พรรคประชาชน” ทำ พยายามบ่ายเบี่ยงอ้างว่าติดเลือกตั้งเหมือนที่ผ่านมา หรือจะบอกว่าเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องดูแล คงไม่ควรเท่าไหร่

เพราะเรื่องนี้มองที่ “จิตสำนึก” เป็นหลัก อย่าโยนให้ใครหรือสิ่งใดๆ ก็ตาม

วนกลับมาที่ภาพรวม “รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร” ยังต้องจัดการโครงการดิจิทัลวอลเล็ต บางคนเรียกว่า “ทุกขลาภ” เพราะท้ายที่สุดประชาชนก็ยังเป็นหนี้อยู่ดี

นอกจากนี้ ยังคงต้องเดินหน้าบริหารสู้ภัยธรรมชาติที่ไม่อาจควบคุมได้ ซึ่งตอนนี้ในโลกโซเชียลก็ช่างเปรียบเปรย!! ตระกูลชินวัตร คือ “ครอบครัวธาตุน้ำ” ที่แท้จริง

ถ้ายังจำกันได้ สมัย “พ่อแม้ว” ทักษิณ ชินวัตร บริหารประเทศ ปี 47 เกิดสึนามิขึ้นเป็นครั้งแรกที่ฝั่งอันดามัน สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและสูญเสียชีวิต ทั้งคนไทยและคนต่างชาติจำนวนมาก เรียกว่าเป็นเหตุวิปโยค สร้างความหดหู่ใจให้คนทั้งประเทศ

ต่อมาปี 54 ช่วง “อาปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ เกิดน้ำท่วมใหญ่ครั้งสำคัญที่สุด มวลน้ำมหาศาลทะลักสู่ “กรุงเทพมหานคร” พื้นที่หัวใจแห่งการบริหารประเทศ เกิดวาทกรรมกับเหตุการณ์ครั้งนี้หลายคำ ทั้งนายกฯ ที่อ่านคำว่าคอนกรีต เป็น “คอ-นก-รีด” หรือคำพูดของนายกฯ ที่แสดงความมั่นใจว่า “เอา(น้องน้ำ)อยู่” แน่นอน  

กระทั่งมาถึงปีนี้ ถึงคิว “มาดามอิ๊งค์ แห่งตระกูลชินวัตร” ท่วมทั้งภาคเหนือและอีสาน แต่ยังโชคดีที่เหล่าข้าราชการและทีมเสนาบดีชุดนี้เคยมีประสบการณ์และบทเรียนเกี่ยวกับเรื่องน้ำมาพอสมควร

ทว่าจะนิ่งนอนใจไม่ได้ รัฐบาลต้องคอยติดตามและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างใกล้ชิดแบบห้ามกะพริบตา ทั้งน้ำตามธรรมชาติ พายุ น้ำในเขื่อน ต้องจัดสมดุลให้ดี.

มินนี่ เม้าธ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“นายกฯสายมู”

ช่วงนี้อะไรๆก็เริ่มที่จะเข้าที่เข้าทาง เพราะมรสุมช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าการเมืองของไทยดุเดือดมาก เพราะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนยาวมาถึงเดือนก.ย. เหล่าคนการเมืองก็ตัวรุมๆ เหมือนมีไข้ทุกวัน ต้องรอลุ้นว่าในแต่ละวันจะมีเรื่องอะไรบ้าง

โชว์ลูกคอ

คึกคักไม่หยุด ตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายของงาน “รวมไทยสร้างชาติแฟร์” ที่จัดขึ้นโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ นำโดย “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีแนวคิดจัดกิจกรรมดังกล่าว

มาวันเดียวหายเลย

แม้เป็นฝ่ายค้าน และแม้จะเหลือ สส.อยู่ในฝั่ง ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพียง 20 คน แต่ดูเหมือนอดีตพรรคใหญ่ในรัฐบาลชุดที่แล้วยังมีเรื่องป่วนๆ ไม่รู้สิ้น

หน.2 สิงห์สาว

กระทรวงมหาดไทยสมัยสอง ของ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย (มท.1 ) และ “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทย (มท.2 ) นอกจากจะเห็นความเข้มข้น ทุ่มเท เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนแล้ว

เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว

ชื่อชั้นในหมู่วุฒิสภา เอ่ยชื่อ “สมชาย แสวงการ” อดีตสว.หลายสมัย ไม่มีใครไม่รู้จัก เขาเป็น 1 ใน40 สว. ที่ต่อกรกับระบอบทักษิณตลอดมา และอยู่ในเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองมาเป็นสิบๆปี

“ครม.หญิง จอ สระอึ้ง”

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หากใครได้ติดตามข่าวการเมืองจะเห็นได้ว่าประเทศไทยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่อย่างเป็นทางการภายใต้การนำของ “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งในวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมานั้นครม.ชุดใหม่ ถ่ายภาพหมู่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ท่ามกลางแสงแดดช่วงสาย