ฝาก..“สหายใหญ่”

พรรคตัวเองไม่เคยสร้าง (วาทกรรม) รึอย่างไร?

ผมถามคุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมน่ะ เห็นวันก่อนได้ตอบโต้พรรคประชาชนที่อภิปรายและให้ฉายารัฐบาลแพทองธาร เป็น “รัฐบาล 3 นาย” ว่า..

“นายกฯ เรียกร้องว่าเราเป็นคนรุ่นใหม่ด้วยกันในสภา สามารถสร้างตัวเองเป็นแบบอย่างได้ ไม่อยากให้ใช้วาทกรรมที่เสียดสีด้อยค่าคนต่างๆ

ถ้าเราเป็นคนรุ่นใหม่ด้วยกันอยากให้สร้างการเมืองใหม่ ควรหลีกเลี่ยงวาทกรรม ทำร้ายหรือด้อยค่านโยบายต่างๆ ของรัฐบาล เพราะวันนี้ประเทศวิกฤตมาก

ดังนั้น แทนที่จะด้อยค่าควรกลับมาเสนอแนะอย่างจริงจังจริงใจ น่าจะดีกว่าการใช้สำนวนหยิบบางประเด็นมาโจมตีเยาะเย้ยถากถาง ซึ่งตนคิดว่าไม่เหมาะสม

ฝ่ายค้านควรรับเอาตรงนี้แล้วมาช่วยกัน สิ่งที่มีประโยชน์เราพร้อมปฏิบัติอยู่แล้ว เราไม่เคยแบ่งฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล ตนคิดว่าหากวิจารณ์ก็ต้องมีการเสนอแนะ

ไม่ใช่เยาะเย้ยถากถางแล้วปล่อยในโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน จึงอยากร้องในฐานะคนรุ่นใหม่ ให้ช่วยกันสร้างสิ่งดีๆ ให้คนรุ่นต่อไปดีกว่า”

ซึ่งย้อนไปยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน “วาทกรรมเสียดสีด้อยค่า” ที่คุณภูมิธรรมว่านี้ ก็มีให้ได้ยิน-ได้อ่านกันแทบไม่เว้นวัน!

นั่นหมายถึง สส.ของพรรคเพื่อไทยต่างได้คิดหา “วาทกรรม” มาเสียดสีด้อยค่า พล.อ.ประยุทธ์สารพัด และดูจะรุนแรง-หนักกว่าพรรคประชาชนหลายเท่า..

เนี่ย.. ไม่เชื่อลองถามอดีตผู้สมัคร สส.เพื่อไทย คุณอ๋อม-สกาวใจ พูลสวัสดิ์ ดูก็ได้!

และคนในซีกรัฐบาลลุงตู่ก็จะออกมาคอยดักคอ-คอยปรามฝ่ายค้านเหมือนคุณภูมิธรรมนี่แหละ แต่การสร้างวาทกรรมด้อยค่า-เสียดสี-เหน็บแนมก็มีอยู่ต่อไป

ก็เพราะพรรคตัวเองได้ทำเป็นตัวอย่างเอาไว้ ถึงคราวตัวเอง (เป็นรัฐบาล) เข้าบ้าง ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชน จะเอาตามอย่างก็ไม่เห็นต้องโวย!

แล้วเชื่อเหอะ พรรคประชาชนได้เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ คนที่ด้อยค่าเพื่อไทยวันนี้ ก็จะขอร้อง-บอกกับฝ่ายค้าน.. “ไม่อยากให้ใช้วาทกรรมที่เสียดสีด้อยค่า” อีกแหละ!

ฉะนั้น..คุณภูมิธรรมอย่าได้เสียเวลา-เสียสมาธิกับ “วาทกรรมเสียดสี” ไปเลย ต้องทำใจ.. “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง”!

จะว่าไป ฉายา “รัฐบาล 3 นาย” ที่หมายถึงนายใหญ่-นายทุน-นายหน้า ที่นายเท้ง (ไม่เถิดเทิง) ตั้งให้ก็หาใช่วาทกรรมเสียที่ไหน เพราะรู้เห็นกันอยู่เป็นปกติของการเมืองไทย

ให้พรรคประชาชนเป็นรัฐบาล “นายเท้ง” เป็นนายกฯ ก็หนีไม่พ้นรัฐบาล 3 นายนี้เหมือนกัน หรือนายเท้งจะเถียงพรรคตัวเองไม่มีนายทุน-นายใหญ่ก็ว่ามา!

อ้อ..แต่เรื่องนี้ใครจะว่า-จะมองอย่างไรก็ช่าง สำหรับผมเห็นต้องชื่นชมกองทัพไทยที่ยินยอม-ยินดีให้ “สหายใหญ่-ภูมิธรรม” เข้ามาเป็นผู้บังคับบัญชา..

นั่งเก้าอี้ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” อย่างสมหุ่น-สมภูมิ-สมเกียรติ!

ซึ่งเป็นการพิสูจน์-แสดงให้เห็นว่า..ทหารไม่ได้มีความอาฆาตแค้นใดๆ แม้จะต้องเจ็บ-ตายไปเป็นจำนวนมากจากการสู้รบกับคนในป่าครั้งอดีต!

ส่วนบรรดา “อดีตสหาย” ที่ยังมีลมหายใจกันอยู่ จะยังโกรธยังแค้นยังอาฆาตทหารอยู่หรือไม่นั้น ก็ลองใช้สายตา ใช้ใจของแต่ละท่านมอง-คิดเอาก็แล้วกัน?

หรือหากมองไม่เห็น จะด้วยอคติปิดบังตาหรือจะด้วยเหตุใด ก็อ่านนี่.. “สายคอม (มิวนิสต์) ที่อยู่ใกล้ตัวพี่ทักษิณทั้งหมดนิ มึงเลิกวางแผนได้แล้วนะ กูรู้มือกันอยู่มึงคิดอะไร..

สายคอมมิวนิสต์ทั้งนั้นแหละที่เกาะอยู่กับรัฐบาล (ทักษิณ) ..เห็นมันใส่แว่นหนาๆ เป็นหมอ มันวางระเบิดเป็นทุกคน”

ครับ.. “เสธแดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เคยพูดไว้ ก็ฝากคุณภูมิธรรม ที่นอกจากจะทำให้กองทัพเป็นกองทัพ อยู่กับพี่น้องประชาชนได้ ช่วยเหลือประชาชนในยามทุกข์ยาก

และสามารถพูดคุยกับทหารทุกเหล่าทัพได้แล้ว ช่วยประสาน ทำความเข้าใจกับเหล่าสหายที่เข้าป่ามาด้วยกัน ให้เลิกละวางอดีตลงเสียทีเถอะ..

แก่เป็นไม้ใกล้ฝั่งกันแล้ว จะอาฆาตแค้นไปจนดินกลบหน้ารึไง?.

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ฉลอง”..ผู้นำหนังบู๊สู่สากล

คนบันเทิงไปงานศพกันแทบไม่ได้พัก! จากศพ.. “เพลิน พรหมแดน” ศิลปินแห่งชาติ เจ้าของฉายา “ราชาเพลงพูด” มาศพ.. “ชรินทร์ นันทนาคร” ศิลปินแห่งชาติ นักร้องลูกกรุงผู้ยิ่งใหญ่..

พระแม่ธรณีต้องไม่โดดเดี่ยว

“มีสิ่งหนึ่งที่ผมตั้งใจไว้.. ไม่อยากพูดหรอก คิดไว้ในใจ คิดไว้อยู่ตลอดในฐานะเป็นหัวหน้าองค์กรว่า เคารพในผลโพล เคารพในความคิดเห็น แต่ผมจะหักปากกาโพลให้ดู”

ให้เขาบ่น-เขาด่าบ้าง

ห้วงนี้..คนวงการบันเทิงตกงานกันเพียบ! ดาราระดับพระเอก-นางเอกต้องหันมาขายของทางออนไลน์กันมากหน้า บ้างก็ประสบความสำเร็จร่ำรวย บ้างก็ยังล้มลุกคลุกคลาน หรือบ้างก็..

ครม.=ครอบครองหมด?

“ตั้งแต่เกิดมา ก็ไม่เคยมีคดี.. พอมาถึงจุดนี้มีคดี ก็จะพยายามรับมือให้ได้ดีที่สุด และความจริงไม่อยากมีคดี เพราะลูกยังเล็กอยู่เลย”

ผ่อนคลายก่อนลุย!

“แสงแห่งกันและกัน”.. นี่..เป็นคอนเซปต์ “งานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 32 ประจำปี 2556” ของสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ