เจอกับ สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ ที่มาพร้อมๆ กับ นารีขี่ม้าขาว รายใหม่...เล่นเอาบรรดาผู้คนในภาคเหนือของบ้านเรา น่าจะอ่วมอรทัยอยู่พอสมควรทีเดียว เท่าที่ดูจากภาพที่ถูกนำมาโพสต์ไว้ใน เฟซบุ๊ก ใครต่อใครเมื่อวัน-สองวันที่ผ่านมา ไม่ใช่แต่เฉพาะมนุษย์มนาต้องเดือดร้อนไปเป็นรายๆ เท่านั้น กระทั่งหมู หมา กา ไก่ สัตว์เลี้ยง สัตว์รัก ยังพลอยต้องเดือดร้อน ทรมาน ทรกรรม ตามไปด้วยอย่างแทบช่วยอะไรไม่ได้...
ทำไงได้ล่ะท่าน!!!...ในเมื่อความวิปริต ผิดเพี้ยน ของโลก ของดิน-ฟ้า-อากาศ มันกลายเป็น ข้อเท็จจริงอันมิอาจปฏิเสธได้ ยิ่งเข้าไปทุกที จะด้วยเหตุเพราะผู้คน
ไม่ได้ ตั้งมั่นอยู่ในธรรม เลยทำให้พระจันทร์ พระอาทิตย์ ดาวฤกษ์ กลางคืน-กลางวันและฤดูกาล เลยต้องผันผวน ปรวนแปร ดังที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านตรัสไว้ในคัมภีร์พระไตรปิฎก (ทุติยปัณณาสก์) หรือจะด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ๆ...ก็คือความผันผวน ปรวนแปร ของธรรมชาติ กับความวิปริต ผิดเพี้ยน ของผู้คน ดูๆ จะเป็นเรื่องที่ยากจะแยกออกจากกันได้ง่ายๆ เผลอๆ อาจกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกันไปแล้วก็ไม่แน่...
ด้วยเหตุนี้...บรรดาเราๆ-ทั่นๆ ทั้งหลายที่ยังคงมีชีวิตอยู่ หรือยังไม่ได้ โชคดี...ที่ตายก่อน ไปตามกำหนดการ เลยหนีไม่พ้นที่จะต้องตกอยู่ภายใต้ ความเสื่อม ไม่ว่าในทางสังคม หรือในทางธรรมชาติ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ โอกาสที่จะแสวงหา ความดี-ความจริง-และความงาม ตามมาตรฐานเดิมๆ ที่เคยยึดมั่น ถือมั่น กันเอาไว้ คงไม่ต่างอะไรไปจากการแสวงหา หนวดเต่า-เขากระต่าย นั่นแล หรือยากเอามากๆ ที่จะพานพบกับสิ่งที่ตัวเองหวังและต้องการ พบกับ โลกธรรม อันเป็นที่ถูกอก-ถูกใจของตัวเองได้ง่ายๆ...
ปัญหา จึงขึ้นอยู่กับว่า...จะยอม ปรับสภาพตนเอง เพื่อให้เกิดความสอดคล้อง กลมกลืน กับความเป็นไปของโลก ของธรรมชาติ หรือจะยังคงแข็งขืน หันมา ปรับจิต-ปรับใจของตนเอง ด้วย อุเบกขาธรรม จนพอที่จะเกิดความเข้าอก-เข้าใจต่อความเป็นไปของธรรมชาติ ว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง-มันเป็นพรรค์นั้นแหละ โดยที่การหันมา ปรับสภาพตนเอง นั้น คงไม่ถึงกับยากอะไรมากมาย เพียงแค่ยอมละทิ้งความสง่างาม ความยิ่งใหญ่ เกรียงไกร หรือบรรดาสิ่งที่เรียกว่า ศักดิ์ศรี ทั้งหลายลงไปมั่ง แบบที่บรรดา ไดโนเสาร์ ทั้งหลายค่อยๆ ปรับสภาพตัวเองจนกลายมาเป็น ตะกวด ไปเป็นตัวๆ รายๆ อะไรยอมได้...ยอม อะไรเลียได้...เลียร์ร์ร์ โดยไม่จำเป็นต้องสนใจว่า ขนติดปาก มาก-น้อยขนาดไหน? เพียงเท่านี้ก็น่าจะพออยู่ๆ กันไปได้ หรือเผลอๆ อาจขึ้นชั้นเป็นนักการเมือง เป็นรัฐมนตรีได้สบายๆ...
แต่ถ้าหากยัง ทำใจไม่ได้ ต่อการสูญเสียเกียรติยศและศักดิ์ศรี ก็คงต้องหันมาหา อุเบกขาธรรม เอาไว้นั่นแหละดี หันมาปรับจิต-ปรับใจของตนเอง ว่าสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามโลกธรรมที่ตัวเองต้องการ มันเป็นเรื่องของ ธรรมชาติแห่งการปรุงแต่ง ที่มีแต่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-และดับไป หมุนเวียนและเลื่อนไหลไปตาม วงรอบแห่งกาลเวลา แบบเดียวกับความมืด-ความสว่าง แบบเดียวกับกลางวัน-กลางคืน นั่นเอง การปรับจิต-ปรับใจจนสามารถ เข้าถึง-เข้าใจ ต่อความเป็นไปของธรรมชาติในลักษณะที่ว่านี้ จึงไม่น่าจะต่างอะไรกับสิ่งที่บรรดาพวกพระๆ ท่านเรียกว่า การปล่อยวาง อะไรประมาณนั้น คือไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปแบบเลย-ตามเลย หรือดังที่ท่านพระอาจารย์ ประยุทธ์ ปยุตฺโต ท่านว่าไว้นั่นแหละว่า หมายถึงการ เฉยมอง ไม่ใช่ เฉยเมย...
คือยังคงยึดมั่นอยู่ใน หลักการ แห่งความดี-ความจริง-ความถูกต้อง ความเป็นเหตุ-เป็นผลที่มีอยู่ในธรรมชาติ ยังพร้อมที่จะยืนหยัด ยืนยัน ตามแบบฉบับ ไม่เห็นแก่คน-แต่เห็นแก่ธรรม เพียงแต่อาจต้องพยายามมองข้ามไปจากบรรดาผู้ที่ตกอยู่ใน ความเสื่อม ทั้งหลาย ที่คงจะแก้ไข เยียวยา อะไรแทบไม่ได้ เพื่อให้เลยไปถึงบรรดาผู้ที่กำลังเดือดร้อน ทุกข์ยาก ลำบาก เพราะต่างต้องตะเกียกตะกายหนีน้ำ หนีไปจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ แบบชนิดเลือดตาแทบกระเด็น อันเป็นอะไรที่สำคัญซะยิ่งกว่า...
เพราะถึงแม้ไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้มากมาย แต่เพียงแค่การแสดงออกถึงความปรารถนาดีอยากให้เขาเป็นสุข (เมตตา) ความสงสารอยากให้เขาพ้นทุกข์ (กรุณา) ความรู้สึกพลอยยินดีเมื่อเขาได้ดีมีสุข (มุทิตา) เพียงเท่านี้...ก็ถือเป็น กำลังใจ พอสมควรแล้ว ส่วนบรรดาผู้ที่ไม่ได้คิดจะสนใจต่อความจริง ความถูกต้อง ดีงาม หรือผู้ที่เป็นเหตุปัจจัยแห่ง ความเสื่อม ทั้งหลาย แม้จะผงาดขึ้นมามีบทบาท อำนาจ วาสนา ไม่ว่าจะโดย ดีลลับ-ดีลไม่ลับ หรือไม่? ประการใด? ก็ตามที คงต้องหันมาใช้ อุเบกขา นั่นแหละ เป็นเครื่องประคับประคองความรู้สึกกันไปตามสภาพ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
4 กลุ่มชั่วน่ากลัวเป็นนักหนา กลุ่มที่ 5 ยิ่งน่าสยอง
ณ เวลานี้ หลายคนมองประเทศไทยด้วยความห่วงใยว่า ประเทศไทยของเราที่เป็นที่ชื่นชมของชาวโลก ทั้งการลงทุน การทำมาค้าขาย การเข้ามาพำนักยามชรา และการมาท่องเที่ยว
ลิ้นงู...ที่อยู่ในปากงู!!!
ถึงแม้นจะพะงาบๆ อยู่ห่างๆ...ไม่มีโอกาสได้ลงลึก เจาะลึก ในรายละเอียด ด้วยเหตุเพราะสุขภาพ สังขาร ร่างกาย และอาจด้วยความห่างเหิน ห่างหาย กับใครต่อใครมานานแสนนาน
ตั้ง 'นายพัน' สีกากีเริ่ม
อะไรจะเร็วขนาดนั้น! โผแต่งตั้ง "ตำรวจ" ระดับ "นายพันสีกากี" เริ่มขยับนับหนึ่งกันแล้ว ทั้งๆ ที่ระดับ "นายพล" ล็อตแรก ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)
ลัคนาตุลกับเค้าโครงชีวิตปี2568
ยังอยู่ในช่วงเจ็ดปีที่มีระยะแตกแยกพี่น้อง หรือเพื่อนสนิท หรือยุ่งยากมรดก-การเงิน
ข้าอยากได้อะไร...ข้าต้องได้
เราคนไทยมักจะอ้างว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐ มีการบริหารกิจการต่างๆ ภายในประเทศตามหลักการของนิติธรรม แต่สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นเวลานี้ หลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่าประเทศไทยเราเป็นนิติรัฐจริงหรือ
เมื่อ 'ธรรมชาติ' กำลังแก้แค้น-เอาคืน!!!
เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาของบ้านเรา...ท่านเคยคาดๆ ไว้ว่า ฤดูหนาว ปีนี้น่าจะมาถึงประมาณปลายสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนตุลาคม