น้ำฝนท่วมเชียงราย...น้ำลายท่วมจอ

ในขณะที่พายุนำพาน้ำฝนมาถล่มภาคเหนือของประเทศไทย ทำให้หลายจังหวัดในภาคเหนือทั้งตอนบนและตอนล่างต้องเผชิญกับอุทกภัย มีความลำบากยากเข็ญ ทั้งน้ำหลาก โคลนถล่ม มีปัญหาเรื่องการอยู่การกิน ต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้คนที่มีน้ำใจ และเราก็ได้เห็นคนไทยที่มีน้ำใจให้กัน ทั้งข้าราชการที่มีหน้าที่ในการกำจัดภัยพิบัติของประชาชน ทหารที่มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน บริษัทเอกชนที่พร้อมจะเจียดกำไรมาช่วยแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน มูลนิธิที่ทำหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น หน่วยอาสาต่างๆ ที่นำอาหารการกินมาบรรเทาทุกข์ให้ประชาชน และที่ขาดไม่ได้ก็คือ ชาวคณะจิตอาสาที่จะลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน

นำถุงพระราชทานที่มีทั้งของกินของใช้มอบให้ประชาชน แม้การช่วยเหลือครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความยากลำบากในการเผชิญกับกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก และดินโคลนที่ทำให้การเดินเป็นไปด้วยความยากลำบาก คนไทยที่มีน้ำใจทุกหมู่เหล่าที่กล่าวมาข้างต้นก็ไม่ได้มีความย่อท้อแต่อย่างใด

ยิ่งไปกว่านั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระราชินี ได้เสด็จฯ ลงพื้นที่เพื่อทรงช่วยเหลือประชาชน เป็นการเสด็จฯ ส่วนพระองค์โดยเครื่องบินพระที่นั่ง โดยไม่โปรดให้ข้าราชการจะต้องมาต้อนรับให้เสียเวลาในการดูแลช่วยเหลือประชาชนที่กำลังมีภัย ทั้งสองพระองค์และชาวคณะผู้ติดตามได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชน ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่เปี่ยมไปด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ประชาชนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้

ท่ามกลางความช่วยเหลือด้วยน้ำพระราชหฤทัยและน้ำใจของภาคส่วนต่างๆ ที่ดำเนินไปเพื่อบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนที่กำลังเดือดร้อนจากอุทกภัย โดยเฉพาะที่เชียงราย ต้องพูดว่าน้ำฝนทำให้เกิดน้ำท่วมที่เชียงราย แต่ปรากฏว่าเรากลับได้พบกับน้ำลายท่วมจอ ทั้งจอ offline อย่างโทรทัศน์ และจอ online อย่าง Facebook, TikTok และ YouTube นักการเมืองทะเลาะกัน ด่าทอกัน กระแนะกระแหน ประชดประชันกัน ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหาน้ำท่วม และเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับน้ำท่วมที่นำมาพูดแบบคนไม่รู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องดังกล่าวในเวลานี้ แทนที่จะมาพูดคุยกันเรื่องแนวทางในการจะแก้ปัญหาน้ำท่วม และการช่วยเหลือประชาชน พวกเขาบางคนก็เอาเรื่องที่ไม่ได้เร่งด่วนอะไรมาพูดในเวลาเช่นนี้ แค่พูดออกมาเราก็รู้แล้วว่าคนที่ดูนั้นไม่ได้มาทำงานการเมืองเพื่อประเทศชาติและประชาชน แต่มีวาระส่วนตัวที่เป็นประโยชน์กับตนเองและพรรคพวกมากกว่า

ศึกน้ำลายเรื่องแรกก็คือ เรื่องนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่สั่งการเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วมอะไรเลย โดยอ้างว่ายังไม่ได้แถลงนโยบายในสภา ก็เลยโดนคนที่รู้กฎหมายบอกว่าทำไมไม่ไปดูกฎหมายมาตรา 162 ที่กำหนดไว้ว่าเมื่อมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์แล้ว แม้ยังไม่ได้แถลงนโยบายในสภา หากมีเหตุฉุกเฉินก็สามารถสั่งการได้ เรื่องนี้ทำให้ทีมงานทางด้านกฎหมายของนายกรัฐมนตรีถูกต่อว่าต่อขานว่าทำไมปล่อยให้นายกรัฐมนตรีปล่อยไก่เช่นนี้ ทำไมไม่ให้คำแนะนำให้นายกรัฐมนตรีทำสิ่งที่ถูกต้อง

นอกจากจะบอกว่ายังสั่งการอะไรไม่ได้เพราะยังไม่ได้แถลงนโยบายแล้ว ยังมีเรื่องที่นายกรัฐมนตรีพูดแล้วทำให้ชาวบ้านรับไม่ได้ นั่นก็คือ คำพูดที่ว่าตอนนี้น้ำเชี่ยวกรากอยู่ ยังไม่สามารถเข้าไปช่วยอะไรได้ เพราะเรือที่จะไปให้ความช่วยเหลือนั้นเข้าไปในพื้นที่ไม่ได้ ชาวบ้านเขาก็ออกมาทำคลิปต่อว่าต่อขานนายกรัฐมนตรีว่า ถ้าจะรอจนกระแสน้ำลดลงแล้วจึงจะเข้าไปช่วย ชาวบ้านไม่ตายกันไปก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือหรือ สำหรับเรื่องนี้ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ คนที่ฟังนายกรัฐมนตรีพูด พวกเขาไม่พอใจตรรกะในการอธิบายของนายกรัฐมนตรีที่พยายามชี้แจงว่าทำไมจึงยังไม่ไปช่วยตอนนี้ ทำไมต้องรอ

ในทางตรงกันข้ามกับนายกรัฐมนตรีที่มีคนต่อว่าต่อขานเรื่องปฏิบัติงานช้าในการช่วยเหลือประชาชน แต่กลับมีอดีตรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ไปกับรัฐมนตรี ได้แสดงบทบาททำหน้าที่แทนรัฐมนตรี ทำให้มีคนออกมาเตือนว่าคุณไม่ใช่รัฐมนตรีแล้ว คุณเป็นแค่ สส.ที่กฎหมายกำหนดว่า สส.จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำงานราชการไม่ได้ มันผิดกฎหมาย เจ้าตัวก็บอกว่าเขายังเป็นรัฐมนตรีรักษาการอยู่ เพราะว่ารัฐมนตรีใหม่ยังไม่ได้แถลงนโยบายในสภา ฝ่ายที่เตือนเขาก็บอกว่าเมื่อมีพระบรมราชโองการแล้ว รัฐมนตรีใหม่ก็มีฐานะเป็นรัฐมนตรีแล้ว และโดยมาตรา 162 เมื่อมีเหตุวิกฤตหรือฉุกเฉิน รัฐมนตรีที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แล้ว ก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ การเถียงกันครั้งนี้ถึงขั้นที่ทำให้อดีตรัฐมนตรีจะดำเนินการฟ้องหมิ่นประมาทคนที่ออกมาเตือนว่าทำให้เกิดความเสียหาย แต่อีกฝ่ายก็บอกว่า “กูไม่กลัวมึง”

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ การที่มีรองนายกรัฐมนตรีไปลงพื้นที่ แต่ไม่พบผู้ว่าราชการจังหวัดมาต้อนรับ ตามข่าวบอกว่ารองนายกรัฐมนตรีแสดงอาการต่อว่าต่อขานผู้ว่าราชการว่าไปไหน ทำไมไม่มาต้อนรับ เรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ เพราะท่านปฏิเสธว่าท่านไม่ได้ใช้อำนาจแบบนั้น จะพูดหรือไม่ได้พูดแบบนั้นก็แล้วแต่ ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ออกมาตอบโต้แบบรุนแรงในลักษณะที่ว่า ท่านไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ท่านไม่จำเป็นจะต้องมาต้อนรับใคร และท่านก็ไม่กลัวว่าใครจะต่อว่าท่านว่ากระไร เพราะสิ้นเดือนกันยายนนี้ท่านก็จะเกษียณแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งก็คือ มีคนถามหา สส.ในพื้นที่ซึ่งเป็น สส.สังกัดสองพรรคใหญ่ แล้วก็มีการตั้งคำถามว่าแล้วประชาชนในพื้นที่จะยังเลือกผู้สมัครจากสองพรรคนี้อีกต่อไปหรือไม่ และ 1 ใน 2 พรรคนี้เคยถามว่า “ทหารมีไว้ทำไม” แล้วตอนนี้ชาวบ้านรู้แล้วหรือยังว่าทหารมีไว้ทำไม แล้วยังจะเชื่อวาทกรรมที่คนในพรรคนี้ถามว่าทหารมีไว้ทำไมอีกไหม เพราะก็ทหารของพระราชาและทหารของประชาชนไม่ใช่หรือที่กำลังช่วยเหลือประชาชนอยู่เวลานี้ และพรรคนี้อีกนั่นแหละที่ออกมาถามว่าในการแถลงนโยบายของพรรคเพื่อไทย ยังจะให้ความสำคัญกับการร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ ถามจริงๆ เถอะ มันใช่เวลาที่จะพูดเรื่องนี้เวลานี้ไหม ช่างไม่รู้เวลาบ้างเลย เรียงลำดับความสำคัญยังไม่ถูกเลย ริจะมาบริหารบ้านเมือง ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงราย อย่ามาทำน้ำลายท่วมจอกันเลยนะท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย เดี๋ยว “เกียรติ” จะไม่เหลือ จะเหลือแต่ความ “เกลียด” นะคะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทหารก็ไม่เอา...เจ้าก็จะล้ม ยังชื่นชมกันอีกหรือ

นักการเมืองบางคน (ย้ำ บางคนนะ ไม่ใช่ทุกคน) ที่มีพฤติกรรมแบบมนุษย์ยุคไดโนเสาร์ เล่นการเมืองกันแบบน้ำเน่า แย่งกันเป็นรัฐมนตรีโดยไม่คำนึงถึงความสามารถของตน

อินทรีคืนถิ่น!

เข้าสู่โค้งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ "สีกากี" หลายโรงพัก หลายกองบังคับการ หลายกองบัญชาการ จัดพิธีและงานเลี้ยงอำลาตำรวจวัยเกษียณในสังกัดกันไปบ้างแล้ว

ขอส่ง'กำลังใจ'แด่ผู้ประสบภัยพิบัติทั้งหลาย

เจอกับ สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ ที่มาพร้อมๆ กับ นารีขี่ม้าขาว รายใหม่...เล่นเอาบรรดาผู้คนในภาคเหนือของบ้านเรา น่าจะอ่วมอรทัยอยู่พอสมควรทีเดียว