เสียงใครกันล่ะนั่น!
เห็นว่าคล้าย "ลุงป้อม"
เจ้าสำนัก "บ้านป่า"
จริงไม่จริงไม่รู้การเมืองหลังจากนี้ จะมีรายการไม่เผาผีถี่ขึ้นเรื่อยๆ
ในคลิปที่แชร์กันว่อนโซเชียล ไม่ว่าจะเสียงใครก็ตาม แต่นี่คือเกมเล่นงาน "ลุงป้อม" ต้นตออาจมาจากศัตรู "ลุงป้อม" หรือไม่ก็พวกยุให้รําตําให้รั่ว เพื่อหวังผลทางการเมือง
เท่าที่เห็นคนที่จ้องเล่นงาน "ลุงป้อม" แบบเปิดเผยคือ "ทักษิณ ชินวัตร"
การปิดสวิตช์ "วงษ์สุวรรณ" คือการตามล้างตามเช็ด เป็นแค้นเก่าที่ต้องชำระ
แต่คนที่ปล่อยคลิปอาจเป็น "ทักษิณ" หรือ ไม่ใช่ ก็ได้
ที่แน่ๆ คนปล่อยจะได้ประโยชน์จากความน่าเชื่อถือทางการเมืองของ "ลุงป้อม" ที่จะลดลงไปเรื่อยๆ
แต่...ก็มีคนอยากเห็นฝั่ง "ลุงป้อม" ตอบโต้กลับอย่างรุนแรงเช่นกัน
ด้วยการปล่อยคลิปบ้านจันทร์ส่องหล้า
เพราะนี่คือหลักฐานเด็ด
ถ้ามีจริง...คลิปเดียวล้มทั้งกระดาน
"ทักษิณ" ครอบงำพรรคการเมืองไหนบ้าง และมีพรรคการเมืองไหนยอมให้ "ทักษิณ" ครอบงำบ้าง ผิดจริงไปทั้งยวง
รัฐบาลก็อยู่ยาก
อย่าคิดว่าแค่ยักไหล่แล้วไปต่อได้ เพราะมันพันไปถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีด้วย
คุณสมบัติรัฐมนตรียังอยู่กันครบหรือเปล่า
ยังซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ไหม
ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือเปล่า
อย่าไปดูถูกนักร้องเชียวครับ
เห็นบ้านๆ แบบนั้นข้อกฎหมายแน่นทุกคน
ที่ผ่านมาก็เห็นกันจะจะแล้ว ขนาดทีมกฎหมายรัฐบาล บวกกับทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย หัวกะทิทั้งนั้น ยังแพ้ยับมาแล้ว
เอาข้อบังคับพรรคหลายๆ พรรคมายำๆ ก็พอมองเห็นแนวทางครับ
จะเห็นคำตอบว่า ขนาดข้อบังคับพรรคตัวเอง ยังมีความเสี่ยงว่าจะผิด หากปล่อยให้คนนอกครอบงำในกิจกรรมสำคัญของพรรค เช่น กรณีการตัดสินใจว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล นับประสาอะไรกับรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายพรรคการเมือง
ยกตัวอย่างข้อบังคับพรรคการเมืองบางพรรคเขียนไว้แบบนี้ครับ...
"พรรคจะดําเนินกิจกรรมทางการเมืองที่สร้างสรรค์ด้วยความสุจริต โปร่งใสตรวจสอบได้ ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมาย"
"ไม่คบหาสมาคมกับคู่กรณี ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีความประพฤติหรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่"
การที่นักโทษคดีคอร์รัปชันที่อยู่ระหว่างการพักโทษ เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคไปหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี เพราะคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ คือหายนะทางการเมืองของ "ทักษิณ" และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล
แม้จะอ้างว่าเรียกไปกินข้าว ร้องคาราโอเกะ
แต่ด้วยข้อเท็จจริง คงปฏิเสธยากว่า ไม่มีการหารือการจัดตั้งรัฐบาล
เพราะ "ทักษิณ" คือผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐบาลจริงๆ
จนถึงวันนี้คำร้อง เรื่อง "ทักษิณ" ครอบงำพรรคเพื่อไทย ครอบงำพรรคร่วมรัฐบาล มันถาโถมจนยากที่จะหยุด
หากนับจากวันเริ่มต้นรัฐบาลเศรษฐาแล้ว ในวันเริ่มต้นของรัฐบาลแพทองธาร เรียกได้ว่าสาหัส เจ้าภาพกฐินเต็มไปหมด
โดนหนักกว่ากันเยอะ
ร่ายมาถึงจุดนี้ เริ่มพอมองเห็นเค้าลางว่า ทำไมคลิปคนเสียงคล้ายลุง ถึงมีการปล่อยให้สื่องับ จนไฟลุกท่วมโซเชียล
ทีมลุงป้อม พยายามตอบโต้ว่าไม่จริง เป็นเสียง AI
"พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย" โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว...
"....เป็นคลิปเสียงปลอมที่ทำขึ้นจากเทคโนโลยีทางดิจิทัล ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่จะเห็นว่าสามารถทำลอกเลียนแบบได้เสมือนจริง ทั้งเสียงและภาพ
ที่ผ่านมา มักจะพบเห็นการทำคลิปในรูปแบบต่างๆ และล้อเลียน พล.อ.ประวิตร เล่นการเมืองต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง..."
"...เป็นการใช้วิธีชั่วร้ายเก่ามาทำลายระบอบประชาธิปไตย ผมคิดว่าในปีนี้เป็นปี ๒๕๖๗ แล้ว ไม่ใช่ปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ยังมีการเล่นการเมืองที่สาดน้ำเน่าสิ่งสกปรกใส่กัน
ยังมีการเลี้ยงงูเห่าไทยสร้างไทย งูเห่า ปชป. งูเห่า พปชร. แล้วการเมืองของไทยจะพัฒนาใสสะอาด ประชาชนเชื่อมั่นในระบอบพรรคการเมือง ได้อย่างไร ที่ชอบเล่นใส่ร้ายป้ายสีใส่กัน..."
ข้อเท็จจริงประการหนึ่งคือ ปัจจุบันคลิปเสียงทำเลียนแบบกันได้ และเนียนสุดๆ หากไม่พิสูจน์ในเชิงวิทยาศาสตร์ ก็ยากที่จะแยกแยะได้
ข้อเท็จจริงอีกประการ การเมืองไทย ยังมิได้พัฒนาพอ ที่เราจะได้ยินคลิปเสียงดีๆ มีประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ฉะนั้นจึงยังตอบไม่ได้ว่าคลิปเสียงจริงหรือไม่ จนกว่าจะมีการพิสูจน์
ประเด็นถัดมาเมื่อโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ตอบโต้เรื่องการเลี้ยงงูเห่า ในหลายพรรคการเมือง ก็เท่ากับพุ่งเป้าไปที่พรรคเพื่อไทยโดยตรง
เพราะงูเห่าในพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงฝ่ายค้าน เกิดขึ้นเพราะเกมของพรรคเพื่อไทย
เบื้องต้นพรรคพลังประชารัฐจึงเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยมีส่วนปล่อยคลิปเสียงที่ว่านี้
แต่ก็มีประเด็นหนึ่งที่พรรคพลังประชารัฐต้องไปขบคิด คือการออกมายอมรับของ "สุทธิพงษ์ จุลเจริญ" ปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่าเป็นเสียงของตนเอง
เนื่องจากการปล่อยคลิปชุดนี้มี ๔ คลิป คนปล่อยตั้งใจโจมตีคนคนเดียว คือคนที่เสียงคล้าย "ลุงป้อม" เมื่อปลัดกระทรวงมหาดไทยยอมรับว่าเป็นเสียงตัวเอง ก็เท่ากับไปลดความน่าเชื่อถือเรื่องคลิป AI หรือคลิปปลอม
สิ่งที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยยอมรับคือ เป็นเสียงของตัวเอง สมัยที่ "ลุงป้อม" ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลฝ่ายความมั่นคงและดูแลกระทรวงมหาดไทย
แต่ก็เป็นแค่การรายงาน เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
การปล่อย ๔ คลิป ที่ไม่ต่อเนื่องกัน แต่พยายามให้เป็นเรื่องเดียวกัน โดยคนคนเดียวกัน เท็จจริงต้องไปพิสูจน์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือ "ลุงป้อม" ถูกดิสเครดิตไปเต็มๆ
ทำไมต้องเล่นงาน "ลุงป้อม"
คิดแบบชาวบ้านๆ พรรคพลังประชารัฐลูกผีลูกคน สส.ถูกตกไปครึ่งพรรค มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มีการวางแผนและมีการปฏิบัติอย่างเป็นขั้นเป็นตอน
การปิดสวิตช์ "วงษ์สุวรรณ" เป็นแค่การเริ่มต้น
ขั้นตอนต่อไปอาจเป็นการยึดพรรคพลังประชารัฐ
หากยึดไม่ได้ก็หาวิธียุบ
เห็นทีคราวนี้ลำพังใจบันดาลแรงคงไม่พอเสียแล้ว
จะรอดูทีมบ้านป่าเอาคืน บ้านจันทร์ส่องหล้า
หากปิดสวิตช์ "ชินวัตร" ได้ การเมืองเปลี่ยนโฉมอีกครั้ง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทลายทุนผูกขาด
ชื่นใจ... ชื่นใจในความรวยของเศรษฐีไทยครับ วารสารการเงินธนาคาร ร่วมกับ อาจารย์ประจำคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการจัดอันดับเศรษฐีหุ้นไทยติดต่อกันปีนี้เป็นปีที่ ๓๑ แล้วครับ
นายกฯ ฝึกงาน
ขยี้ตาสิบที... แถลงผลงานในรอบ ๓ เดือนแน่นะ "อิ๊งค์" ไปดูอีกทีกับการแถลงข่าววานนี้ (๑๒ ธันวาคม)
ชะตากรรม 'นายกฯ ชินวัตร'
วันนี้ (๑๒ ธันวาคม) นายกฯ อิ๊งค์ แถลงผลงาน อยากรู้ว่าผลงานมีอะไรบ้าง เชิญเฝ้าหน้าจอสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที หรือช่อง ๑๑ นั่นแหละครับ
ในวันที่ 'ส้ม' โหยหาเพื่อน
ไอ้เสือถอย! ไปไม่ถึงสุดซอยครับ "หัวเขียง" ยอมเลี้ยวกลับเสียก่อน
ง่ายๆ แค่เลิกโกง
อาจถึงขั้นเปลี่ยนขั้วตั้งรัฐบาลกันเลยทีเดียวครับ... หากพรรคเพื่อไทย จะเอาให้ได้ กับร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ด้วยการจับยัดเข้าสภาฯ ก็สามารถยึดอำนาจกองทัพได้สำเร็จครับ
'อุ๊งอิ๊ง' แถลงผลงาน
ล้างตารอไว้นะครับ นายกฯ แพทองธาร นัดไว้แล้ววันที่ ๑๒ ธันวาคม มีข่าวใหญ่