'ทองหยอด-เหรียญทอง'

เขมรอ้างเป็น "พื้นที่ทับซ้อน" และรัฐบาลในครอบครองทักษิณยกเป็น "วาระเร่งด่วน" เจรจา "แบ่งผลประโยชน์" ก่อนขุดขึ้นมาใช้!

เรื่องนี้ "คนไทย" ต้องตามติดกันนะครับในประเด็น "ความซื่อสัตย์สุจริตต้องเป็นที่ประจักษ์"

พูดถึง "ความซื่อสัตย์" ต้องนี่เลย ผมอ่านแล้วปลื้มกับ "รุ่นใหม่หัวใจรักชาติ" คนนี้มาก

เป็นเกียรติภูมิ "คนไทย-ประเทศไทย" ต้องขอนำมาบันทึก

.................................

Trakulwattana Na Chiengmai

เหตุเกิด ณ การแข่งขันแบดมินตัน

รายการ Taipei Open 2024 ที่ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก

1.เป็นการพบกันระหว่าง

โจว เทียนเฉิน จากไต้หวัน (มือวางอันดับ 9 ของโลก) (คนไทยเรียก อาโจว)

และน้องบอส "ศรัณย์ แจ่มศรี" ของไทยเรา สังกัด "บ้านทองหยอด" (มือวางอันดับ 135 ของโลก)

2.ในช่วงเกมที่ 2

ระหว่างที่ทั้งคู่แข่งกันอย่างดุเดือด มีอยู่ลูกหนึ่งที่อาโจวตีออก แล้วน้องบอสสัมผัสได้ว่าลูกโดนตัวเองนิดหนึ่งก่อนจะออก

แต่กรรมการไม่เห็นครับ

ซึ่งถ้าปล่อยเงียบไว้ แต้มย่อมเป็นของน้องบอส

3.ต้องจินตนาการนิด

ว่ามันเป็นการแข่งขันแบดมินตันระดับโลก ที่มีรางวัล และชื่อเสียงประเทศเป็นเดิมพัน ไม่เหมือนไปตีเล่นตามก๊วนหลังเลิกงานนะครับ

ฉะนั้น ทุกคนที่เข้าร่วมย่อม "อยากชนะ" แบบสุดๆ และทุกแต้มมันมีความหมายมากๆ

ถ้าเจอกรณีแบบนี้ นักกีฬาบางคนจึงปล่อยเงียบ เพราะเขาถือว่า มันเป็นเรื่องของโชค ซึ่งอาจเกิดกับคู่แข่งได้เหมือนกัน

ทว่า...สิ่งที่ "น้องบอส" ทำคือ

เดินไปบอกกรรมการว่า "ลูกโดนตัวเขาก่อน" แต้มนั้นจึงกลายเป็นของอาโจว

สุดท้าย ใน match นั้น อาโจว ชนะ น้องบอส ไป 2 เกมรวด

หลังจบเกม ภาพที่น่าประทับใจก็เกิดขึ้นครับ อาโจวขอแลกเสื้อกับน้องบอส ถ่ายรูปร่วมกัน และแชร์เรื่องราวนี้ผ่าน IG ส่วนตัว

4.ผมแปลแบบเข้าใจง่ายนะ

"บนคอร์ตวันนี้ เราทั้งคู่คือ 'ผู้ชนะ' ใน match นี้ครับ ในช่วงเกม 2  คู่แข่งของผม ศรัณย์ แจ่มศรี จากประเทศไทย เดินไปแจ้งกรรมการว่า ลูกแบดสัมผัสร่างกายของเขา  ทำให้ผมได้แต้มนั้นมา"

"ผมเชื่อว่า ความสัตย์ซื่อถือมั่นในคุณธรรม อยู่เหนือชัยชนะทั้งปวง และวันนี้ ศรัณย์ได้แสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬาผ่านความซื่อสัตย์ของเขา

เขาไม่เพียงแต่ชนะใจพวกเรา

แต่จิตใจที่น่ายกย่องของเขา ยังเป็นเกียรติแก่ทีมโค้ชที่สอนเขามาอย่างดี"

5.น้องบอสได้แสดงให้เห็นถึงน้ำใจนักกีฬา ที่ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจให้คู่แข่ง

แต่ยังเป็น Soft Power ให้ประเทศไทยเราด้วย

และอาโจวก็แสดงให้เห็นถึงการให้เกียรติ เคารพนับถือคู่แข่ง แม้ตัวเองจะเป็นมือที่เหนือกว่า

ซึ่งผมว่า ในระยะยาว การกระทำเหล่านี้ มันมีคุณค่ามากกว่าชัยชนะในเกมอีกครับ

งดงามมากๆ จริงๆ

6.เรื่องราวนี้ กำลังให้บทเรียนผมว่า

"อย่ายึดติดกับชัยชนะหรือความสำเร็จจนมองข้ามคุณธรรมและความดีที่ควรมีให้ผู้อื่น"

ในโลกแห่งทุนนิยมที่ทุกคนต่างแข่งขัน ไม่ว่าจะกีฬา  ธุรกิจ ฐานะ ชื่อเสียง เกียรติยศ

มันเป็นเรื่องง่ายครับ ที่จะหมกมุ่นในชัยชนะหรือความสำเร็จ จนอาจเผลอเล่นไม่ซื่อ ทำผิดต่อตัวเองและผู้อื่น

เพราะบรรยากาศมันพาไป

7.แต่ท้ายที่สุด

เราต่างรู้ว่า ต่อให้ได้มันมา ถ้าใช้วิธีที่ไม่โปร่งใสหรือเอาเปรียบใคร เราก็ไม่ภูมิใจกับมันอยู่ดีครับ

เพราะนั่นเป็นแค่เกมย่อยๆ ในชีวิต ที่ต่อให้เราชนะสักกี่ครั้ง มันก็แค่เกม

และอย่าลืมว่า พอจบเกมเหล่านั้น (เลิกงาน, กลับบ้าน, พักผ่อน ฯลฯ)

เราจะไม่ใช่ หัวหน้า ผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้ยิ่งใหญ่จากไหนแล้วนะ

แต่เป็นแค่ "มนุษย์" ธรรมดาๆ คนหนึ่งนี่แหละ

8.มนุษย์ที่อยากมีความสัมพันธ์ที่ดี อยากมีคนรักและห่วงใย อยากมอบสิ่งดีๆ ให้ใครๆ เพื่อเติมเต็มหัวใจ

ต่อให้ยากดีมีจนแค่ไหน

ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า ไม่อยากได้สิ่งเหล่านี้

ดังนั้น......

"อย่ามัวแต่ยึดติดกับชัยชนะหรือความสำเร็จจนมองข้ามคุณธรรมและความดีที่ควรมีให้ผู้อื่นเลยนะครับ"

ซื่อสัตย์ในคุณธรรมที่ตัวเองยึดถือ

ปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพ ให้เกียรติ

และมอบสิ่งดีๆ ให้กันและกัน

เหมือนที่น้องบอส และอาโจว แสดงให้เราเห็นกันครับ

นั่นอาจเป็นความหมายและความสุขในชีวิตเราก็เป็นได้ นี่คือบทเรียนที่ผมตกผลึกได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ

#pump #ตกผลึก #badminton

................................

อีกซักเรื่อง เกี่ยวกับ "ไอ้ตี๋หัวลำโพง"

เรื่องนี้ "หมอบอย-นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์" ผู้จัดการ สสส.นำมาเป็น "พรีเซนเตอร์" เลิกสูบบุหรี่ ได้เลย

อ่านดูนะครับ ผู้ใช้นาม "เวหา" โพสต์ใน Line Open Chat "เปลว สีเงิน" ดังนี้

..............................

เวหา

เรื่องจริงที่มีประโยชน์มากสำหรับสังคมไทยที่นักข่าวหรือสำนักข่าวใดๆ ไม่สนใจที่จะเผยแพร่

เมื่อบ่ายวันนี้ ระหว่างที่ผมเดินไปตัดผมที่ตึกแถวหน้าทางเข้า รพ.มงกุฎวัฒนะ มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาทักทายไหว้ผม แล้วถามผมว่า

"คุณหมอจำหนูได้ไหม หนูเป็นภริยาของผู้ชายที่ถูกคุณหมอตบเพราะสูบบุหรี่ใน รพ.เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา"

ผมก็ตอบผู้หญิงคนนี้ว่า

"อ้าว! แล้วทำไมน้องถึงหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ไม่หน้าเศร้าเหมือนวันที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะที่สามีของน้องถูกพี่ตบหน้าล่ะครับ"

ผู้หญิงคนนี้ตอบว่า "สามีหนูเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่วันที่ถูกคุณหมอตบและทำตามสัญญากับคุณหมอตั้งแต่วันนั้น เลิกสูบบุหรี่ไปเลย หนูและลูกๆ ดีใจมาก

ทุกวันนี้ ประหยัดเงินค่าบุหรี่ได้วันละ 2 ซอง มีเงินใช้เหมือนที่คุณหมอสั่งสอนไว้"

ผมฟังผู้หญิงคนนี้แล้ว ผมรู้สึกดีใจมาก ผมก็ถามว่า

"แล้ววันนี้น้องมาทำอะไรที่ รพ.มงกุฎวัฒนะล่ะครับ"

ผู้หญิงคนนี้ก็บอกว่า "สามีหนูมานอนรักษาตัวอยู่ที่ตึก 3 ชั้น 11"

ผมก็บอกผู้หญิงคนนี้ว่า "เดี๋ยวพี่ขอไปตัดผมก่อน  เสร็จแล้วพี่จะไปเยี่ยมสามีน้อง"

เมื่อผมตัดผมเสร็จเรียบร้อย ก็เดินไปเยี่ยมสามีของผู้หญิงคนนี้ที่หอผู้ป่วยสามัญรวม ศัลยกรรมชาย ชั้น 11 อาคาร 3

เมื่อผมเดินเข้าไปในหอผู้ป่วย ผู้ป่วยชายที่เคยถูกผมตบหน้าใน รพ.มงกุฎวัฒนะ กลางวันแสกๆ ต่อหน้าธารกำนัล ก็ยกมือไหว้ผมขณะนั่งอยู่บนเตียง

ผมก็เดินเข้าไปแล้วยิ้มให้ พร้อมกับทักทายว่า

"เล็ก (ชื่อของผู้ป่วยที่เคยถูกผมตบ ชื่อจริงชื่อ วิชาญ เสือแพร อายุ 48 ปี) ...พี่มาเยี่ยมน้อง ไม่ได้มาตบ (ผมหยอกล้อด้วยความกันเอง)"

"เล็ก" หรือ นายวิชาญ เสือแพร ก็ยิ้มให้ผม แต่ก็ยังมีท่าทางเกร็งๆ อยู่บ้าง

เล็กบอกผมว่า "หมอยังจำชื่อผมได้หรือครับ หมอครับ ผมเลิกสูบบุหรี่ตามที่สัญญาไว้กับหมอตั้งแต่วันที่ถูกตบแล้ว"

ผมก็หัวเราะแล้วพูดกับ "เล็ก" ว่า

"พี่ขอโทษที่สั่งสอนน้องรุนแรง แต่พี่ดีใจที่น้องเชื่อฟังพี่ เลิกสูบบุหรี่ เก็บเงินค่าบุหรี่วันละ 2 ซองไว้กินไว้ใช้ได้ พี่ดีใจมาก"

แล้วผมก็ตรวจดูแผลติดเชื้อที่เท้าของ "เล็ก" ซึ่งเป็นเบาหวาน และกำลังติดเชื้อ ต้องให้ยาปฏิชีวนะทางเส้นโลหิต ก่อนเตรียมการผ่าตัดต่อไป

ผมพูดกับ "เล็ก" ว่า

"พี่ขอให้น้องหายป่วยเร็วไว และขอโทษน้องอีกครั้งในเหตุการณ์ตบสั่งสอนที่สูบบุหรี่ใน รพ.พี่ ขอให้น้องช่วยประชาสัมพันธ์ บอกผู้ป่วยเตียงอื่นๆ ให้พี่ด้วยว่า อย่าสูบบุหรี่ใน รพ.นี้เด็ดขาด หากไม่เชื่อจะถูกปรับ 5,000 บาท และหากซ่า จะถูกตบเหมือนที่น้องโดน"

ทั้งผมและเล็กที่เคยถูกผมตบหน้าสั่งสอนจากการฝ่าฝืนสูบบุหรี่ใน รพ.มงกุฎวัฒนะ ต่างก็ยิ้มแย้ม และพูดคุยกันอย่างพี่น้อง

แล้วผมก็อวยพรขอให้ "เล็ก" สุขภาพแข็งแรง หายป่วยเป็นปกติเร็วไว

เหตุการณ์นี้ คือเรื่องจริง ไม่ได้โกหก ไม่มีการตกแต่งสร้างเรื่องสร้างภาพใดๆ ทั้งสิ้น มีผู้ป่วยเตียงข้างๆ หลายเตียงอยู่ในเหตุการณ์หลายคนในหอผู้ป่วยสามัญรวม ศัลยกรรมชาย ชั้น 11 อาคาร 3

ตรวจสอบเรื่องว่าจริงหรือเท็จได้จากผู้ป่วยชายที่มีชื่อ-นามสกุลว่า "วิชาญ เสือแพร" อายุ 48 ปี ที่ยังรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยสามัญรวมศัลยกรรมชาย ชั้น 11 อาคาร 3 รพ.มงกุฎวัฒนะ ในขณะนี้ได้นะครับ

นี่คือตัวตนของผม "พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา" จอมเผด็จการแห่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ...ร่างทรงหัตถ์พระเจ้ามาราโดน่า

พลตรี เหรียญทอง แน่นหนา                  

ผู้ต้องหาคดีอาญาสารพัดข้อหาคดีไอ้กุ๊ยสูบบุหรี่เสพเฮโรอีนใน รพ.มงกุฎวัฒนะ

6 ก.ย.67 เวลา 16.48 น.

.........................................

วันนี้ เหนื่อยอ่าน-เหนื่อยฟังหน่อย แต่สบายผม

-เปลว สีเงิน

๙ กันยายน ๒๕๖๗

คนปลายซอย