นโยบายพาพัง

แพลมออกมาบ้างแล้วสำหรับนโยบายของรัฐบาลแพทองธาร

แทบไม่มีอะไรใหม่!

เหมือนลอกการบ้านรัฐบาลเศรษฐา ผสมกับ Vision for Thailand 2024 ของ "ทักษิณ ชินวัตร"

เอามายำเป็นนโยบายรัฐบาลแพทองธาร

๑๒-๑๓ กันยายนนี้ จะมีการประชุมร่วมรัฐสภา วาระเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๒

มาตรา ๑๖๒ กำหนดไว้ว่า

"คณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาซึ่งต้องสอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐ และยุทธศาสตร์ชาติ และต้องชี้แจงแหล่งที่มาของรายได้ที่จะนํามาใช้จ่ายในการดําเนินนโยบาย โดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ ทั้งนี้ ภายในสิบห้าวันนับแต่วันเข้ารับหน้าที่"

ขีดเส้นใต้ที่ "ยุทธศาสตร์ชาติ"

เอกสารแถลงนโยบายของ นายกฯ อิ๊งค์ มีทั้งสิ้น ๑๔ หน้า ใช้เวลาอ่านไม่เกินชั่วโมงน่าจะจบ

เทียบกับนโยบายรัฐบาลลุงตู่หนาตั้ง ๓๕ หน้า ก็ถือว่าคำแถลงนโยบายของนายกฯ อิ๊งค์กระชับกว่า แต่จะได้ใจความหรือไม่ต้องรอฟังกันอีกที

แต่เท่าที่หลุดมาให้อ่านกันก่อนมีนโยบายเร่งด่วนที่ทำทันที ๑๐ นโยบายคือ

๑.การปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อบ้านและรถ ช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบและในระบบที่ไม่ขัดต่อวินัยการเงินและไม่ทำให้เกิดภาวะภัยทางจริยธรรม

๒.ส่งเสริมและปกป้องผลประโยชน์ของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเอสเอ็มอี จากการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมของคู่แข่งต่างชาติ โดยเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์

๓.ออกมาตรการเพื่อลดราคาพลังงานและสาธารณูปโภค ด้วยการปรับโครงสร้างราคาพลังงานและเร่งปรับปรุงกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น ทำสัญญาซื้อขายพลังงานโดยตรง พัฒนาระบบสำรองน้ำมันเชื้อเพลิง สำรวจหาแหล่งพลังงานเพิ่มเติม และเจรจาประเด็นพื้นที่ทับซ้อนกับกัมพูชา (OCA) เพื่อลดต้นทุนด้านพลังงาน ด้านขนส่งมวลชนจะกำหนดโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วมใน กทม. เพื่อรองรับนโยบายค่าโดยสารราคาเดียวตลอดสาย

๔.สร้างรายได้ใหม่ด้วยการนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษีและเศรษฐกิจใต้ดินเข้าสู่ระบบภาษี เพื่อจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุขและสาธารณูปโภค

๕.เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก

๖.ยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย และเร่งเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและราคาพืชผลการเกษตร

๗.เร่งส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์)

๘.แก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร

๙.เร่งแก้ปัญหาอาชญากรรม อาชญากรรมออนไลน์ มิจฉาชีพ และอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน

๑๐.ส่งเสริมศักยภาพและจัดสวัสดิการสังคมให้สอดคล้องกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลง

ส่วนใหญ่ดูดี แต่ก็ยังปรากฏนโยบายที่ทำให้รัฐบาลแพทองธารติดหล่มเหมือนที่รัฐบาลเศรษฐาเคยเจอ นั่นคือการเดินหน้านโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต

รัฐบาลอ้างว่านี่คือนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

แต่เนื้อในมันใช่หรือไม่

ย้อนกลับไปที่รัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๒ อีกครั้ง ความมุ่งหมายและคำอธิบายประกอบ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ อธิบายเจตนารมณ์ของมาตรานี้ไว้ว่า

"การกำหนดเงื่อนไขว่าแนวนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาต้องสอดคล้องกับหน้าที่ของรัฐ แนวนโยบายแห่งรัฐ การกำหนดเช่นนี้ก็เพื่อป้องกันมิให้คณะรัฐมนตรีจัดทำนโยบายในลักษณะ 'ประชานิยม' โดยไม่คำนึงถึงที่มาแห่งรายได้ของรัฐที่จะนำมาใช้จ่าย หรือกระทบต่อการดำเนินการตามแนวนโยบายแห่งรัฐที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ    และยุทธศาสตร์ชาติ

ทั้งยังเป็นการบ่งชี้ว่าในการหาเสียงของพรรคการเมือง ที่ไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขดังกล่าวจะมีผลให้พรรคการเมืองนั้น แม้จะได้รับเสียงข้างมากจนจัดตั้งคณะรัฐมนตรีได้ ก็จะไม่สามารถนำนโยบายที่หาเสียงไว้มากำหนดเป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีได้"

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือนโยบายประชานิยมกันแน่

ซ้ำร้ายที่มาของเงินไม่ต่างจากที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำ

ทั้งหลอก ทั้งรีด สร้างหนี้ก้อนโตให้ประชาชนเพิ่มเติม

ยังไม่มีการตรวจสอบนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ในมุมของนโยบายประชานิยม ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

แต่หลังจากนี้ ก็ไม่แน่

อีกนโยบายที่น่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๑๖๒ อย่างชัดแจ้งก็คือ นโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

ซึ่งก็คือการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย

หรือการพนันถูกกฎหมาย

นโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์ชาติ ข้อไหน?

มีใครในรัฐบาลอธิบายความให้กระจ่างได้หรือไม่

ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี มีทั้งสิ้น ๖ ด้าน

๑.ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง

๒.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน

๓.ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน

๔.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม

๕.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

๖.ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ 

ที่ใกล้เคียงสุดน่าจะเป็น ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ในด้านการสร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยว

ข้อนี้พูดถึงอัตลักษณ์และวัฒนธรรมไทย

การใช้ประโยชน์จากข้อมูลและภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อสร้างสรรค์คุณค่าทางเศรษฐกิจและความหลากหลายของการท่องเที่ยวให้สอดรับกับทิศทางและแนวโน้มของตลาดยุคใหม่

การใช้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวให้เอื้อต่อผลิตภัณฑ์ชุมชนและเศรษฐกิจต่อเนื่อง พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเดิมและสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ โดยคำนึงถึงศักยภาพของแต่ละพื้นที่ การส่งเสริมการท่องเที่ยวพำนักระยะยาว

ตลอดจนส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบนิเวศ และทรัพยากรที่เอื้อต่อการเติบโตของการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ เพื่อกระจายโอกาสในการสร้างรายได้ไปสู่ชุมชนและเมืองอย่างทั่วถึงและยั่งยืน

คร่าวๆ ก็ประมาณนี้

ไม่มีตรงไหนส่งเสริมให้เปิดบ่อนถูกกฎหมายเลย

การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพคืออะไร รัฐบาลได้คำนึงถึงบ้างหรือไม่

หรือคิดแต่เรื่องเงิน ไม่ว่าเงินนั้นสกปรกหรือไม่ รัฐบาลก็พร้อมที่จะนำมาเป็นรายได้ของรัฐ

ก็ไม่แปลกใจครับที่การเมืองวันนี้ถึงได้สกปรก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โอกาส 'ลุงป้อม' มาแล้ว

เริ่มจะเข้าที่ วานนี้ (๖ กันยายน) พรรคพลังประชารัฐประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ แทนที่ก๊วนธรรมนัส ที่ลาออกไป

โดยสันดาน

ทำราวกับเป็นตัวละครลับ! วานนี้ (๕ กันยายน) มีความเคลื่อนไหวคึกคักที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย ตึกชิน ๓

ครม.ครอบครัวครอบครอง

สิ้นสุดการรอคอย... วานนี้ (๔ กันยายน) มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐมนตรี ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร เรียบร้อยแล้ว

ร่อนตะแกรงการเมือง

รัฐบาลนี้มีความพิเศษครับ จัดตั้งรัฐบาลจะจบแล้ว แต่ไม่รู้แน่ชัดว่าใครเป็นรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้าน

ก็เพราะ สว.พรรค์นี้

โผ ครม.นิ่งแล้ว นายกฯ อิ๊งค์ ว่างั้นครับ แต่ที่ไม่นิ่งคือ "ปาก" ของ สว.สายพันธุ์ใหม่ นอกจากปากไม่นิ่งแล้ว มือไม่พายเอาเท้าราน้ำต่างหาก

วิบากกรรม 'พ่อ-ลูก'

นั่นไง... ตั้งรัฐบาลไม่ใช่เรื่องง่าย หากรายชื่อที่เสนอตั้งเป็นรัฐมนตรี เต็มไปด้วยผู้มีมลทิน ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์