อุตฯลุยเศรษฐกิจวิถีใหม่

แนวทางการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมนั้นมีหลากหลายวิธี แต่หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคที่โลกกำลังวิ่งเข้าหาหนทางการอนุรักษ์พลังงาน และดูแลสิ่งแวดล้อม ทำให้ภาคอุตสาหกรรมนั้นก็แค่วางแนวทางที่จะเดินหน้าไปตามทิศทางของโลก และในประเทศไทยเองก็จำเป็นต้องปรับตัวเช่นเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้กำหนดนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไทยให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ที่จะใช้การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้ความสำคัญกับการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก

โดย นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้เห็นถึงความสำคัญของการกระจายโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการในการเข้าถึงบริการการพัฒนาของกระทรวงอุตสาหกรรมให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ เสริมแกร่ง เพิ่มสมรรถนะและขีดความสามารถในการประกอบการด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยี

และทุนทางวัฒนธรรม การเสริมสร้างศักยภาพและบริการผ่านระบบดิจิทัล เพื่อก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ผ่านโครงการเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสู่การแข่งขันเศรษฐกิจวิถีใหม่ สู่การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้มีศักยภาพรองรับเศรษฐกิจวิถีใหม่ นำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ ส่งเสริมมูลค่าเพิ่ม

โอกาสด้านการตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคเศรษฐกิจวิถีใหม่ ให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ ตลอดจนประชาชนในพื้นที่สามารถปรับธุรกิจให้รองรับกับการเปลี่ยนแปลงจากสถานการณ์ต่างๆ ให้มีอาชีพที่มั่นคง และสามารถสร้างรายได้ให้สูงขึ้นสู่การขับเคลื่อนเป็นฐานเศรษฐกิจใหม่ของประเทศได้อย่างแท้จริง สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 264 ล้านบาท ผ่าน 3 กิจกรรม ประกอบด้วย

1.กิจกรรมการพัฒนาทักษะ องค์ความรู้ ความสามารถที่จำเป็น เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงของสภาวการณ์ปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัล และสอดคล้องกับภูมิปัญญา ทุนทางวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ ให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเศรษฐกิจในพื้นที่เป้าหมาย ผ่านการอบรมที่มุ่งเน้นในสาขาและประเด็นที่สอดรับกับการพัฒนาในเชิงพื้นที่ โดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดอบรมหลักสูตร “กลยุทธ์พิชิตตลาดวิถีใหม่ ใส่ใจลูกค้า เพิ่มมูลค่า สินค้าขายดี” ให้ความรู้เกี่ยวกับในการเพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชน การสร้างทัศนคติต่อสินค้า ต่อลูกค้า และต่อตนเอง การปรับตัวในการขายในยุคการเปลี่ยนแปลง การสร้างยอดขายด้วย Sales Pipeline การสร้างแบรนด์และจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ให้เป็นเอกลักษณ์ โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 42 ราย สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้กว่า 849,000 บาท

=2.การให้คำปรึกษาแนะนำ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการธุรกิจทั้งห่วงโซ่อุปทาน เช่น การจัดทำแผนธุรกิจ การปรับปรุงกระบวนการผลิต การสร้างมาตรฐาน การวางแผน การตลาด ด้วยความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล ที่สอดคล้องแนวทางการพัฒนาและกับศักยภาพของอุตสาหกรรมเศรษฐกิจในพื้นที่เป้าหมาย โดยให้คำปรึกษาแนะนำวิสาหกิจ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ โดยมีผู้เข้าร่วม 72 กิจการ สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้กว่า 239 ล้านบาท และสร้างรายได้ได้กว่า 86 ล้านบาท

= รวมถึงเดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักรและเทคโนโลยีที่เหมาะสมเข้ามาช่วย ลดการสูญเสียระยะเวลาในการผลิต และสามารถลดการใช้พลังงานทุ่นแรงในการยกปี๊บเทวัตถุดิบ จากเดิมใช้ระยะเวลาเฉลี่ย 6-7 ชั่วโมงต่อวัน ลดเหลือเฉลี่ย 4-5 ชั่วโมงต่อวัน ลดอัตราการลาออกของพนักงงาน และสามารถผลิตสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นกว่า 76 ล้านบาทต่อปี เพิ่มขึ้น 22.22% ต่อปี และสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 132 ล้านบาทต่อปี เพิ่มขึ้น 40% ต่อปี

=3.การพัฒนาต้นแบบผลิตภัณฑ์ หรือต้นแบบวัสดุอุตสาหกรรมของสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมศักยภาพในพื้นที่ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมให้เข้าสู่เศรษฐกิจวิถีใหม่ผ่านผู้เชี่ยวชาญ โดยมีผลิตภัณฑ์ได้รับการพัฒนา 55 ผลิตภัณฑ์ สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้กว่า 23 ล้านบาท และสร้างรายได้ได้กว่า 8 ล้านบาท

=อย่างไรก็ตาม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมยังย้ำว่า ทั้งหมดเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้มีความรู้และทักษะในการประกอบการเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงสู่เศรษฐกิจวิถีใหม่ ยกระดับอุตสาหกรรมเศรษฐกิจในพื้นที่ ด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจ นวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัล และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการและบรรจุภัณฑ์ให้เกิดมูลค่าเพิ่มสอดคล้องกับความต้องการของตลาดโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม.

 

 

ณัฐวัฒน์ หาญกล้า

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เศรษฐกิจปี68เติบโตไม่ง่าย ลลิตเทพ ทรัพย์เมือง

สำนักวิจัยหลากหลายสำนัก ฟันธงไปในทิศทางเดียวกันว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 นี้ยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน และการเติบโตที่เป็นไปได้มากที่สุดก็อยู่ระดับ 2.7-2.9% ซึ่งน้อยกว่าที่รัฐบาลมีการวางแผนเอาไว้ว่าจะผลักดันจีดีพีไทยปีนี้โตถึง 3%

ปี68สินเชื่อระบบแบงก์ไทยหืดจับ

ปี 2568 ยังเป็นอีกปีที่ต้องจับตากับทิศทางของเศรษฐกิจไทย เพราะยังมีปัจจัยหลายอย่าง ทั้งบวกและลบ ที่จะเข้ามามีผลกับภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสถานการณ์กดดันจากปัญหาหนี้ครัวเรือน

แผนดัน ‘เกษตรครบวงจร’

อุตสาหกรรมเกษตร เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย และที่ผ่านมาเศรษฐกิจถูกขับเคลื่อนไปได้ด้วยสินค้าเกษตร แต่ก็มีบางช่วงที่ติดขัดและไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ จากปัจจัยกระทบต่างๆ

เคาต์ดาวน์ปลอดภัยส่งท้ายปี

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข เป็นวาระแห่งการเริ่มต้นใหม่ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและความหวัง โดยในปีนี้สถานที่จัดงาน Countdown ทั่วประเทศไทยหลายหน่วยงานได้เตรียมกิจกรรมไว้ให้ทุกคนได้ร่วมสนุกและสัมผัสความงดงาม

แชร์มุมมอง‘อินฟลูเอนเซอร์’ในตลาดอาเซียน

การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ถือได้ว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนาน แต่กลยุทธ์การทำการตลาดของแต่ละแบรนด์นั้นล้วนแตกต่างกันไป ล่าสุด วีโร่ ได้เปิดตัวเอกสารไวต์เปเปอร์ฉบับใหม่ในหัวข้อ “ผลกระทบ

ของขวัญรัฐบาล

อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะเข้าสู่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่แล้ว ก็เป็นธรรมเนียมของรัฐบาลและ ครม.ที่จะมีมาตรการเป็นของขวัญมอบให้กับประชาชน ซึ่งการประชุม ครม.ล่าสุดเริ่มมีการเคาะมาตรการต่างๆ ออกมาช่วยเหลือประชาชนกันแล้ว